บท
ตั้งค่า

บทที่ 1.1 บาลานซ์มากค่า

เฮือก!

“โอ๊ยๆ” เสียงร้องโอดโอยดังตามเสียงโครมมาทันที ก่อนจะมีเสียงหัวเราะแทรกขึ้นพร้อมฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นมาช่วยฉุดร่างมหึมาของเจ้ขาใหญ่แต่รากฐานไม่มั่นคงจนล้มลงไปกลิ้งบนพื้น

“เจ้! ความสามารถระดับสุดอะ ขนาดคีย์โอทียังงีบหลับ ระดับหัวหน้าแผนกคนเก่าๆ เทียบไม่ได้ ตําแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ตํานานอยู่ตลอดไปของจริง ว่าแต่เมื่อกี้เจ้ฝันเรื่องอะไร กรีดร้องซะผมขนลุกขนพอง” เด็กหนุ่มไอทียื่นแขนออกมาประกอบท่าทาง

ลัลลินีนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงช้าๆ เป็นอีกครั้งที่เธอไม่สามารถแก้ไขตอนจบของเรื่องราวในฝัน ทำไมคนหล่อ เอ๊ย! คนดีต้องมารับเคราะห์กรรมด้วยนะ

‘สงสัยช่วงนี้จะติดซีรีส์ดราม่ามากไป ถึงได้ฝันร้ายซ้ำๆ’

“สรุปเจ้ฝันถึงเลขเด็ดไหม เนี่ย... ร้องซะดัง เลขต้องโดนชัวร์ๆ”

“ไม่ใช่ย่ะ... เจ้แค่ฝันเห็นแม่ทัพโดนแทงข้างหลัง” เจ้ใหญ่ตอบปัดๆ ทว่ามือยังไม่หยุดทำงาน

“เฮ้ย” เด็กหนุ่มไอทีร้องเสียงดัง ก่อนจะเยี่ยมหน้าทะเล้นเข้ามาใกล้ “แม่ทัพของเจ้เป็นฝ่ายรับเหรอ ปกติคนเป็นแม่ทัพเขาต้องรุกสิเจ้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นรับ แต่เอ่อ... เวลาไปฟิตเนส เห็นพวกหุ่นล้ำบึ้กก้ามปูทั้งหลาย ผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อหรอกว่าจะเป็นรับ ถ้าเพื่อนไม่บอก”

“เดี๋ยวๆ รับรุกอะไรของแกวะ” เจ้ใหญ่ย่นคิ้วไม่เข้าใจ

“โอ๊ยเจ้ เสียประวัติสาววายชะมัด ปกติเห็นวิ่งตามติ่งทุกวันหยุด พอมีอีเวนต์เป็นต้องรีบสนับสนุนเพราะถือคติอะไรนะ... เราอดได้แต่ผู้ชายต้องอิ่ม!”

“ย่ะ” เจ้ใหญ่ย่นจมูกขณะเอื้อมมือไปจัดรูปคู่ชิป3 คู่ใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มตามช่วงนี้ ก่อนจะหันไปอธิบายให้เด็กหนุ่มที่นั่งข้างกันฟัง “ที่ฉันพูดว่าแทงน่ะ หมายถึงแทง... เอ่อ ฉันหมายถึงโดนมีดปักหลังน่ะ” เธอทำท่าประกอบ “ไม่ใช่โดนฟันในความหมายนั้นย่ะ แต่พูดไปพูดมาก็น่าจิ้นเหมือนกันนะ ถ้าแม่ทัพสรรค์คนนั้นเป็นเคะ4 แม่ทัพปีศาจท่าทางหื่นกระหายก็น่าจะเป็นเมะ5”

“ดูท่าจะอาการหนักจริงอะเจ้ ติดซีรีส์วายจนตาโหลตีนกาขึ้นแล้ว เอ๊ะ หรือว่าทำงานหนักไปปะเนี่ย เป็นเจ้นี่เหนื่อยเนาะ” รุ่นน้องไม่ได้สนใจเนื้อหาและท่าทางประกอบเมื่อเห็นใบหน้าอิดโรยของเจ้ใหญ่ใกล้ๆ “ผมว่าวันนี้เจ้ดูเพลียๆ นะ เมื่อวานวันอาทิตย์ ปกติถ้าเจ้ไม่ตามติ่งก็น่าจะนอนอืดอยู่บ้านนี่”

ลัลลินีปรายตามองเด็กหนุ่มข้างๆ ที่รู้เรื่องชาวบ้านดีกว่าเรื่องของตัวเองเสมอ เอ่อ... เธอยอมรับก็ได้ว่าสาวโสดวัยสามสิบ ชีวิตวันหยุดมันก็ต้องนอนเกาตูดดูซีรีส์อ่านนิยายวายอยู่กับบ้าน แต่เมื่อวานเป็นวันพิเศษซึ่งเธอคงไม่มีทางลืมเลือนไปชั่วชีวิต เพราะเป็นวันที่เธอเกือบจะได้เจอคู่แท้ที่สวรรค์สร้าง ฟ้าประทานมาให้

แต่ก็ได้แค่... เกือบนั่นแหละ

“อือ เพลียๆ วันก่อนไปโรงพยาบาลมา นี่หน้าฉันซีดมากเหรอ” คนไม่ค่อยใส่ใจตัวเองดึงกระจกใต้โต๊ะออกมาส่องซ้ายทีขวาที ถึงหน้าตาไม่จัดว่าดีมาก แต่แก้มก็ยังมีสีเลือดฝาดจากบลัชออนให้พอกล้อมแกล้มกับสองตาเรียวรีที่บัดนี้มีเส้นหนาของอายไลเนอร์กรีดทับ

