บทที่ 7
23.00 น
ณ ค่ายทหารหลิว อาคารว่าการของกองทัพ
ในห้องทำงานของแม่ทัพ หลิวเยียนชางกำลังตรวจสอบเอกสารอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวเดินเขามา ทั้งสองนั้นคือหลานสาวของแม่ทัพหลิว ผู้ชายชื่อว่าหลิวเทียนฟง อายุ 18 ปี ชายหนุ่มผิวขาวเหลือง หน้าตาเข้ม ผมดำสั้น รูปร่างสูง ใส่ชุดเกราะหนังสัตว์สีน้ำตาลเสื้อซับในสีแดงถือกระบี่ ส่วนผู้หญิงเป็นพี่สาวของหลิวเทียนฟง ชื่อหลิวเยียนเฟิง อายุ 23 ปี รูปร่างดี สูงยาวเพียว ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวถักเปีย ใส่ชุดเกราะหนังสีน้ำตาลเข้ารูปจนเห็นสรีระของนางใส่เสื้อซับในสีแดงติดดาบอยู่ข้างเอว ใบหน้าของนางใส่หน้ากากหนังสีเทาปิดบังใบหน้าไว้ มีเพียงที่ตาข้างขวาข้างเดียวที่เปิดอยู่ ทั้งสองเดินเข้ามาแล้วกุมมือคาราวะ
" ท่านปู่ การลงชื่อเสร็จสิ้นแล้วครับ " หลิวเทียนฟงพูดพร้อมคาราวะ
" ได้กี่คนละ " หลิวเยียนชางถามขณะที่รินน้ำชา
" ทหารอาสาได้ทั้งหมด 15,000 นาย หากรวมทหารที่มี 25,000 นาย รวมกันแล้วเราจะมีกำลังทหารที่ 40,000 นาย ครับ " หลิวเทียนฟงพูด
" ดีมาก พวกเจ้าไปพักเถอะ " หลิวเยียนชางพูดพร้อมยิ้มแล้วจิบน้ำชา
" ท่านปู่ครับ ท่านจะไปร่วมทัพใช่หรือไม่ครับ " หลิวเทียนฟงพูด แล้วหลิวเยียนชางก็เงยหน้าขึ้นมามอง
" ทหารของเราจะต้องมีผู้นำ ใช่ข้าจะไป " หลิวเยียนชางพูด
" เช่นนั้นข้าขอไปแทนท่านได้หรือไม่ ถึงแม้นี้จะเป็นศึกใหญ่ข้าก็มั่นใจในความสามารถของข้า " หลิวเทียนพูดจบ หลิวเยียนชางก็ถุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน
" ไม่ได้ เจ้าคือผู้น้ำตระกูลคนต่อไป หากเจ้าไปรบแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ตระกูลเราก็จะไม่มีผู้สืบทอด !!! " หลิวเยียนชางพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
" ท่านไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว ท่านไปไม่ได้หรอก ท่านปู่ค่ะ ข้าจะไปเองค่ะ " หลิวเยียนเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงนักเเน่น
" ท่านพี่.... "หลิวเทียนฟงพูด
" ท่านปู่ ท่านก็รู้ว่าข้าเก่งกว่าเทียนฟง ทั้งการต่อสู่ และการรบ ข้าจะนำความสำเร็จมาสู่ตระกูลเราได้อย่างแน่นอน ส่วนเจ้าเทียนฟง อยู่ดูแลเมืองดูแลท่านปู่อยู่นี่แหละ ศึกครั้งนี้ไม่นานคงกลับมา เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวไปพักเอแรงก่อนนะค่ะ ท่านปู่ " หลิวเยียนเฟิงพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง หลิวเยียนชางมองตามหลังแล้วยิ้มเล็กน้อย
หลิวเยียนเฟิงเดินออกมา จากอาคารว่าการกองทัพ เดินดูความเรียบร้อย แล้วเดินไปจุดพักผ่อนประจำของนาง ซึ่งเป็นใต้ต้นไม้ใหญ่ไร้ผู้คนรบกวน หลิวเยียนเฟิงเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วถอดหน้ากากออกช้าๆ แสงของดวงดาวและพระจันทร์ส่องลงมาเห็นใบหน้าของหลิวเยียนเฟิงนั้นเรียวคมผิวขาวนวลดังสาวงาม เพียงแต่ดวงตาด้านซ้ายนั้นปิดสนิทพร้อมแผลเป็นราวกับถูกคมดาบฟัน เป็นแผลเป็นขีดยาวตั้งแต่ใต้คิ้วตรงกลางตายาวลงมาถึงคาง หลิวเยียนเฟิงวางหน้ากากไว้ด้านข้างแล้วเอาดาบมาวางข้างตัวแล้วล้มตัวลงนอนช้าๆ แล้วนางก็หลับไป
06.30 น.
