หลงเสน่ห์จอมทมิฬ บทที่1.ถ้าฉันเลือกได้....
ฉันมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยดวงตาลอยเคว้งคว้าง คนมากมายเข้ามารุมล้อม แต่ละคนเหมือนอยู่คนละโลกกับฉัน ทุกคนแต่งตัวดี ราศีความร่ำรวยจับทุกอณู คนเหล่านี้มีกลิ่นตัวหอมเหมือนนอนอยู่กลางทุ่งดอกไม้ ฉันกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ มองสบนัยน์ตาสีสนิมที่ก้มลงมามองใกล้ ชายผู้นั้นยิ้มให้ แต่ฉันกลัวจนตัวสั่น ฉันไม่เคยพูดกับฝรั่งสักที ฉันไม่น่าจะพูดกับเขารู้เรื่อง ฉันขยับตัวด้วยความอึดอัด ยัดนิ้วใส่ปากแม้มือของฉันจะเต็มไปด้วยคราบฝุ่นและแผลถลอก
“อย่าทำแบบนั้นสิ แผลจะสกปรก” ฉันถอนใจพรวด ฝรั่งร่างใหญ่ตรงหน้าพูดภาษาเดียวกับฉัน ฉันชักนิ้วออกจากปาก ยิ้มกร่อยๆ ให้เขาแทน
“ลองลุกขึ้นสิ บาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า” ท่าทางเขาไม่ได้น่ากลัวเหมือนคำลือ ฉันทรงตัวลุกขึ้นยืนช้าๆ “อูยยยย” มันเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวเข่า คงกระแทกช่วงที่ฉันถลาล้มนั่นเอง
“คุณตกลงกับเด็กนั่นนะ อรจะพามิเลี่ยนไปโรงพยาบาล” สายตาขุ่นขวางตวัดมองผ่านฉันชั่วแว๊บ
“อืม...” ฉันเตรียมจะเดินหนี เมื่อรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนที่ออกไปจากจุดนั้น ความวุ่นวายหายไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสงบลง
“เด็กนี่มาจากไหน พวกคุณรู้จักบ้างไหม?” ชายผู้นั้นหันไปถามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
“คงเด็กที่อาศัยอยู่ที่สลัมด้านข้างหมู่บ้านแหละครับ คงรอดสายตายามเข้ามา” มีเสียงถอนใจดังๆ “ท่านไม่ต้องสนใจหรอกครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”
“ฉันไม่อยากมีปัญหา ฉันจัดการเองดีกว่า”
เขามองฉันพร้อมกับสีหน้าที่อ่อนลง “ไงอยากไปหาหมอไหมล่ะ ฉันจะพาไป” เขาฉันแต่ฉันส่ายหน้า ฉันหายมานานแล้ว และหากฉันยังไม่ไปหาแม่ตอนนี้ วันนี้ฉันคงถูกแม่ตี
“แต่เราบาดเจ็บนะ”
เขาแย้ง “ไม่เป็นไรค่ะ หนูเดินไม่ดูทางเอง แผลถลอกแค่นี้หนูไม่เป็นไรเลย” ฉันพยายามฝืนยิ้มให้ ฉันคงต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หากแม่เห็นสภาพฉันตอนนี้คงถูกตีตั้งแต่ที่เพิงขายข้าวแกงแน่ๆ
“เอาสตางค์นี่ไปซื้อยาใส่แผลซะ ฉันจะได้สบายใจ”
ฉันอ้าปากค้าง แบงก์สีเทาในมือของชายคนนั้นทำให้ฉันตาโต กว่าแม่จะมีแบงก์สีนั้นได้ แม่ขายข้าวแกงหลายชั่วโมง ฉันส่ายหน้า ฉันบวกเลขเก่งและรู้มูลค่าแบงก์ในมือเขาดี ยาใส่แผลขวดไม่กี่สตางค์เอง
“รับไว้เถอะ เป็นเด็กห้ามปฏิเสธความหวังดีจากผู้ใหญ่สิ” เขายัดแบงก์ใส่มือฉัน แถมกำชับเสียงหนัก “มงคล พาเด็กไปซื้อยาแล้วส่งให้ถึงบ้านเลยนะ”
ฉันถอนใจ กลอกตามองบน เรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่นอน แม่ฉันจะว่าอย่างไรนะ ความจริงวันนี้ ฉันไม่น่าแอบเข้ามาในนี้เลย หากฉันเลือกได้... ฉันสาบาน ฉันจะอยู่ให้ห่างบริเวณนี้ และจะไม่เฉียดเข้ามาใกล้แถวนี้แน่ๆ
แม่คือจอมบงการตัวจริง หมอทั้งโรงพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออกห้องพักฟื้นของผม เพื่อคอยดูอาการของผมตามคำสั่งกึ่งบังคับของแม่ ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากแผลถลอกที่อุ้งมือ กับอาการเคล็ดตรงหลังต้นคอ แต่แม่ไม่ยอม ท่านสั่งให้หมอตรวจผมทั้งตัว และหากผมไม่อยากถูกกักบริเวณผมก็ต้องยอมรับการบังคับนั่นเสียด้วยดี
“ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยนะครับ” ผมพยายามแย้งแล้ว
“ลูกไม่ได้เป็นหมอนะมิเลี่ยน รอให้หมอเช็กทุกอย่างเสร็จตอนนั้นค่อยมาเถียงแม่”
“ถ้าแม่วุ่นวายแบบนี้ผมจะกลับโรม” ผมไม่ได้ขู่ ผมอยู่ที่โรมผมมีอิสระมากกว่านี้
“เราสัญญากันแล้วนี่มิเลี่ยน เราจะไม่ถกกันเรื่องนี้อีก”
แม่จ้องหน้าผม และผมรู้ดีว่าทำไมแม่ถึงไม่อยากพาผมกลับอิตาลี ผมเกิดที่โรม โตที่นั่น แต่เพราะแม่รักบ้านเกิดมาก ผมเลยพูดภาษาไทยได้เหมือนผมโตที่นี่ แม่เคี่ยวเข็ญอย่างหนัก ผมอดขอบคุณแม่ไม่ได้ ผมสื่อสารกับคนที่นี่ได้ แต่ผมไม่สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ ผมพูดได้ แต่อ่านไม่ออกนั่นเอง
“ผมไม่สนหรอกว่าดานิก้าจะมีอิทธิพลมากที่โรม หล่อนบังคับให้ผมแต่งงานด้วยไม่ได้” ผมพยายามชี้แจง แต่แม่ไม่ฟัง
“แม่มีลูกคนเดียวนะมิเลี่ยน แม่ไม่อยากเสี่ยง” ถึงพ่อผมจะไม่มีอิทธิพลเท่าครอบครัวผู้หญิงที่ผมเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่บริโอ้ก็ไม่ได้ด้อยจนต้องพากันหนี ทันทีที่ข่าวฉาวของผมดังกระฉ่อนเมือง