๗ นอกคำสั่ง (๒)
ประธานบริษัทในเครือ The area group เดินเข้ามาภายในคลับดังย่านสีลมของเพื่อนสนิท วันนี้พวกเขานัดรวมตัวกันเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานอันแสนเคร่งเครียด ใครว่าเป็นผู้บริหารแล้วจะสบายกลับยิ่งหนักเหมือนแบกปัญหาไว้บนบ่าตลอดเวลา ทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตของพนักงานเกือบพันเอาไว้ กดดันเกี่ยวกับผลกำไร คิดตลอดเวลาจะทำอย่างไรไม่ให้ขาดทุน
มันค่อนข้างดูดพลังงานไปมากพอสมควรจนต้องมาคลายเครียดเสียหน่อย แต่ดูเหมือนหนุ่มใหญ่จะสนใจแต่โทรศัพท์เพราะเด็กที่บ้านบอกว่าบุณณดายังไม่กลับทั้งที่ควรออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
สัปดาห์นี้หล่อนขอลางานเพราะต้องเร่งทำธีสิสกลัวไม่เสร็จตามกำหนด และเขาก็ใจดีอนุญาตโดยไม่ได้ถามมากกว่านั้น นิสัยของใบข้าวไม่ใช่คนโกหก อีกอย่างคือหล่อนโกหกไม่เก่งมักจะถูกจับได้เสมอ แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะหลอก ดูจากที่ช่วงกลางคืนหลังเสร็จกิจกรรมเข้าจังหวะบางครั้งร่างบางก็ไปนั่งพิมพ์งานจนเขาเริ่มสงสารถึงได้เว้นจากการแตะเนื้อต้องตัวหล่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าผู้บริหารใหญ่จะมาได้” คนที่นั่งอยู่โซนวีไอพีเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนซึ่งมาใหม่พลางพยักหน้าทักทาย
พวกเขารู้จักกันหลังจากไปเรียนบริหารที่ต่างประเทศ ด้วยความที่อายุใกล้เคียงกันทำให้คุยง่ายขึ้นจนกลับมาเมืองไทยก็ติดต่อเรื่อยมา หากว่างมักจะนัดสังสรรค์หรือไปตีกอล์ฟเสมอ แต่ดูเหมือนแทนไทจะไม่ค่อยได้ร่วมกลุ่มสักเท่าไหร่ พอเห็นมาวันนี้ถึงค่อนข้างผิดคาด
“ให้มันได้พักบ้างเถอะ ฉันเห็นทำงานทุกวันจนไม่ได้หยุด” ณัทเอ่ยขึ้น เขาเป็นเจ้าของกิจการนำเข้าอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศ รับช่วงต่อจากที่บ้านซึ่งความจริงไม่ค่อยชอบงานด้านนี้เท่าไหร่นัก
“นั่นสิ ถึงเงินมันจะสำคัญแต่อายุเท่าเราสุขภาพก็สำคัญเหมือนกันนะเพื่อน ผ่อนคลายบ้าง” เตือนด้วยความหวังดี
“หาสาวสักคนมาเป็นแม่ของลูกก็ดี ในกลุ่มเราเหลือนายคนเดียวที่ไม่มีแฟน” เป็นเรื่องจริงที่แทนไทไม่ได้เปิดตัวว่ากำลังคบหากับใคร แต่ดูจากข่าวเม้าแล้วคงไม่พ้นลูกสาวเจ้าสัวใหญ่ที่ครอบครัวแสนร่ำรวย อาจจะไม่มีการรันตีแต่ภาพและความสนิทสนมก็ฟ้องทุกอย่าง
“ฉันไม่รีบ” ค่อยเป็นค่อยไปนั่นคือนิยามของชายหนุ่มจนคนที่เหลือต่างโห่ร้องด้วยความขัดใจ เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมแอลกอฮอล์ที่มาเสิร์ฟไม่ขาด บางคนเรียกสาวสวยมาบริการถึงที่ โดยเฉพาะแทนไทที่เพื่อนจัดให้พิเศษถูกสาวหน้าตาดีขนาบทั้งสองข้าง
เขาไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน การมาพักผ่อนแล้วมีหญิงสาวคอยบีบนวดและรินเหล้าให้ก็สะดวกสบายดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไมจึงเอาแต่คิดถึงผู้หญิงอีกคนอยู่ได้ หน้าของใบข้าวลอยวนเวียนจนต้องยกโทรศัพท์ขึ้นถามแม่บ้านว่าหล่อนกลับมาหรือยัง
และคำตอบก็ไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่
ใบข้าวยังไม่ถึงบ้าน..