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวเยียนเฟิงตื่นนอนตามปกติ ซึ่งเป็นเวลาตื่นนอนของนางอยู่แล้ว นางลุกขึ้นมานั่งแล้วบิดตัวเพื่อคลายความง่วงออกไป แล้วนางก็ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบขวดน้ำกระเพราะแพะมาล้างหน้า
ตุบบบ...!!!
ชุนจินกระโดดลงมาจากต้นไม้ลงมาตรงหน้าของหลิวเยียนเฟิงอย่างไม่ทันตั้งตัว หลิวเยียนเฟิงยืนอึ้งด้วยความตกใจ
" อ่ะ... ขอโทษที ที่ข้าทำให้ตกใจพอดีเห็นเจ้าอยู่ข้างล้างข้าเลยลงมาหานะ " ชุนจินพูดพร้อมยิ้มด้วยความเป็นมิตร
" กรี๊ดดด!!!!! ไม่นะ!! ไม่!!! อย่ามองข้านะ!!! ไม่นะ!!!! อย่ามองข้า!!!!! " หลิวเยียนเฟิงปิดหน้าตัวเองแล้วนั่งลง ชุนจินก็ตกใจในสิ่งที่เห็น
" อะไรของนาง ตกใจขนาดนั้นเลย..." ชุนจินคิดในใจ หลิวเยียนเฟิงนั่งหันหลังให้ชุนจินแล้วคลานไปที่ตนนอนเมื่อคืน ชุนจินเห็นถ้าทางแปลกๆของหลิวเยียนเฟิงก็แปลกใจ แต่ชุนจินไม่ได้คิดมากจึงเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม
ทันใดนั้น หลิวเยียนเฟิงที่ใส่หน้ากากแล้วก็พุ่งตัวเข้าหาชุนจินด้วยความเร็วแล้วฟันชุนจินทันที แต่ชุนจินก็โยกหลบได้อย่างง่ายดาย หลิวเยียนเฟิงใช้ดาบฟันใส่ชุนจินอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถฟันโดนชุนจินได้เลยสักนิด
แล้วในช่วงเวลาที่หลิวเยียนเฟิงง้างดาบฟันลงมาใส่ชุนจิน เขาได้หยุดนิ่งแล้วชั่วพริบตาก็เบียงตัวไปด้านข้างเมื่อดาบถูกฟันลงมาจนถึงช่วงเอวชุนจินก็จับไปที่มือของหลิวเยียนเฟิงแล้วแย้งดาบมาอย่างง่ายดายและรวดเร็วแล้วเอามาจี้ที่คอของหลิวเยียนเฟิงทันที หลิวเยียนเฟิงได้แต่อึ้งมองหน้าชุนจินที่กำลังยิ้มอยู่
" ทำให้ตกใจแค่นี่ เจ้าจะฆ่าข้าเลยหรือไงกันนะห้ะ " ชุนจินพูดหลิวเยียนเฟิงก็หันหน้าหนีไม่พูดอะไร ชุนจินมองดูหลิวเยียนเฟิงแล้วยิ้มมุมปาก
" หรือเจ้า... โกรธที่ข้าเห็นแผลที่หน้าของเจ้า..." ชุนจินพูด เหมือนกับเข็มทิ่มแท่งใจหลิวเยียนเฟิงนางหันหน้ามาหาชุนจินด้วยแววตาดุดัน
" จริงเหรอเนี้ย... หึ หึ หึ นี่เจ้าจะอายไปทำไมกัน... แผลที่ได้มาพร้อมชัยชนะและเกียรติอันมีค่าของนักสู้ เจ้าควรจะภูมิใจกับมันสิ ไม่ใช่อับอายเช่นนี้ " ชุนจินพูดพร้อมยิ้ม
" ชัยชนะเหรอ!!! เกียรติเหรอ!!! แล้วยังไง!! หากทำให้ข้าอัปลักษณ์เช่นนี้ข้าก็ไม่ต้องการหรอก ต้องคอยปิดหน้าตาตลอดเวลาราวกับคนไม่มีหน้า ซ้ำยังเสียตาไปข้างหนึ่ง ชัยชนะมันช่วยอะไรข้าบ้างละ เมื่อข้าเป็นแบบนี้ ทุกคนที่อยู่กับข้า ทั้งเพื่อน ทั้งคนรัก ตีตัวออกห่างกันทุกคน แล้วเกียรติมันช่วยอะไรข้าได้บ้างละ หะ...!!! เจ้าไม่ใช่ข้าเจ้าไม่รู้หรอก!!! " หลิวเยียนเฟิงพูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ
" แต่เจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่..." คำพูดของชุนจินไปสะกิดในใจของหลิวเยียนเฟิง
" หากเจ้าสมเพชตัวเองเช่นนี้ เจ้าก็น่าจะจบชีวิตอันน่าสมเพชของเจ้าซะ เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แต่เจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่... เพราะว่าเจ้ายังมีหน้าที่ที่จะต้องทำและไม่สามารถทิ้งมันได้... จริงไหม " ชุนจินพูดพร้อมยิ้ม หลิวเยียนเฟิงได้ยินดังนั้นก็จุกที่อกพูดอะไรไม่ออก
" ข้าก็สงสารเจ้าอยู่นะ ให้ข้ารักษาตาเจ้าให้ไหมละ ถือว่าเป็นการตอบแทนน้ำนี้ " ชุนจินพูดแล้วยิ้ม
" เจ้าเป็นหมอเหรอ เห้อ.. เจ้าไม่มีทางรักษาตาข้าได้หรอก ข้าไปหาหมอมาทุกที่แล้วก็ไม่มีหมอคนไหนรักษาดวงตาของข้าได้สักคน " หลิวเยียนเฟิงพูด
" ข้าไม่ใช่หมอ แต่ข้ารักษาเจ้าได้ เจ้าจะให้ข้ารักษาเจ้าหรือไม่ละ " ชุนจินพูดพรอมยิ้ม หลิวเยียนเฟิงมองหน้าชุนจินที่ยิ้มด้วยความมั่นใจ
" เจ้ารักษาตาข้าได้จริงๆเหรอ..? " หลิวเยียนเฟิงพูดด้วยความรู้สึกมีหวังขึ้นมา
" ได้สิ หากเจ้าไม่เชื่อก็ให้ลองก่อนก็ได้นี้ เจ้าไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ " ชุนจินพูดพร้อมเอาดาบปักลงดิน
" ได้.. ข้าจะเชื่อเจ้า " หลิวเยียนเฟิงพูด
" ดี เช่นนั้นก็หลับตา " ชุนจินพูดจบหลิวเยียนเฟิงก็หลบตายืนนิ่งๆ ชุนจินรวบรวมพลังปราณไว้ที่ฝ่ามือด้านซ้ายจนมือถูกห่อไปด้วยพลังปราณสีเขียว ซึ่งวิชาที่ชุนจินใช้นั้นคือ หัตถ์เทวะ ท่าที่ 3 หัตถ์ชีวรรณ เป็นวิชาระดับสูงที่สามารถรักษาบาดแผลได้ทุกชนิดแม้กระทั้งสามารถต่อแขนขาให้เป็นแบบเดิมได้ ชุนจินเดินเข้ามาใกล้ตัวหลิวเยียนเฟิงจนนางรู้สึกได้ถึงแม่มองไม่เห็น แล้วชุนจินก็เอามือวางไปที่หน้ากากบริเวณตาด้านซ้ายของหลิวเยียนเฟิงแล้วอัดพลังผ่านหน้ากากไปรักษาดวงตาของหลิวเยียนเฟิง นางรู้สึกถึงความร้อนที่ไหลผ่านเข้ามาในดวงตาของนางมันรู้สึกดีมาก
แล้วทันได้นั้นชุนจินก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาจึงรีบรักษา เมื่อรักษาเสร็จแล้วจึงกระโดดขึ้นบนต้นไม้แล้วกระโดดหายไป หลิวเยียนเฟิงไม่รู้สึกถึงความร้อนแล้วจึงลืมตาขึ้นก็ไม่เห็นชุนจินอยู่แล้ว แต่นางรู้สึกเหมือนมีอะไรแปลกไป นางจึงหลับตาถอดหน้ากากออกช้าๆ แล้วลืมตามองดูรอบๆ ดวงตาที่เสียไปของนางได้หายเป็นปกติ น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความดีใจ
" ไม่นึกเลยว่าข้าจะได้มองเห็นทั้งสองตาพร้อมกันเช่นนี้ ไม่รู้หรอกนะว่าท่านเป็นใคร ขอบคุณท่านมากที่เมตตาแก่ข้าเช่นนี้ " หลิวเยียนเฟิงคิดในใจยิ้มขณะที่นั่งลงแล้วปาดน้ำตาออกจากแก้ม
" ท่านพี่ " หลิวเทียนฟงเดินมาจากด้านหล้งมองเห็นหลิวเยียนเฟิงกำลังนั่งอยู่ แล้วหลิวเยียนเฟิงก็ลุกขึ้นยืน
" มีอะไรเหรอ เทียนฟง " หลิวเยียนเฟิงพูดพร้อมเดินไปหยิบดาบแล้วเจาะดวงตาอีกข้างของหน้ากากแล้วเก็บดาบไว้ในฟัก
" ทหารทุกนายพร้อมเดินทางแล้ว ข้าก็เลยมาตามท่าน " หลิวเทียนฟงพูด
" ได้ข้าเข้าใจแล้ว เทียนฟงข้ามีเรื่องที่จะบอกเจ้า ตาข้าหายดีแล้ว " หลิวเยียนเฟิงพูดพร้อมหันหน้ามาทางหลิวเทียนฟง ซึ่งทำให้ลิวเทียนฟงตกใจเป็นอย่างมาก แล้วนางก็หน้ากากแล้วเดินผ่านหลิวเทียนฟงไป...