๘ คนที่คู่ควร (๑)
๘
คนที่คู่ควร
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปอรวรามักจะหลบหน้าเพื่อนเสมอและดูเหมือนเปมทัตก็ไม่ได้มาตามหรือตื้อจะคุยเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาคงไม่รู้เพราะเมาจนเห็นหล่อนเป็นบุณณดา นึกถึงก็ยิ่งเจ็บจนต้องสะบัดศีรษะไล่ความกังวลนั้นออกไป
ช่วงนี้ต้องทำธีสิสจบจึงพยายามพุ่งความสนใจไปยังงานของตนเอง ช่วงเที่ยงก็ห่ออาหารมากินด้วยทำให้คลุกอยู่แต่แผนกของตนไม่ยอมออกไปหาร่างสูงที่แวะเวียนมาถามไถ่แต่กลับได้เพียงคำปฏิเสธ และคนใจร้อนก็ไม่ได้โวยวายแค่พยักหน้าเข้าใจ
จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นใบข้าวเขาจะตื้อหรือเปล่า สับสนกับความคิดของตนเองที่ดูเหมือนจะปล่อยวางแต่ก็ยังคิดเพียงเรื่องของชายที่ตนหมายปอง
“หนูอรไม่กลับเหรอ” ถึงเวลาเลิกงานก็ยังนั่งแช่ที่เดิมทั้งที่ไม่มีอะไรให้ทำ หล่อนสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วรีบเก็บข้าวของตามรุ่นพี่ออกไปรอลิฟต์ ไม่รู้ว่าสวรรค์ต้องการกลั่นแกล้งหรือเปล่าทำให้เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นคนที่ตนกำลังหลบหน้ายืนอยู่ในนั้น
ขาเรียวก้าวถอยหลังจะไม่เข้าไปแต่พอดีสบตากับชายหนุ่มก่อน ถ้าวิ่งหนีตอนนี้คงได้โดนตามไล่แน่ รวบรวมความกล้าก้าวเข้าไปภายในห้องโดยสารที่มีคนแน่นขนัดเนื่องจากอยู่ในช่วงเลิกงาน รับรู้ได้ว่ามีสายตาใครบางคนจ้องแผ่นหลังตลอดทำให้หล่อนได้แต่ภาวนาอยากถึงชั้นที่หมายโดยเร็ว
ดีที่อาคารไม่สูงมากทำให้ถึงชั้นหนึ่งโดยใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ รีบเดินออกอย่างรวดเร็วต้องการหนีหน้าใครบางคนแต่ก็ไม่ทันเพราะเขาคว้าแขนเรียวเอาไว้เสียก่อน
“กลับยังไง” ทั้งที่ตอนเที่ยงก็พบหน้าเพราะเปมทัตชวนไปรับประทานอาหารแต่หล่อนปฏิเสธทั้งยังหลบตาไม่กล้าสบ กลัวภาพวันนั้นจะผุดขึ้นจนทำให้เสียอาการแล้วเขาจะจับได้
ปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ฝันของชายหนุ่มก็พอ..
“พี่เก่งจะมารับ” คนฟังทำหน้าไม่ใคร่ชอบใจกับคำตอบสักเท่าไหร่
“สนิทกันแล้วเหรอถึงขนาดมารับหน้าที่ทำงาน” ดวงตากลมโตพยายามเสหลบไม่กล้ามองชายหนุ่มโดยตรงก่อนตอบน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“สนิทกว่าเดิมอีกอย่างคุณพ่อบอกให้ดูไปก่อน พี่เขาก็ท่าทางจริงใจ” พูดไม่ทันจบบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงก็เดินเข้ามาภายในบริษัทด้วยรอยยิ้ม และเมื่อเห็นหญิงสาวที่หมายปองก็ฉีกยิ้มกว้างจนเปมทัตกลัวว่าปากจะฉีกถึงหู
“รอนานไหมครับ พี่ขอโทษที่มารับช้านะ รถข้างนอกติดมาก แล้วนี่..น้องจะกลับด้วยเหรอครับ แต่น่าเสียดายวันนี้พี่ขับรถสปอร์ตมา มันนั่งได้แค่สองคน” คนอายุมากกว่าปิดท้ายด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยจนหนุ่มรุ่นน้องต้องอดกลั้นอารมณ์เอาไว้
จากที่ไม่ชอบหน้าอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเกลียดให้มากขึ้น เขาหันไปมองผู้หญิงเพียงคนเดียวเห็นหล่อนยืนนิ่งไม่ไหวติงทั้งยังยิ้มรับชายอื่นก็ไม่ใคร่ชอบใจ
“เรากลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้” แล้วอรวราก็เดินนำรุ่นพี่ออกไปข้างนอกปล่อยลูกชายเจ้าของโรงแรมไว้เพียงลำพัง เขามองตามแผ่นหลังบางอย่างครุ่นคิดก่อนถอนหายใจเมื่อหาคำตอบให้ตัวเองยังไม่ได้
ช่างแม่ง! คิดแล้วก็ปวดหัวตอนนี้ต้องเอาตัวรอดจากธีสิสให้ได้ก่อน เมื่อวานไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาถูกขีดให้แก้งานจนแทบจะกลายเป็นเริ่มใหม่ หัวหมุนทั้งเรื่องเรียน เรื่องงานและเรื่องความรัก
มันเป็นปีชงของเขาหรือไง
ไม่ต่างกับบุณณดาที่หลังจากวันนั้นเธอโดนประกบโดยคนของแทนไท ทั้งยังต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาออกไปข้างนอก เหตุผลที่ถูกยกมาคือตำแหน่งผู้ช่วยเลขาที่ต้องติดตามเจ้านายไปทุกที่แต่หล่อนรู้ดีว่าชายหนุ่มกำลังจำกัดอิสรภาพ
เรื่องสั้นที่ต้องไปถ่ายฉากเต้นโพลแดนซ์ก็ปฏิเสธเพื่อนเรียบร้อย ทำให้ต้องหานักแสดงที่รูปร่างเหมือนหล่อนแทนเพราะฉากอื่นได้ถ่ายทำไปแล้ว ขอโทษทางโทรศัพท์ที่ทำให้งานล่าช้าแต่สาวประเภทสองก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งยังขอบคุณที่ช่วยโดยไม่คิดค่าแรงอีกต่างหาก
ว่าแล้วก็อดเสียดายไม่ได้เพราะไปซ้อมเต้นหลายวันก่อนจะไปถ่ายจริงก็มาโดนแทนไทจับได้เสียก่อน ถอนหายใจยามอยู่คนเดียวแล้วรัวนิ้วลงแป้นพิมพ์เพื่อทำธีสิสจบ เหลืออีกเพียงสองสัปดาห์ก็จะเสร็จสิ้นการฝึกงานแล้ว
เธอยังไม่ได้วางแผนว่าจะทำเช่นไรต่อไปเพราะชีวิตไม่ใช่ของตนเองเหมือนเมื่อก่อน มันขึ้นอยู่กับเขาต่างหากที่กุมชะตาเอาไว้
“ฉันต้องไปไหนอีก” ขึ้นมาบนรถตู้ก็คลายเนกไทออกแล้วหันมาถาม นนทัชที่อยู่ด้วยกันโดยมีหญิงสาวนั่งข้างหลัง ทุกคนเริ่มชินแล้วที่ประธานบริษัทมีผู้ช่วยเดินตามถึงสองคน โดยเฉพาะหล่อนซึ่งมีหน้าตาค่อนข้างดีจึงมีผู้บริหารบางคนเอ่ยทาบทามไปทำงานด้วยแต่แทนไทก็ปฏิเสธอย่างนิ่มนวลทันที
ทำให้รู้ว่าคงไม่สามารถหนีห่างจากผู้ชายคนนี้ได้ และต้องตัวติดกับเขาต่อจากนี้เป็นต้นไปกระทั่งอีกฝ่ายเบื่อ
“วันนี้ไม่มีครับ แต่พรุ่งนี้ต้องไปแฟชั่นโชว์ของคุณหยาด” เพียงแค่ชื่อบุคคลที่สามถูกเอ่ยขึ้นในห้องโดยสารแห่งนี้บุณณดาก็ทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที
ไม่อาจรู้ตื้นลึกหนาบางในสัมพันธ์ของคนทั้งสอง แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะคบกันอยู่เพราะเห็นชายหนุ่มรับโทรศัพท์ของฝ่ายหญิงบ่อยเหลือเกิน ไหนจะรอยยิ้มแต้มริมฝีปากยามคุยอีก ทำให้คนมองรู้สึกอิจฉาทุกครั้ง
พยายามไขว้คว้าหัวใจของเขาแต่ดูเหมือนจะพลาดเสียแล้ว แต่ก็ไม่หมดความพยายามหรอก ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะมันต้องมีสักวันที่เป็นของเธอ
แทนไทพยักหน้ารับก่อนปิดตาลงปล่อยให้รถเคลื่อนที่ไปหยุดยังบ้านหลังใหญ่ เขาเดินเข้าบ้านแล้วขึ้นห้องนอนไม่ได้พูดคุยหรือสั่งงานอีก ปล่อยนนทัชล่ำลากับผู้ช่วยตนเองค่อยกลับที่พัก เหลือเพียงใบข้าวที่เดินขึ้นห้องลำพัง
มองหน้าประตูบานกว้างห้องเจ้าของบ้านแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ หลังจากวันนั้นพวกเขาก็มีเซ็กกันบ้างทว่าไม่ได้พูดคุยกันหลังจากจบกิจกรรมแสนเร่าร้อนเพราะชายหนุ่มทำเพียงวางเงินไว้
ไร้บทสนทนาที่จะนำไปสู่ความรักอย่างนึกหวัง
โลกของความจริงมันโหดร้ายแบบนี้เองหรือ หล่อนเพิ่งรู้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเจอคุณแทนคนเดิมที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ถึงจะเป็นเพียงเจ้านายลูกน้องไม่ต้องเลื่อนสถานะเธอก็ยอม
ขอแค่ได้ผู้ชายคนเดิมกลับมา..