“อ้าว... ป่วยก็ลาดิเจ้ นี่ตั้งใจจะเอาโล่คนดีศรีออฟฟิศรึไง”

คนโดนประชดกัดริมฝีปากแน่น ใครจะอยากได้ชามข้าวหมา เออ... นั่นแหละ เขาเรียกว่าอะไรนะ อ้อ... ถ้วยประกาศเกียรติคุณมาวางให้รกบ้าน หากลาแล้วไม่โดนหักเงิน ป่านนี้ร่างพังๆ ของเธอคงนอนแหม็บอยู่บนที่นอน ไม่มีทางยอมฝืนสังขารลากกายหยาบมาถึงที่ทำงานแน่ๆ

ช่างเถอะ บ่นไปก็เท่านั้น รีบปั่นงานจะได้รีบกลับบ้านไปพักกับเหล่าพระเอกในซีรีส์

ลัลลินีเงยหน้ามองก้อนเมฆสีดำทะมึน ท้องฟ้ามืด มีเพียงสายฟ้าแลบแปลบปลาบ เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ร่างกายปวดเมื่อย สมองเหนื่อยล้าราวกับเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเริ่มเข้าสัปดาห์ใหม่ ร่างสูงเกินสตรีไทยไปไกลโขกระชับสายกระเป๋าเตรียมออกวิ่งไปยังป้ายรถประจำทางเมื่อนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง หากเป็นคนอื่นคงจะไม่เหลือแรงไว้วิ่งแล้วถ้าต้องผจญศึกมาทั้งวัน มีผู้หญิงวัยสามสิบคนไหนในโลกบ้างนะจะเหน็ดเหนื่อยเช่นที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้

เมื่อบิดาผู้เป็นเสาหลักของบ้านมาด่วนจากไป ลัลลินีจึงต้องเรียนไปทำงานไปด้วยตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย เพราะลำพังรายได้ขายข้าวแกงของมารดาก็แทบจะไม่พอเลี้ยงปากท้อง ไหนจะต้องหาค่าเล่าเรียนส่งน้องชายอีก จบมาทำงานก็รับตำแหน่งพนักงานบุคคล ทำได้ที่ละสองสามปีพอมีประสบการณ์ก็ย้ายบริษัทเพื่ออัปเงินเดือน จนมาถึงบริษัทสุดท้ายนี้ที่เธอโดนหลอก!

คนสัมภาษณ์เธอคืออดีตหัวหน้าฝ่ายบุคคล เธอยังจำคำพูดในวันนั้นได้ดี...

“ที่นี่กำลังจะขยายแผนกฝ่ายบุคคล พี่อยากให้น้องมาทำงานด้วยจริงๆ ค่ะ มาร่วมสร้างทีมด้วยกันกับพี่นะคะ แผนกเราไม่มีโอทีเพราะเราทำงานตามสโลแกน Work-Life Balance หมดเวลางานแล้วก็ควรจะได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว”

ค่า... ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยได้กลับก่อนสองทุ่มเลยสักครั้ง แถมเข้ามาไม่ถึงเดือน หัวหน้าคนเก่าก็ชิงลาออกทันที ไหนคะพี่... ทีมที่เราจะสร้างด้วยกัน รับหนูเข้ามาเป็นทายาทอสูร แล้วพี่ก็เปิดตูดไปเลยนะคะ

เยี่ยมจริงๆ... คุณหลอกดาว!

แต่ยามที่น้องชายซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนต้องการใช้เงินเป็นจำนวนมาก เธอเองก็ผิด ไม่ทันดูหน้าดูหลังให้ดีก็ตกปากรับงาน ใครจะไปคิดว่าทั้งฝ่ายบุคคลจะเหลือเธอทำงานแค่คนเดียว แค่นี้ก็ช็อกจนแทบจะสลบหงายหลัง แถมงานจิปาถะก็ประดังประเดเข้ามา ทั้งงานบุคคลและงานจัดการทั่วไปซึ่งไม่มีใครจัดการได้ก็ล้วนร่วงใส่หัวทำเอาเธอแทบไม่ได้ลืมตาอ้าปาก ตอนกลางวันต้องฝากแม่บ้านซื้อข้าวราดแกง นั่งกินไปทำงานไป ตอนเย็นนั่งกินมาม่าเฝ้าจอคอมพิวเตอร์ ทุกแผนกมีโอทีกันถ้วนหน้ายกเว้นแผนกของเธอ ทำงานหามรุ่งหามค่ำยังไม่ได้เงินเพิ่มสักบาท ขอนายเพิ่มคนก็ถูกเมินแล้วเมินอีก เหนื่อยสายตัวแทบขาดจนอยากจะฆ่าตัวตายด้วยการปีนขึ้นไปบนกองงานแล้วกระโดดลงมาบนฐานเงินเดือน ช่องว่างที่ห่างกันขนาดนี้คงพอจะทำให้ร่างของเธอแหลกสลายกลายเป็นผุยผง

“สวรรค์!” ลัลลินีเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางป้องปาก “ทำไมถึงใจร้ายกับคนสวยขนาดนี้...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel