บท
ตั้งค่า

บทที่ 4.1 แล้วนางจะคู่กับใคร

การที่จู่ๆ ก็มาโผล่ในสมัยโบราณเหมือนนิยาย นางรู้ดีว่าต่อไปเรื่องการแต่งงานต้องยกให้บิดามารดาเป็นผู้จัดการ ทว่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุและผล ดังนั้นความฝันประหลาดที่มักจะมาเยือนบ่อยครั้งนั้นคงเป็นลางบอกเหตุ เนื้อคู่ของตนคงไม่พ้นแม่ทัพรูปงามเป็นแน่แท้

แต่อุปสรรคที่สำคัญคือฐานะบุตรสาวของฮูหยินรอง ยากนักที่จะสามารถแต่งออกไปเป็นฮูหยินเอก นอกจากจะเลือกแต่งกับคนธรรมดาทั่วไปหรือขุนนางยศต่ำ ซึ่งแน่นอนว่าบิดาผู้เห็นหน้าที่การงานเป็นสำคัญคงมิยินยอม ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเรื่องการแบ่งชนชั้นของสังคม ความแตกต่างระหว่างชายหญิง

เอาละๆ ในเมื่อแก้ที่คนอื่นไม่ได้ ก็คงต้องแก้ที่ตัวเองก่อน

ตัดเรื่องหน้าตามาพูดเรื่องความสามารถ ฉินฉีซูฮว่า10 ร่างนี้ล้วนไม่รอดสักทาง ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นับว่าธรรมดาสามัญยิ่ง ดีดพิณได้แต่ไม่ไพเราะจับใจ เดินหมากพอกล้อมแกล้มฆ่าเวลา แต่ไม่อาจเอาชนะผู้ใดได้ การเขียนอักษรนับว่าเลวร้ายที่สุด ตัวอักษรบิดเบี้ยวคดเลี้ยวเสียยิ่งกว่าไส้เดือนโดนน้ำร้อน เช่นนั้นก็อย่าได้ถามถึงการวาดภาพ คงอเนจอนาถมิต่างกัน

แน่นอนว่า ทว่าเกิดใหม่ทั้งทีแต่ชีวิตกลับไม่มีสิ่งดีๆ ที่จะใช้มัดใจท่านแม่ทัพได้สักอย่าง

ช่างนาถใจโดยแท้

นั่งคิดนอนคิดอยู่หลายวัน สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปง่ายๆ จับไม่ได้ก็ใช้เงินซื้อสามีเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า เวลาที่ผู้หญิงสวยที่สุดนั้นไม่ใช่ยามพวกเธอมีความรัก แต่คือยามที่พวกเธอมีเงินต่างหาก

พอตัดสินใจได้ แผนการต่างๆ ก็ร้อยเรียงขึ้นมาในหัวเป็นเรื่องเป็นราว ขั้นแรกคือต้องมีเงินก่อน โชคดีที่ตระกูลฝั่งมารดาของร่างนี้ร่ำรวย แต่ทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของผู้ใดยังไม่กระจ่างชัด เห็นทีคงต้องเริ่มเรียนเรื่องบัญชีและการเงิน ฝึกหัดเรื่องการตลาดใหม่อีกครั้ง แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกินแรง แต่กลับสามารถรับประกันทุกอย่างได้ดี มีเงินอยู่ในมือ จะใช้ผีโม่แป้ง11 ก็ยังได้ แล้วท่านแม่ทัพจะหนีไปไหนพ้น หึๆ

จะสวยก็ต้องรวยก่อน ในเมื่อหน้าตาไม่ดีอย่างใครเขา อันดับแรกคือต้องเอาเงินเข้าสู้

รวยแล้วจะสวยเอง เมื่อมีเงิน... ไม่ว่าหมอเกาหลีหรือยันฮีจะหนีไปไหน ขั้นตอนต่อไปคงต้องหาหมอเก่งๆ สักคน เพราะนอกจากจะต้องศัลยกรรม ยังต้องให้เขาสอนฝังเข็มจี้จุด ใช่... สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องจี้จุดให้เป็น จะปีนขึ้นเตียงท่านแม่ทัพโดยไม่โดนสันมือฟาดคอถีบตกเตียงลงมา ก่อนอื่นนั้นต้องจี้จุดให้เป็น ถือเป็นความสามารถอันโดดเด่นที่ต้องมี

