บทที่9.ทางสองแพร่งที่เจ็บพอๆ กัน
นาฬิกาเรือนเล็กที่ข้อมือ บอกเวลาเที่ยงตรงเสมอ ฉันถอนใจแรงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะลากยาวจนเลยเวลา เข็มยาวผ่านเลขสิบสองมาสิบห้านาทีแล้ว เป็นเช้าวันใหม่ที่ใจฉันยังคงรู้สึกหดหู่เช่นเดิม
และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันถูกทิ้งเลย ฉันเศร้าเพราะอะไรมีแค่ตัวเองที่รู้
“วิท มาคนเดียวเหรอ ให้ผมไปส่งไหม?” เสียงคุ้นหู ไม่ต้องมองก็แน่ใจว่าใครที่ทัก
“มากับฐาน่ะ พิทเพิ่งมาเหรอไง” ฉันตอบปั้นยิ้มให้สีหน้าสดใสขึ้น
“ยัยนั่นทิ้งวิทไปกับผู้ชายอีกแล้วสินะ สันดานไม่เคยเปลี่ยนเลย วิท
ทนคบได้ไงไม่รู้”
ฉันฉุนจนเลือดขึ้นหน้า ผู้ชายแบบไหนนะที่นินทาผู้หญิงลับหลัง
หลังจากเลิกรากันไป ฉันเลยได้เห็นสันดานของคนตรงหน้าหลายอย่างฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะหยาบคายแบบนี้จริงๆ
“พิท...นั่นมันเรื่องส่วนตัวของฐานะ พิทไม่มีสิทธิว่าเพื่อนวิทแบบนี้”
ฉันเตือนเขาด้วยคำพูด หากเขาไม่หยุด ฉันตั้งใจว่าจากนี้ไป แม้แต่ความเป็นเพื่อนฉันก็คงไม่เหลือไว้ให้เขา
“พิทเตือนเพราะหวังดีนะ เพื่อนแบบนี้ คบไปก็มีแต่เสื่อม” สายตาและการมองของเขาทำให้ฉันสุดทน
“นั่นมันก็เรื่องของฉันค่ะ” คงเป็นครั้งแรกมั้งที่ฉันแสดงความไม่พอใจออกมา พิทยุตม์เลยดูงงๆ
“พิทเป็นคนอื่นแล้วนี่นะ พิทเตือนอะไรวิทคงไม่เชื่อ”
“ขอบคุณค่ะ เก็บความห่วงของคุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการ”
“วิทโกรธผมเหรอ”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้โกรธ ฉันแค่คิดได้ว่าคนที่ฉันควรแคร์ไม่ใช่คุณ”
“วิท...ฟังผมนะ” พิทยุตม์ฉวยมือฉันไปจับ ฉันพยายามขืนตัวและบิดข้อมือแรงๆ
“ผู้หญิงอย่างฐานิฏฐ์จะพลอยทำให้วิทถูกมองไม่ดีไปด้วย วิทก็รู้ว่าแม่นั่นหยำฉ่าแค่ไหน”
ฉันโกรธจัดจนลมในหูลั่น กำลังจะอ้าปากด่า แต่แล้วฉันก็ได้แต่ยืนตาค้าง จู่ๆ ใครก็ไม่รู้กระชากฉันออกจากการเกาะกุม ตามด้วยเสียงดังตั๊บ!! กับเหตุการณ์ชุลมุนที่ฉันทำอะไรไม่ทัน ทำได้แค่ยืนมอง
ฉันเลือกจะช่วยใครดีล่ะ....
ผู้ชายปากเสียที่ทำให้ต่อมโกรธฉันกระตุก กำลังถูกผู้ชายอีกคนที่ปากเสียไม่แพ้กันซัดด้วยกำปั้น เขาโผล่มาจากไหนนะ? ฉันถามตัวเองในใจ และยืนมองภาพชุลมุนนั่น พร้อมกับถอนใจแรงๆ
ชีวิตคนปกติแบบฉัน คงสิ้นสุดลงแล้วสินะ...
“คุณยช ผมเองครับ ผมเองพิทยุตม์” พิทยุตม์ส่งเสียงลั่น หลังจากเห็นชัดๆ ว่าคนที่กำลังกระหน่ำซัดตัวเองคือใคร
ผมหยุดชก ยืดตัวลุกขึ้นยืน ยกมือปัดเศษหญ้าที่ติดอยู่ที่บ่าซ้าย และมองผู้ชายคนนั้นตาขวาง ผมมาทันเห็นเหตุการณ์ที่ทำให้สติหลุดเข้าพอดี วิทวลาถูกชายผู้นี้คุกคาม และเขากำลังบีบบังคับเธอ ผมโกรธจนหูอื้อ คิดอะไรไม่ทัน ร่างกายผมเคลื่อนที่อัตโนมัติ กว่าจะดึงสติกลับมาได้ ชายผู้นี้ก็อาการย่ำแย่แล้ว
“คุณยชเข้าใจผมผิดแล้วครับ ผมกับวิทกำลังปรับความเข้าใจกันอยู่” ผมชำเลืองมองเธอ หญิงผู้นั้นยืนอยู่ไม่ไกล แต่กลับวางท่าเปิ่นชาใส่ผม
“คุณเป็นอะไรกับเธอล่ะ” ผมคาดคั้น
ผู้ชายตรงหน้าผมอึกอักเล็กน้อย ผมหรี่เปลือกตาลง ผมคุ้นหน้าไอ้หมอนี่พิกล ผมถึงบางอ้อตอนที่เขาพูดคำต่อมานั่นเอง “ผมกับวิททำงานที่...ที่คุณยชเพิ่งเทคโอเวอร์มาไงครับ”
“ฉันนึกออกแล้ว นายเดินตามคุณบัวต้อยๆ มิน่า ถึงคุ้นๆ”
“ใช่แล้วครับ ผมเป็นผู้ช่วยคุณบัว”
“อ้อ...แล้วเกี่ยวกับเธอตรงไหนล่ะ” ผมถามต่อ
“ผมกับวิทเป็นแฟนกันครับ” ผมเกือบกระชากไอ้หมอนี่มาถลุงอีกสักรอบแล้ว พอดีเสียงแข็งๆ ของเธอพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน ผมเลยลดท่าทางดุดันลง
“ตกคำว่าอดีตค่ะคุณพิทยุชม์ คุณกับฉันเลิกกันแล้ว”
ผมพอรู้แล้วล่ะ สาเหตุที่ทำให้เธอเยี่ยมกรายมาในสถานที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เหมาะกับที่แห่งนี้เลย
“พอดีฉันมันสุภาพบุรุษ ไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก ขอโทษแล้วกันนะ”
ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อปฏิกิริยาตอบกลับของเธอเป็นไปตามคาด เธอจงใจเบ้ปากให้ผมเห็น หลังผมพูดกับไอ้หมอนั่น เธอคงกำลังด่าผมอยู่ในใจแล้วก็ได้
พอเธอหมุนตัวทำท่าจะเดินหนี ผมก็หมดความสนใจไอ้หมอนั่น วิ่งเหยาะๆ ตามเธอไปติดๆ
“จะไปไหนล่ะ ให้ฉันไปส่งไหม”