วันต่อมาแทนไทเลือกจะพาบุณณดาไปเป็นผู้ติดตามเพียงคนเดียวเพราะให้นนทัชประชุมเรื่องงานแทนตนเอง สวมสูทผูกเนกไทเสร็จก็ออกมายังรถยนต์ที่มีคนรถรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ค่อยเคลื่อนออกจากตัวบ้านไปยังห้างสรรพสินค้าของตนเองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว
ขึ้นมาบนรถก็ไม่มีใครพูดอะไร ชายหนุ่มทำเพียงหันมองร่างบางที่อยู่ในชุดของแบรนด์ดังโดยแทนไทเป็นคนสั่งซื้อให้เพื่อใส่ไปงานวันนี้โดยเฉพาะ
บุณณดาอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำยาวเลยเข่าก่อนจะแหวกขึ้นมาเล็กน้อยโชว์เรียวขายาวน่ามอง ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะเปิดเผยเนื้อตัวขนาดนี้แต่พอหล่อนสวมเขาก็อดขัดใจไม่ได้ ด้านหลังมันเว้าลึกจนเห็นแผ่นหลังเนียนที่เขาหลงใหลจนฝากรอยเอาไว้หลายครั้ง
แต่สัปดาห์นี้แทบไม่ได้แตะเนื้อตัวหล่อนเพราะหญิงสาวยุ่งกับงานธีสิส จึงปล่อยให้กระต่ายน้อยได้พักผ่อนร่างกายบ้าง
พาหนะจอดหน้างานก่อนที่ท่านประธานจะเดินไปยังพรมแดง แล้วถ่ายรูปกับแบคดรอป มีดาราและเซเลปทั่วฟ้าเมืองไทยมาร่วมเฟรมด้วย เห็นว่าผู้หญิงหลายคนให้ท่าแต่แทนไทก็ไม่สานต่อทำเพียงส่งยิ้มให้เล็กน้อย
บุณณดาแอบใจชื้นขึ้นมาบ้างกระทั่งเห็นหญิงสาวเจ้าของงานเดินตรงเข้ามาหาเขา พร้อมสวมกอดจนช่างภาพต้องรีบบันทึกรูปเอาไว้เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่คนคู่นี้จะออกสื่อให้มีภาพร่วมเฟรมกันเลย
หลายคนฮือฮาผิดกับผู้ช่วยเลขาสาวที่ทำหน้าสลด หล่อนไม่รู้ว่าตัวเองควรยืนตรงนี้ต่อหรือไม่ ถึงจะยืนนอกฉากตั้งแต่ต้นทว่าภาพที่เห็นเต็มสองตาก็ส่งผลต่อจิตใจจนอยากปลีกตัวออกไป ยิ่งเห็นนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ก็ต้องกัดฟันทนฟังทั้งที่ไม่อยากรู้สักนิด
“ต้องขอบคุณมากเลยค่ะที่คุณแทนให้เกียรติเอื้อเฟื้อสถานที่ขนาดนี้” ธัญพิชชาหันไปยิ้มให้ร่างสูงที่จ้องหล่อนด้วยแววตาเป็นประกาย
“ขอถามถึงความสัมพันธ์ของพวกคุณได้ไหมคะ ตอนนี้เรียกว่าแฟนได้หรือยังคะ” นักข่าวจี้ถามและทำเอานักศึกษาสาวกำมือที่ถือกระเป๋าไว้แน่น ภาวนาให้เขาตอบปฏิเสธชัดเจน แต่ท่าทางสองคนที่มองตากันทำให้ใจดวงน้อยหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
ไม่ต้องตอบก็รู้ถึงความรักของชายหญิงคู่นี้ เม้มปากแน่นและพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเปื้อนใบหน้า กลัวว่าเครื่องสำอางที่บรรจงแต่งจะเลอะทั้งที่ยังไม่ได้เข้าไปข้างในงาน