สรุปแผนการคร่าวๆ ได้ดังนี้ สิ่งจำเป็นที่สุดก็คือเงิน นอกจากจะใช้เป็นสินสอดสู่ขอท่านแม่ทัพ ยังต้องเผื่อไว้เลี้ยงปากท้องหากพลั้งเผลอขึ้นคานอย่างชาติที่แล้วอีก

น้ำตาที่หยุดไหลไปเมื่อหลายวันก่อนแทบอาบแก้มเมื่อนึกถึงความลำบากในหนทางข้างหน้า

ทว่าเรื่องผู้ชายยังรอได้ แต่การเอาชีวิตรอดในตอนนี้นั้นสำคัญว่า คุณหนูรองตกน้ำวิญญาณหลุดออกจากร่างได้ คุณหนูสามก็อาจจะเป็นได้เหมือนกัน แล้วหากมีวิญญาณวีรสตรีสักคนเข้าสิงร่างนั้น ตายๆ นางตายแน่ๆ ในเมื่อตัวเองยังหลุดโลกข้ามมิติมาได้ ไฉนผู้อื่นจะตามมาไม่ได้เล่า หากเกิดเรื่องเช่นว่า วันนั้นน้องสาวจริงๆ ของร่างนี้ตายไปพร้อมกันแล้วมีแพทย์หญิง นักฆ่า หรือดารานางร้ายมาสิงร่างนั้น นับว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือจะกล่าว แม้ไม่อาจผูกมิตรกับอีกฝ่ายได้ อย่างไรก็ต้องไปขอโทษ ขออโหสิกรรมเรื่องที่เคยทำร้ายๆ มาทั้งหมด ด้วยกลัวว่าวันดีคืนดีอีกฝ่ายนึกคึกคิดแก้แค้นขึ้นมา...

ชีวิตที่เพิ่งเก็บมาได้จะกลายเป็นตัวประกอบสามบรรทัดที่เกิดมาแล้วก็ตายทันทีแน่

ความทรงจำในร่างเดิมที่เลือนรางช่วยนำทางจวงอวี้หลินไปท้ายจวน เรือนเล็กๆ ตั้งอยู่ภายใต้ร่มเงา แม้จะค่อนข้างเก่า แต่ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่าเรือนนี้มีบรรยากาศร่มรื่นงดงาม เหมาะสมกับเป็นเรือนของนางเอกเสียจริง หญิงสาวก้าวไปหยุดยืนอยู่หน้าประตู บ่าวข้างกายทำหน้าที่แจ้งคนในเรือน เพียงครู่ก็มีสาวใช้คนหนึ่งรีบเร่งเดินออกมา ยามเห็นหน้านาง อีกฝ่ายถึงกับตกใจผงะถอยหนี

นี่นางเอกค่ะ... ไม่ใช่ผี! ไม่ต้องตกใจขนาดนี้ก็ได้

“ข้ามาเยี่ยมน้องสาม” คุณหนูรองเอ่ยง่ายๆ ขณะอีกฝ่ายมีท่าทางลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“เอ่อ... คุณหนูยัง...”

“ข้ารบกวนไม่นาน” ไม่รู้ว่ากล่าวตรงไปตรงมาแบบนี้จะดูวางอำนาจบาตรใหญ่เกินไปหรือไม่ แต่จะให้ใช้คำพูดอ้อมค้อมก็ออกจะไม่คุ้นปาก

“ตะ...แต่ว่า” บ่าวรับใช้ทำสีหน้าลังเลเสียงหวานใสด้านในพลันขัดขึ้นเสียก่อน

“เชิญพี่รองเจ้าค่ะ ฉุ่ยซุ่นอย่าเสียมารยาท” เสียงหวานใสด้านในพลันขัดขึ้นเสียก่อน

จวงอวี้หลินเดินตามสาวใช้เข้าไปด้านใน ตัวเรือนมีขนาดพอดี มิกว้างหรือแคบเกินไป เครื่องเรือนน้อยชิ้น แต่ทุกชิ้นกลับได้รับการดูแลอย่างใส่ใจ จัดวางเข้าคู่กัน บ่งบอกรสนิยมของเจ้าของได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะฉากกั้นลวดลายดอกมู่ตานนั้น ฝีมือการปักนับว่าประณีตงดงาม คาดว่าน้องสาวคนเล็กของนางคงเก็บงำความสามารถเอาไว้ไม่น้อย