“เฮ้ย ผู้หญิงคนนั้นแจ่มว่ะ” มองไปบนเวทีซึ่งขณะนี้มีโพลแดนซ์คือการเต้นบนเสาที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายค่อนข้างมาก อีกทั้งท่าทางและแววตาต้องสื่อออกมาให้ดูยั่วยวนแต่คงความแกร่งเอาไว้ซึ่งค่อนข้างยาก
ทุกความสนใจพุ่งไปตรงเวทีทำให้แทนไทที่อยู่ในอารมณ์โมโหต้องมองตามก่อนจะพบว่าคนที่กำลังวาดลวดลายสุดเซ็กซี่ช่างแสนคุ้นตาเหลือเกิน อาจเพราะไฟค่อนข้างมืดหรือใบหน้าหล่อนมีผ้าปิดตั้งแต่จมูกลงมาทำให้ไม่รู้ว่าสวยมากเพียงใด
แต่ก็ต้องยอมรับว่าหุ่นดีพอสมควรเมื่อสวมเสื้อสายเดี่ยวรัดรูปสีขาวกับกระโปรงพลิ้วสีเข้าชุดและรองเท้าส้นสูงจนทำให้หล่อนดูปราดเปรียวสะกดทุกสายตา
“เสียดายไอ้ปาณไม่ได้มา เห็นว่าต้องบินไปคุยงานที่เยอรมัน” เพื่อนคุยอะไรกันเขาไม่รับรู้เพราะสายตาถูกหญิงสาวบนเวทีสะกดเสียแล้ว
เหมือนหลงใหลและติดอยู่ในโลกที่หล่อนสร้างเพื่อดึงเขาเข้าไปอยู่ในนั้นจนเพื่อนที่เห็นต่างชวนกันมองผู้บริหารใหญ่ ยักคิ้วลิ่วตาให้กันเหมือนคิดแผนเด็ดได้ เมื่อเพลงจบพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นเดินลงจากเวทีดวงตาคมก็ยังมองหล่อนจนลับสายตา
ทำไมคุ้นเคยเหมือนเคยเจอขนาดนี้...
“ชอบเหรอ” ณัทเอ่ยถามเพื่อนที่ยังตกอยู่ในภวังค์ทำเอาชายหนุ่มหันมามอง
“อะไร”
“ก็ผู้หญิงที่เต้นรูดเสาไง นายชอบเธอใช่ไหม” แทนไทหยิบแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อยไม่ปฏิเสธคำถามนั้น
“ก็เซ็กซี่ดี” ผู้หญิงส่วนมากที่ชายหนุ่มชอบมักจะเป็นคนที่เจนจัดในเรื่องบนเตียง หรือไม่ก็เซ็กซี่มีแววตาเหมือนนักล่าเพราะการที่เขาสามารถสยบพยศของพวกเธอได้นั้นมันแสนจะน่าภาคภูมิใจ
ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งรู้ว่าหญิงสาวอินโนเซ้นก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน รู้สึกภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้เป็นครูสอนหล่อนให้รู้จักความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง และศิษย์ก็เรียนรู้ได้เร็วจนคิดจะล้างครูเสียแล้วเพราะขึ้นขย่มจนเขาคลั่งเจียนตาย
บุณณดาไม่ธรรมดาจริงๆ
“สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” สองสาวที่เคยขนาบข้างแทนไทลุกหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยคนมาใหม่ซึ่งเสียงคุ้นเหลือเกิน กระทั่งร่างสูงหันไปมองใบหน้าหวานที่มีผ้าปกปิดเช่นเดิมทว่าดวงตากลมโตซึ่งเบิกกว้างขึ้น
เขาจำได้ในทันทีว่าเธอเป็นใคร
“คุณแทน” ครางเสียงแผ่วเมื่อเห็นหน้าคนที่เรียกหล่อนมา และมือหนาก็คว้าที่ข้อมือเล็กพลางดึงให้นั่งลงข้างกันจนเพื่อนที่กำลังมองด้วยความสนใจต่างส่งเสียงแซว
“เบาหน่อยครับเพื่อน น้องเขาช้ำหมดแล้ว” โห่แซวทั้งที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ดวงหน้าสวยซีดเผือดมากเพียงใด
“ทำไมมาอยู่ที่นี่” กระซิบให้ได้ยินเพียงสองคนทำเอาหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก
อันที่จริงตอนนี้กำลังช่วยเพื่อนคณะนิเทศศาสตร์ทำโปรเจคจบนั่นคือสร้างเรื่องสั้นตามติดชีวิตสาวโพลแดนซ์ แต่เพราะไม่มีใครยอมให้ตามติดชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นสร้างหนังสั้นโดยมีนางเอกทำอาชีพนี้ ถ่ายครบหมดทุกฉากแล้วเหลือเพียงฉากเริ่มที่หล่อนต้องมาเต้นพร้อมทั้งเดินเข้าไปรับแขกโดยปิดบังใบหน้าเอาไว้
แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแขกเหล่านั้นจะกลายเป็นหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังของประเทศ ที่สำคัญคือแทนไทก็อยู่ด้วย!
ไหนบอกว่าต้องทำงานกลับดึก แล้วโผล่มาที่คลับแห่งนี้ได้อย่างไร หล่อนอดน้อยใจเขาไม่ได้ที่อีกฝ่ายยังหาเศษหาเลยกับคนอื่น
เขาไม่ได้มีเพียงแค่หล่อน..
“มารับแขกหารายได้พิเศษมั้งคะ” ประชดกลับเช่นเดียวกันไม่ยอมตกอยู่ในสถานะเบี้ยล่าง และคำตอบนั้นก็ทำให้เขาโมโหถึงกับบีบแขนเล็ก
“เด็กคนนี้บอกว่าอยากหารายได้พิเศษ พวกนายสนใจไหม” หันไปถามเพื่อนทั้งที่ยังจับแขนเล็กเอาไว้แน่น บางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ส่งเสียงตอบรับรวดเร็วเพราะถูกใจในรูปร่างและความขาวผ่องที่แม้แต่ในความมืดยังส่องสว่างได้ขนาดนี้
“ฉันสนๆ มาบริการพี่หน่อยได้ไหมน้องสาว” แทนไทไม่พูดอะไรกลับผลักร่างบางออกห่างตนเองทันทีพร้อมมองนิ่งราวกับจะท้าทายว่าหล่อนจะกล้าทำอย่างที่พูดว่าต้องการหารายได้พิเศษหรือเปล่า
ทั้งอยากทดสอบใจตัวเองเช่นกันว่าจะสามารถมองหญิงสาวอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้หรือไม่ ทำให้ดวงตาคมจ้องเธอไม่ไหวติง
ในขณะที่บุณณดาแทบจะร้องไห้ หล่อนเหลียวมองเพื่อนคาดว่ากำลังตั้งกล้องแอบถ่ายอยู่ภายในร้านทำให้เหมือนกำลังตามติดชีวิตจริงๆ จึงไม่กล้าเล่นนอกบท ร่างบางตัวสั่นยามมือหนาของคนไม่คุ้นเคยโอบเอวตนเองเอาไว้พร้อมฉุดให้มานั่งข้างๆ
“เปิดหน้าให้พี่ดูหน่อยสิ อยากชมความสวย” ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่นพยายามไม่พูดอะไรออกไปเพราะกลัวตนเองจะร้องไห้ที่โดนแทนไทผลักไส
เขาไม่แม้แต่จะเข้ามาช่วยทั้งยังมองด้วยแววตาเรียบนิ่ง ทำให้รู้แล้วว่าเวลาที่ผ่านมาถึงจะปรนนิบัติดีแค่ไหนอีกฝ่ายก็ตั้งให้อยู่ในสถานะนางบำเรอเท่านั้น
เธอคิดเองเออเองเพียงคนเดียวว่าจะทำให้เขารัก เพิ่งมากระจ่างก็วันนี้ว่ามันไม่ได้ผลก็เมื่อเห็นว่าแทนไทไม่สนใจตนทั้งยังยกให้เพื่อนได้ง่ายดาย
หล่อนเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ!
“ขอดูด้วยได้ไหม ผิวขาวขนาดนี้ตอนเกิดกินโอโม่เหรอจ๊ะ” อีกคนมาขนาบข้างพลางหยอกล้ออย่างสนุกสนาน จนในที่สุดคนทนไม่ไหวคือแทนไทซึ่งลุกขึ้นเดินดุ่มๆ มาคว้าข้อมือเล็กพลางฉุดให้ลุกขึ้นยืนแล้วลากออกไปไม่ล่ำลาเพื่อนสักคำ
ขณะที่สาวประเภทสองเพื่อนของใบข้าววิ่งกระหืดกระหอบตามหลังก็ไม่ทันเพราะทั้งสองออกจากคลับไปแล้ว
“ข้าวไปไหนวะ แกลองโทรหาหน่อยได้ไหม” เมื่อสักครู่ทางร้านเพิ่งมาบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายทำเพราะมีนักธุรกิจมาเที่ยวเยอะกลัวว่าจะติดใบหน้าไปด้วยจึงอยากให้มาถ่ายทำวันหลัง ตอนแรกก็ไม่ได้บอกบุณณดาคิดว่าจะเข้าไปไม่นาน
แต่พอออกมาพบว่าเพื่อนไม่อยู่แล้ว พอจะตามก็เห็นเพียงหลังไวๆ เป็นห่วงจนต้องโทรตามกันจ้าละหวั่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับอีกฝ่าย
ขณะที่ร่างบางก็ได้แต่เดินตามแรงจูงกระทั่งมาถึงรถยนต์แล้วร่างสูงจับยัดเข้าไปไม่ออมแรงสักนิดทำเอาศีรษะเล็กโขกกับโครงรถจนต้องโอดครวญเสียงดัง ชายหนุ่มไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บมากแค่ไหนกลับอ้อมไปอีกฝั่งแล้วเคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วตามแรงอารมณ์ในตอนนี้
เขาโกรธมากที่เห็นผู้หญิงของตนเองมาอยู่ในสถานเริงรมย์ทั้งที่บอกว่าจะทำธีสิสจบ ดวงหน้าคมเคร่งขรึมทำเอาบรรยากาศรอบห้องโดยสารขมุกขมัว ไม่ต่างกับบุณณดาซึ่งไม่อยากพูดกับชายหนุ่มแม้แต่คำเดียว
เครื่องยนต์ทะยานไปข้างหน้าปาดซ้ายแซงขวาอย่างน่ากลัวแต่คนข้างกายก็ไม่ร้องหรือห้ามสักคำ พวกเขาเมินใส่กันกระทั่งรถมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่และประตูรั้วเปิดออกอัตโนมัติ ขึ้นเนินมาหยุดที่ชั้นสองก่อนคนขับกิตติมศักดิ์จะเปิดประตูและปิดลงเสียงดัง
ใบข้าวลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านแต่ก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ “จะไปไหน” ถามเสียงขรึมด้วยอารมณ์โกรธยังไม่จางหายยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอไม่มีท่าทีสลด
“กลับห้องค่ะ” ว่าเสียงเรียบเหมือนไม่ยินดียินร้ายทั้งที่ดวงตาแดงก่ำปริ่มน้ำใกล้จะร้องไห้เต็มที
“ใครอนุญาต” กล่าวเสียงดังจนแม่บ้านที่รอคอยคุณผู้ชายเริ่มพากันกลับที่พักของตนซึ่งอยู่หลังบ้านใหญ่ ค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจนปล่อยให้สองหนุ่มสาวได้ปะทะฝีปากกันตามลำพัง
“ข้าวอนุญาตตัวเอง” จ้องเขาตอบก่อนน้ำตาจะไหลจนต้องรีบปาดมันออก เสียใจที่ชายหนุ่มเห็นตนเป็นเพียงของเล่นไร้ค่าไม่มีราคา ทั้งยังโยนให้คนอื่นหน้าตาเฉยทำเหมือนว่าไม่แคร์กันเลยสักนิด จะไม่ให้เสียใจอย่างไรไหว
“แต่ฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอ อย่าลืมว่าพ่อเธอติดหนี้ฉันอยู่ยี่สิบล้าน เอาเธอมาขัดดอกก็ยังไม่คุ้มทุนเลย” คิดตามประสานักธุรกิจแต่คนฟังสะท้านไปทั้งอกเพราะเขาเอาหล่อนไปตีราคาเป็นค่าเงิน เหมือนซื้อของตามตลาด
เม้มปากแน่นทั้งยังต้องเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่รู้เวล่ำเวลา หัวใจมันบีบรัดไปทั่วอกจนเจ็บไปหมด ร่างกายชาเหมือนถูกน้ำแข็งสาดเข้าโครมใหญ่ขณะที่จ้องดวงตาคมนิ่ง ผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้จนพูดไม่ออก
“คุณมันเลวที่สุด” หายใจเข้าแล้วผรุสวาทใส่ชายหนุ่มหวังให้อารมณ์ที่อัดแน่นได้ผ่อนลงบ้าง และคำพูดนั่นก็เหมือนไปกระตุ้นด้านมืดในจิตใจของร่างสูง
“พ่อเธอต่างหากที่มันเลว!”
แววตาของหล่อนที่จ้องมองกันอย่างกล่าวโทษจนต้องโยนความผิดทุกอย่างไปให้บัลลพ ถ้ามันไม่ทำเรื่องไว้ในอดีตเขาก็ไม่ตามแก้แค้นแบบนี้หรอก
หากจะหาคนผิดก็ต้องเป็นพ่อของเธอ ไม่ใช่เขา!
“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้คุณไม่เหมือนคุณแทนที่ข้าวเคยรู้จักสักนิด อะไรที่ทำให้คุณเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ จิตใจคนเรามันจะต่ำช้าได้ขนาดนี้เลยเหรอ ข้าวเป็นเมียคุณนะทำไมถึงกล้ายกข้าวให้คนอื่น ฮึก คุณ..” พูดไม่ออกเพราะความเสียใจจุกอก และแทนไทก็ไม่รอฟังคำก่นด่าจากหล่อนอีก ชายหนุ่มจูงกึ่งลากร่างบางขึ้นไปบนห้องนอนของตนเอง
เธอพยายามต้านแรงแต่ไม่สามารถทำได้ จนชายหนุ่มปิดประตูเสียงดังแล้วโยนเธอไปไว้บนเตียงซึ่งอยู่กลางห้อง
“วันนี้ลองบริการฉันอีกสิ แล้วจะให้ทิปตามที่ขอ”
“ถ้าข้าวขอหนึ่งล้าน คุณแทนจะให้ได้ไหม” แสยะยิ้มทันทีเมื่อได้ฟังความต้องการของหล่อน
“เธอคงต้องทำทั้งวันทั้งคืน รีดน้ำออกจากตัวฉันจนกว่ามันจะหมดแล้วล่ะ” นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะยืนขึ้นบนเตียงกว้างแล้วถอดเสื้อของตนเองออกทันทีพร้อมทั้งน้ำตาซึ่งไหลรินลงมาต้องปาดมันออกทำให้หน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเปื้อน
ไม่รู้ว่าผ้าที่คลุมหน้าหล่อนออกตอนไหนอาจจะเป็นช่วงที่กำลังจะขึ้นรถและมือของชายหนุ่มกระชากออกก็เป็นได้ หล่อนอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ เท่าที่ควร
“ข้าวจะทำค่ะ” ท่อนบนเปลือยเปล่าเมื่อปลดชุดชั้นในออก แสงสว่างไม่ได้ทำให้รู้สึกอับอายอีกต่อไปแล้วเมื่อเหตุการณ์กำลังบีบบังคับให้เธอต้องยอมผู้ชายคนนี้
ทำทุกอย่างให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
ไม่รักก็ได้ขอแค่ไม่โยนหล่อนไปให้คนอื่นก็พอ..
แทนไทมองอย่างพึงพอใจก่อนจะกระโจนเข้าไปขย้ำเหยื่อที่ยินยอมพร้อมใจเป็นของเขาโดยไม่ขัดขืน คราแรกเป็นการลงโทษที่หล่อนบังอาจโกหก ครั้งที่สองทำให้หล่อนหลาบจำว่าไม่ควรพูดจาแบบนี้กับเขาอีก และครั้งสุดท้ายใส่แรงไม่ยั้งเพื่อให้บุณณดาไม่กล้าขัดคำสั่งที่เปรียบเสมือนประกาศิตของตน
จำไม่ได้ว่าหลับไปตอนไหน แต่ตื่นขึ้นมาก็เห็นเช็คเงินสดมูลค่าสองหมื่นบาทวางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้ว
แค่นยิ้มสมเพชตัวเอง หล่อนเป็นได้แค่ผู้หญิงบริการสำหรับเขาอย่างเต็มตัวแล้วสินะ
ซุกใบหน้าลงบนหมอนปล่อยให้น้ำตามันไหลรินไม่ยอมเช็ด อยากให้น้ำสีใสชะล้างความเจ็บปวดภายในหัวใจออกไปบ้าง
แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งร้องก็ยิ่งปวดมากกว่าเดิม หัวใจบีบรัดจนหายใจไม่ออก
ความรักมันทรมานแบบนี้เอง แล้วทำไมใครๆ ถึงอยากมีมันล่ะ..