บทที่ 9
ทหารทุกนายได้ออกมาจากกำแพงเมืองชั้นใน มาเตรียมตัวอยู่หลังกำแพงไม้ไผ่ที่มีความสูง 4 เมตร ทหารกบฏเดินออกมาจากป่าเข้าพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งระยะพื้นที่ลานกว้างจากเขตป่าไปถึงกำแพงไม้ไผ่ มีระยะทาง 500 เมตร ทหารกบฏทั้งหมดมีอาวุธครบมือ ซึ่งทุกคนเป็นโจรภูเขาผสมกับนักโทษที่ถูกปล่อยตัว พวกมันออกจากป่าได้ก็วิ่งเข้าโจมตีทันที ซึ่งพวกมันมีจำนวนกว่า 10,000 นาย
" พลธนูเตรียมพร้อม " อิงจิ๋วยืนอยู่ด้านหน้าพลธนูที่ยืนเรียงกันถึง 10,000 นาย ยืนอยู่หลังกำแพงไม้ไผ่ง้างธนูเตรียมยิง ทหารที่ยืนอยู่บนกำแพงไม้ไผ่นั่งลงเพื่อหลบวิธิการยิง หลิวเยียนเฟิงที่ยืนอยู่บนกำแพงไม้ไผ่มองดูทหารศัตรู เมื่อเข้ระยะที่ทำการนางจึงนั่งลงแล้วส่งสัญญาณแก่อิงจิ๋ว
" ทุกนาย ยิง!!! " เมื่อสิ้นเสียงอิงจิ๋ว พลธนูยิงออกไปพร้อมกันกลายเป็นฝนธนูขนาดใหญ่ ลูกธนูลอยอยู่เต็มท้องฟ้าหล่นลงใส่ทหารกบฏ จนพวกมันล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่พวกมันก็ยังวิ่งเข้าโจมตีอย่างไม่กลัวตาย พวกมันใช้ศพของผู้ที่ถูกธนูยิงตายมาเป็นโล่กำบังแล้วเดินหน้าต่อ หลิวเยียนเฟิงเห็นอย่างนั้นจึงหันหน้ามาหาอิงจิ๋ว
" พวกมันใช้คนที่ตายมาโล่ ฝนธนูใช้การไม่ได้แล้วค่ะ " หลิวเยียนเฟิงตะโกนบอกอิงจิ๋ว เมื่ออิงจิ๋วได้ยินอย่างนั้นจึงให้พลแม่นธนูขึ้นไปอยู่บนกำแพงทันที พลแม่นธนูขึ้นไปอยู่บนกำแพงแล้วยิงไปที่จุดตายของทหารศัตรู จนทำให้พวกมันไม่สามารถเข้าใกล้วิธียิงของนักแม่นธนูได้จนต้องถอยเข้าไปในป่าทันที อิงจิ๋ววิ่งขึ้นไปดูก็เห็นศัตรูกำลังถอยหนีจึงใช้โอกาสนี้สวนกลับโดยให้หลิวเยียนเฟิงนำกำลังทหารอาสาออกติดตามแล้วทำตามแผนนั้นเอง
" ทหารอาสาทุกนาย บัดนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะสวนกลับพวกมันแล้ว พวกเจ้าทุกคนจงออกไปแล้วยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์คืนมาให้ได้ หลิวเยียนเฟิงจะเป็นแม่ทัพในการศึกครั้งนี้ ขอให้ทุกคนโชคดี " อิงจิ๋วยืนพูดอยู่บนกำแพงไม้ไผ่มองดูทหารอาสาทุกนาย แล้วหันไปหาหลิวเยียนเฟิง
" ศึกครั้งนี้ฝากไว้ที่เจ้าแล้ว.." อิงจิ๋วพูดด้วยหน้าตาที่เคร่งครึม
" ค่ะ ข้าจะทำสุดความสามารถของข้า " หลิวเยียนเฟิงพูดแล้วลงจากกำแพงเพื่อไปจัดกองทัพ
กองทัพทหารอาสา 45,000 นาย ได้ออกจากเมืองทันทีที่ได้รับคำสั่ง หลิวเยียนเฟิงนำทหารอาสาออกไปในทันที หยินซวน หยวนหวิน เจียงหลุน และเหวยซาน ยืนมองดูกองทัพของทหารอาสาเดินออกจากเมืองไปอย่างช้า จากกำแพงปูนชั้นใน
" มีแต่ชาวบ้านเช่นนั้น พวกนั้นจะเหลือรอดสักกี่คนกันนะ " เหวยซานพูด
" ข้าว่าคงไม่รอดถึงค่ายศัตรูหรอก พวกนั้นคงโดนดักซุ้มโจมตีสักที่ในป่านั้นแน่นอน " หยวนหวินพูดพร้อมยิ้มที่มุมปาก
" ใครจะสนกัน ทหารอาสา 45,000 คน เป็นเหยือล่อที่ดีที่จะทำให้เรารู้ว่าพวกมันมีกำลังมากน้อยเพียงใด แค่นั้นก็พอแล้ว ไม่ได้คาดว่าพวกนั้นจะยึดค่ายศัตรูได้หรอกนะ " หยินซวนพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย
" พวกเราก็ควรไปเตรียมตัวเหมือนกันนะครับ " หยวนหวินพูดพร้อมหันหลังเดินลงบันได แล้วทั้งสามก็เดินตามหลังลงไป
หลิวเยียนเฟิงและทหารอาสาเดินตามพวกกบฏที่เหลือรอดอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่สามารถตามทัน ทหารอาสาเดินเข้าไปด้านในป่าทึบ ไร้เสียงใดนอกจากเสียงเท้าเดิน ทุกคนเดินอย่างระแวดระวัง เดินตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะพวกเขาไม่ใช่ทหารเป็นเพียงชาวบ้านแล้วอาวุธที่ทุกคนได้ ก็มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป
พวกหลิวเยียนเฟิงและทหารอาสาเดินลึกเข้าไปด้านในป่ากว่า 30 นาที ก็ไม่เจอศัตรูคนไหนเลย แล้วร่องรอยของพวกมันก็หายไปด้วย ในช่วงเวลาอันวังเวงนั้นก็มีกลุ่มของศัตรูที่ซุ่มโจมตีอยู่นั้นก็ออกมาแล้ววิ่งเข้าโจมตีรอบด้าน โดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ทหารอาสาที่มีความหวาดกลัวอยู่แล้วยิ่งสติแตก ร้องเสียงหลงด้วยความกลัว ศัตรูวิ่งเข้าโจมตีสังหารทหารอาสาอย่างง่ายดาย เพราะทุกคนตกอยู่ในความกลัวไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้ หลิวเยียนเฟิงต่อสู้กับทหารศัตรูอย่างเก่งกาจพร้อมมองดูทหารของตนที่กำลังกระสับกระส่ายด้วยความกล้ว
อ๊ากกกกกก!!!!! เสียงร้องตะโกนดังลั่นจากกลางกองทัพทำให้ทุกคนนั้นสะดุง แม้แต่ทหารศัตรูยังหยุดชะงัก
" พวกเราอย่าไปกล้วพวกมัน พวกเรามีคนเยอะกว่าพวกมันมาก เกาะกลุ่มกันไว้อย่าแตกแถว ตั้งสติไว้ พวกมันก็คนเหมือนกัน ฟันมัน แทงมัน พวกมันก็ตายเหมือนกัน อย่ายอมแพ้พวกมัน หากพวกเราจะตายก็ให้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี ลุกขึ้นมาแล้วฆ่าพวกมันให้หมด !!!!! " เสียงจากตรงกลางกองทัพพูดปลุกใจจนทุกคนมีแรงหึดสู้ขึ้นมาทันที
ฆ่ามัน!! ฆ่าพวกมัน!!! ฆ่าพวกมันให้หมด!!!
ทหารอาสาทุกคนโห้ร้องเสียงดัง แล้วเข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างบ้าคลั่ง หลิวเยียนเฟิงมองไปที่ต้นเสียงก็ทำให้นางนั้นตกใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่ยืนอยู่นั้นคือชายที่รักษาดวงตาของตนนั้นเอง
สิ่งที่ชุนจินทำนั้นคือการร้องเสียงดังเพื่อเรียกสติ แล้วพูดสร้างแรงพลักดันเปลี่ยนความคิดให้กับทุกคน แล้วสิ่งหนึ่งที่ชุนจินทำนั้นคือ วิชาวาจาบ้าคลั่ง เป็นวิชาที่จะปล่อยคลื่นเสียงกระตุ้นความบ้าคลั่งในจิตใจออกมา ชุนจินหันไปหาหลิวเยียนเฟิงแล้วยิ้มพร้อมชูนิ้วโป้ง หลิวเยียนเฟิงมองชุนจินแล้วยิ้มภายใต้หน้ากากนั้น
" เราเองก็ ลุยบางล่ะนะ " ชุนจินคิดในใจพร้อมชักดาบเก่าออกมาจากฟักแล้ววิ่งเข้าใส่ศัตรูทันที
การต่อสู้ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็สามารถเอาชนะได้ โดยศัตรูถูกสังหารหมดสิ้น ไม่มีคนหนีหรือรอดชีวิตไปได้ ซึ่งสร้างกำลังใจที่ดีแก่ทหารอาสาเป็นอย่างมากในชัยชนะศึกครั้งแรกนี้ การต่อสู่ในครั้งนี้ทำให้เสียทหารอาสาไปเกือบ 2,000 นาย และบาดเจ็บไปเกือบ 23,000 นาย ส่วนศัตรูนั้นตายไปกว่า 20,000 นาย
หลิวเยียนเฟิงให้ทหารจัดการฝั่งศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้วให้ผู้บาดเจ็บทั้งหมดเดินทางกลับไปที่เมือง เก็บอาวุธที่ใช้ได้เอาไว้ แล้วให้ทุกคนพักเอาแรง นางจึงนำแผนที่ออกมาดูว่าค่ายของศัตรูที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน ซึ่งค่ายที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากจุดที่อยู่ตอนนี้ถึง 11 กิโล หลิวเยียนเฟิงคิดว่าตอ้องเดินทางให้เร็วที่สุดที่จะทำได้
" เจ้าจะเดินทางต่อเลยเหรอ " ชุนจินเดินมาดูแผนที่กับหลิวเยียนเฟิงด้วย
" นี่เจ้า... เอ่อ... ใช่ ข้าคิดว่าจะเดินทางต่อเพื่อที่จะยึดค่ายนี้แล้วคอยพักนะ " หลิวเยียนเฟิงพูดด้วยท่าทางตื่นเต้นพร้อมชี้ให้ชุนจินดู
" ข้าคิดว่าเราควรจะพักตรงนี้ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางต่อ เพราะศึกเมื่อกี้ทำให้ทุกคนเหนื่อยล้ากันหมด ถึงแม้จะมีกำลังใจที่ดีขึ้นแต่ถ้าไม่มีแรงมันก็ไม่ได้หรอกนะ " ชุนจินพูดพร้อมยิ้ม
" จริงของเจ้า เช่นนั้นวันนี้เราจะพักกันที่นี้ แล้วเราจะเดินทางในตอนเช้า " หลิวเยียนเฟิงพูดพร้อมเก็บแผนที่
" เจ้าก็ควรจะพักผ่อนด้วยนะ " ชุนจินพูดแล้วหันหลังจะเดินไป
" เดี๋ยวสิท่าน ข้า... ขอบคุณท่านมากที่ท่านรักษาดวงตาให้ข้า " หลิวเยียนเฟิงพูดด้วยท่าทางเขินอาย ชุนจินหันมาแล้วยิ้ม
" ไม่หรอกเรื่องเล็กนะ หากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยก็บอกข้าได้นะ ข้าพร้อมช่วยเหลือเจ้าเสมอ หากไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวไปนอนก่อนนะ " ชุนจินพูดพร้อมยิ้มแล้วหันหลังเดินต่อไป