“อือ..อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ตอนนี้หยาดก็คุยกับคุณแทนคนเดียวค่ะ” ทั้งคำพูดและแววตาที่มองกันทำให้นักข่าวส่งเสียงแซวยกใหญ่ ถึงทั้งคู่จะไม่ใช่นักแสดงแต่ก็เป็นคนดังของวงการธุรกิจ ทั้งฝ่ายหญิงยังเป็นดีไซเนอร์ฝีมือรุ่งอีก จึงไม่แปลกที่จะได้รับความสนใจ
“แล้วคุณแทนล่ะคะ” คำถามกลับมาที่ชายหนุ่มอีกครั้ง
“เหมือนกันครับ” สิ้นคำนั้นหยดน้ำตาเม็ดใหญ่ก็หยดลงบนใบหน้าหวานของคนที่ทำได้แค่มองอยู่ข้างนอกทันที หล่อนรีบเช็ดออกกลัวว่ามันจะเปื้อนใบหน้าแล้วหันไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงภาพหวานแสนบาดใจ
นักข่าวเรียกร้องให้ถ่ายภาพคู่และสองหนุ่มสาวก็ไม่ขัด กว่าจะโดนปล่อยให้เป็นอิสระก็กินเวลาครู่ใหญ่ เขาเดินมาหาผู้ช่วยเลขาโดยมีธัญพิชชาเกาะแขนไม่ปล่อยพลางหัวเราะกันสองคนเหมือนหล่อนไม่มีตัวตน
“เอ๊ะ ผู้หญิงคนนี้ผู้ช่วยของคุณทัชใช่ไหมคะ” ไม่ได้เจอกันตรงๆ สักที เรียกได้ว่านี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำทำให้บุณณดาทำตัวไม่ถูก
“ครับ ชื่อใบข้าว” แนะนำให้รู้จักและหญิงสาวอายุน้อยก็ยกมือไหว้ พร้อมยิ้มให้ทั้งที่ดวงตาแดงก่ำ รู้สึกว่าตัวเองช่างอ่อนแอเหลือเกินที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
อยากเข้มแข็งเหมือนตอนที่ยังไม่มีแทนไทเข้ามาในชีวิต
“ชื่อเพราะดีนะคะ สวัสดีจ้ะใบข้าว เรียกฉันว่าหยาดก็ได้นะ” คนไม่ค่อยได้เข้าสังคมเพราะวันหนึ่งหมดเวลาไปกับงานพิเศษที่ต้องทำเพื่อหาเงินส่งเสียตนเอง หล่อนแย้มยิ้มพยักหน้าพร้อมรับคำเสียงแผ่ว
“ค่ะคุณหยาด” แล้วเธอก็กลายเป็นส่วนเกินทันทีเมื่อสองหนุ่มสาวพากันเดินไปทักทายผู้คนที่มางาน หล่อนได้แต่ตามหลังเจ้านายของตนเองเพราะเขาบอกก่อนออกจากบ้านว่าไม่ให้อยู่ห่างเกินหนึ่งเมตร อยากพยศบ้างแต่ในเมื่อมันเป็นงานและกลัวว่าถ้ากลับไปจะโดนหนักถึงได้ทำตามคำสั่ง
แบบนี้เขาเรียกว่ารักได้อยู่หรือ มันควรจะมีความสุขมากกว่านี้แต่ทำไมทุกวันที่ผ่านพ้นมีเพียงน้ำตาคอยหล่อเลี้ยงหัวใจ
จนต้องถามตนเองซ้ำๆ ว่าที่กำลังทำอยู่ตอนนี้มันถูกต้องแล้วใช่ไหม...
แต่อย่างหนึ่งที่บุณณดาจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นคือหล่อนจะไม่ท้องเด็ดขาด เมื่อเดือนที่แล้วตัดสินใจไปฉีดยาคุมกำเนิดโดยไม่ให้แทนไททราบ ตอนแรกว่าจะกินยาแต่กลัวเสี่ยงโดนจับได้และอีกอย่างกลัวตนเองลืมกินหลังมีเพศสัมพันธ์
ทางที่ดีจึงเลือกไปฉีดยาคุมโดยกำหนดฉีดรอบหน้าคืออีกสามเดือน คงต้องหาข้ออ้างไปเพียงลำพังเพราะฉะนั้นตอนนี้จึงพยายามทำดีให้ชายหนุ่มตายใจ