ร่างบางตรงหน้าแลดูคล้ายฉูจู๋ร์ฮวา12 ทั้งบริสุทธิ์น่าทะนุถนอมและน่ารักสมวัย ราวกับดอกไม้งามแรกแย้ม อือ... หากเป็นยุคสมัยที่นางจากมา อายุสิบสองสิบสามนี่คงจะเพิ่งจบชั้นประถม ทำไมพอมาในยุคนี้ถึงได้ดูโตเป็นสาวแล้วเล่า หรือว่าน้ำกับดินต่างกันก็สามารถให้ผลผลิตที่เลิศล้ำกว่าได้

เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะย่อกาย คนเป็นพี่สาวจึงรีบขยับเข้าไปประคอง

“เจ้าเพิ่งหายป่วย เราเป็นพี่น้องไยต้องมากพิธี” น้ำเสียงของนางเจือแววเอ็นดูอยู่หลายส่วน แต่คล้ายกับอีกฝ่ายไม่คุ้นชิน ถึงขนาดเนื้อตัวแข็งค้าง เผลอจ้องมองนางอย่างตกตะลึง

อือ... แม้จะดูฉลาดเฉลียว ทว่าอย่างไรก็ยังเป็นเด็ก บางกิริยาอาจจะยังซ่อนได้ไม่มิด

จวงอวี้หลินสำรวจใบหน้างามอีกครั้งพลางสะอื้นไห้ในอก งดงามเช่นนี้ สวรรค์! ท่านช่างลำเอียงจนน่าชัง!

“นั่งลงเถิด ข้าคงรบกวนเวลาเจ้าไม่นาน”

น้องสาวยังพอรู้ธรรมเนียม รีบเอ่ยบอกบ่าวไพร่รินน้ำชาให้

“ตอนนี้ในเรือนมีแต่ชาโม่ลี่ฮวา13 เท่านั้น หวังว่าพี่รองจะไม่นึกรังเกียจ” เด็กสาวเอ่ยพลางก้มหน้าหลุบตา คล้ายกลับคืนสู่แม่สาวดาวพระศุกร์ที่ถูกรุมรังแกอีกครั้ง

เห็นดังนั้นคนมากประสบการณ์เพียงขยับริมฝีปากยิ้ม... เด็กคนนี้รู้จักเก็บอารมณ์ ซ่อนคมไว้ในฝัก

“ข้าเองก็มิได้สันทัดเรื่องชา” พี่สาวยกถ้วยชาขึ้นเป่า

“มิทราบว่าพี่รองมาในวันนี้มีสิ่งใดให้น้องสาวรับใช้หรือไม่เจ้าคะ” คนพูดยังคงก้มหน้าคล้ายกับไม่กล้าสบตา

“เจ้าเพิ่งหายไข้ ข้าจะหาเรื่องรบกวนเจ้าได้อย่างไร ที่มานี้ก็เพียงแต่จะมาขอโทษเท่านั้น” นางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ แตกต่างจากเด็กสาวอีกคนที่ถึงกับเผลอเงยหน้ามองด้วยความตกใจ

“พะ...พี่รองหมายถึงเรื่องใดกันเจ้าคะ”

“ทุกเรื่อง ข้ามาขอโทษเจ้าในทุกเรื่องที่เคยทำผิดไว้ เจ้าจะให้อภัยพี่สาวคนนี้ได้หรือไม่”

“ข้า...ข้า... พี่รอง”

“เมื่อก่อนข้ายังเด็กนัก ผู้ใดพูดข้าก็เชื่อ พี่หญิงใหญ่บอกสิ่งใดข้าก็ฟัง” นางรีบโยนความผิดทั้งหมดใส่หัวนางร้ายโดยไร้ซึ่งความละอาย “เอาแต่กลั่นแกล้งเจ้าเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสนุก ทำให้เจ้าลำบากมาหลายปี ตัวข้านี้ช่างไม่ได้ความ ขอเจ้าโปรดรับการขอขมาจากพี่รองด้วยเถอะ”

นางขยับตัวลุกขึ้น จากนั้นจึงย่อเข่าลงอย่างจริงใจ ทว่าอีกฝ่ายรีบเข้ามาประคอง

“พี่รองอย่าทำเช่นนี้ ผู้อื่นจะตำหนิติเตียนข้าได้” เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มจัด แววตามีประกายโกรธขึ้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel