๗ นอกคำสั่ง (๑)
๗
นอกคำสั่ง
หลังเลิกงานหญิงสาวขออนุญาตเจ้าชีวิตมาหาน้าสาวที่ดูแลมาตลอดระยะเวลาหลายปี เขาให้คนขับรถไปส่งถึงบ้าน อีกทั้งเพื่อจับตาดูไม่ให้บุณณดาคลาดสายตาจนคนมีแผนในใจเริ่มอึดอัด ที่จริงวันนี้นัดบิดาเอาไว้ที่บ้านนางนลินี
พาหนะจอดยังหน้าบ้านสองชั้นขนาดเล็ก หล่อนขอบคุณพี่พริกซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางใจดี เป็นคนขับรถบ้านแทนไทมาเกือบสิบปีแล้วรู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี เธอเดินลงจากรถปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งรอข้างนอกแล้วค่อยเดินเข้าไปภายในบ้าน
น้าแพงนั่งทำงานที่เดิมเมื่อเห็นหลานสาวก็เข้ามากอดพร้อมถามไถ่ด้วยความคิดถึง ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากนักแต่เห็นแววตากังวลของหญิงสาวก็พอจะเดาได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญไม่สามารถบอกให้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดได้ในเวลาจำกัด
“พ่อล่ะคะน้าแพง” หลังถามจบประตูห้องน้ำก็เปิด ซึ่งคนที่ออกมาคือบัลลพนั่นเอง ชายร่างใหญ่เห็นบุตรสาวก็ตรงเข้ามาสำรวจตามร่างกายพลางถามเสียงตระหนก
“ข้าวเป็นยังไงบ้าง ไอ้แทนมันทำอะไรข้าวไหม” เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีรอยช้ำตามร่างกายก็พอเบาใจว่าฝ่ายนั้นคงไม่ได้ซ้อมหรือทำร้ายร่างกายอย่างที่นึกกลัว มันก็พอมีมนุษยธรรมอยู่บ้าง ทว่าดวงหน้าหวานกลับผินไปมองนลินีซึ่งยังไม่รู้เรื่องราว
และตอนนี้คงปิดไม่ได้เสียแล้ว อย่างไรก็ต้องการคนมาช่วยเหลือในเรื่องดูแลพ่อ เธอไม่ไว้ใจแทนไทสักเท่าไหร่ว่าจะไม่ส่งคนมาทำร้ายท่าน อีกอย่างต้องการรู้เรื่องทั้งหมดในอดีตที่ทำให้เจ้าของบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่แค้นมากถึงเพียงนี้
“วันนี้เราคงต้องคุยกันยาวค่ะพ่อ” พูดจบก็จับจูงท่านไปนั่งที่โซฟา ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้นลินีฟังจะได้ไม่ต้องนั่งทำหน้าสงสัย
และเมื่อรับทราบเรื่องทั้งหมดก็อดตกใจไม่ได้ที่ผู้ชายท่าทางใจดี กิริยาอ่อนโยนจะทำทุกอย่างเพื่อต้องการแก้แค้น
ถึงขนาดใช้เวลาสี่ปีเข้ามาทำความรู้จักจนสนิทสนมเป็นที่ไว้ใจก่อนจะเอามีดที่ซ่อนไว้ข้างหลังกระหน่ำแทงเจ็บเจียนตาย
บุณณดาก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าหล่อนจะตกเป็นเหยื่อ ทั้งยังไม่มีหนทางจะปีนขึ้นจากหลุมที่เขาขุดได้เลยในเมื่อหัวใจมันมอบให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นไปเสียแล้ว ถึงจะไม่มีค่าในสายตาของเขาทว่าเธอจะทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเอง
“แล้วข้าวจะทำยังไงต่อไป” น้าแพงถอนหายใจพลางหันมาถามหลานสาว
“ข้าวจะทำให้คุณแทนหลงรักข้าวค่ะ” ผู้ใหญ่ทั้งสองอุทานด้วยความตกใจกับความคิดนั้น มันเป็นไปได้ยากที่ราชสีห์จะหันมาสนใจหนูตัวเล็กซึ่งไม่มีอะไรคู่ควรเลยสักอย่าง อีกทั้งพ่อของหล่อนยังเป็นศัตรูคู่อาฆาตอีก
“มันยากนะข้าว ไอ้แทนมันใจหินรักใครไม่เป็นหรอก” ขนาดคนที่มันบอกรักนักรักหนาอย่างปานใจยังทิ้งขว้างจนหล่อนรู้สึกน้อยใจอยู่บ่อยครั้ง
และบัลลพก็ใช้ช่วงเวลาที่เธออ่อนแอเข้าไปทำให้หญิงสาวที่ตนหมายตาไขว้เขว สุดท้ายจัดการรวบหัวรวบหางทั้งยังเสกเด็กเข้าท้องจนอีกฝ่ายต้องออกจากการเรียนระดับมหาวิทยาลัยกลางคัน ทั้งสูญเสียชายที่รักไปตลอดกาล
“ต้องลองดูสักตั้งค่ะ แต่ตอนนี้พ่อช่วยบอกข้าวได้ไหมว่าเรื่องในอดีตมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมคุณแทนถึงได้แค้นจนต้องวางแผนซับซ้อนแบบนี้ด้วย” ทุกความสนใจหันไปมองบัลลพเป็นตาเดียวทำเอาคนก่อเรื่องลอบกลืนน้ำลาย
เริ่มย้อนอดีตตั้งแต่ตนเองยังเป็นหนุ่มบ้านรวยมีสาวส่งสายตาหวานให้ตลอด กระทั่งวันที่แทนไทเข้ามาเรียนชั้นมัธยมปลายที่เดียวกันความสนใจก็พุ่งไปยังอีกฝ่ายซึ่งฐานะเทียบเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ แสร้งเข้าไปสร้างความเป็นเพื่อนกระทั่งเข้าสู่มหาวิทยาลัย
เขาหมายตาสาวบัญชีคนหนึ่งที่สวยหยาดเยิ้มแต่เจ้าหล่อนกลับชอบแทนไทจนทั้งสองได้คบกัน
ปานตา ปานดวงใจ...
ผู้หญิงที่ยังติดตรึงในความทรงจำไม่มีวันลืม หล่อนเป็นดั่งรักแรกและรักเดียวของเขา ถึงช่วงที่ผ่านมาจะมีคนอื่นแต่ก็เป็นเพียงคู่นอนเท่านั้น ไม่เหมือนแม่ของลูกสาวเพียงคนเดียวที่ถึงแม้จะจากลากโลกนี้ไปแล้วก็ไม่เคยลบเลือนจากใจดวงนี้ได้เลย
และจะไม่มีทางบอกลูกเด็ดขาดว่าตนเองเป็นคนข่มขืนปานตาจนอีกฝ่ายท้อง บุณณดาไม่ได้เกิดจากความรักแต่มันคือความเห็นแก่ตัวของเขาเอง
“แม่ของลูกกับไอ้แทนเคยคบกัน แต่มันก็ไปมีคนอื่นจนปานต้องช้ำใจ พ่อเข้าไปปลอบแล้วเราก็เผลอไผลจนปานตั้งท้อง” คนเล่าเอาแต่ก้มมองมือตนเองพยายามหลบสายตาจากหญิงต่างวัยที่จ้องเป็นตาเดียว
นักศึกษาสาวนิ่งฟังไม่โต้แย้งเพราะเรื่องในอดีตหล่อนไม่อาจเอาตนเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ได้ ต้องรับรู้จากปากของผู้ที่อยู่ในตอนนั้น
“แล้วพี่สาวของคุณแทนล่ะคะ” จำเรื่องพี่สาวของแทนไทได้ตอนชายหนุ่มมาเอาเรื่องบิดาตนเองไม่ลืม อยากรู้แต่ไม่กล้าถามคนตัวสูงกลัวว่าอีกฝ่ายจะเอาอารมณ์มาลงที่หล่อน
พี่สาวของแทนไทคือทิชากร อุดมศิลป์ หญิงท่าทางเรียบร้อยและแอบหลงรักเขาจนวันที่ได้อยู่เพียงลำพังสองคน บัลลพก็สนองความใคร่ของตนเองกับหล่อนจนอีกฝ่ายตั้งท้อง มาเรียกร้องให้รับผิดชอบแต่เพราะกำลังจะแต่งงานกับปานตาจึงได้ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“พ่อขับรถชนพี่สาวเขา” ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นแต่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกไปได้ ตกใจที่บิดาตนเองทำกับครอบครัวของแทนไท ไม่น่าเล่าอีกฝ่ายถึงได้แค้นมากขนาดนี้
“แต่พ่อไม่ได้ตั้งใจ ผู้หญิงคนนั้นกระโดดลงมาบนถนนเอง จริงๆ นะข้าว พ่อไม่ได้ตั้งใจ” เข้าไปจับมือบุตรสาวพลางบีบแน่นหวังให้เชื่อในสิ่งที่ตนพูดแต่มันก็ยากเหลือเกินจนค่อยผ่อนลมหายใจถามเรื่องที่ยังข้องใจ
“ลูกในท้องของเธอล่ะคะ ใครเป็นพ่อของเด็ก” ถ้าพี่สาวแทนไทไม่แท้งป่านนี้เด็กคนนั้นก็คงอายุเท่าเธอ คิดก็อดสงสารไม่ได้
“พ่อเอง” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดดังขึ้นจากหญิงทั้งสองคน ไม่แปลกเลยที่หนุ่มนักธุรกิจจะโกรธมากขนาดนี้ในเมื่อบัลลพทำลายทั้งความรักและครอบครัวของเขา
มือเล็กยกขึ้นกุมขมับหนทางที่จะทำให้บิดาและคนรักมาปรองดองกันดูเหมือนจะห่างไกลออกไปมากกว่าเดิม คำว่าศัตรูเริ่มมาจากจุดที่เรียกว่าทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจจึงยากที่ความสัมพันธ์จะกลับมาแน่นแฟ้นเหมือนดังเก่า
บัลลพหลบสายตาของลูกสาวด้วยไม่ต้องการเอ่ยอะไรมากกว่านี้ ถึงไม่ได้เป็นพ่อที่ดีแต่ก็ไม่อยากเป็นคนร้ายในสายตาบุณณดา รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกทั้งแค้นใจว่าแทนไทที่เคยอยู่ต่ำกว่าตนกลับผงาดมีทุกอย่างด้วยตัวเอง
ที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นคือมันเอาลูกสาวของเขาไปอยู่ด้วย และดูเหมือนเธอจะแอบรักชายคราวพ่อเสียแล้ว มองใบหน้าหวานอย่างขบคิดก่อนถามเสียงเครียด
“ข้าวชอบไอ้แทนหรือเปล่า” ในเมื่อตนเองบอกทุกอย่างแต่ไม่ค่อยตรงตามความจริงให้ลูกสาวทราบแล้วถึงได้ถามขึ้นบ้าง
ดวงตากลมโตเสหลบสายตาค้นคว้า นลินีมองสองพ่อลูกที่ไว้เชิงกันก็เงียบเสียงไม่กล้าเอ่ยทั้งที่อยู่ใกล้ชิดใบข้าวและรับรู้มาตลอดว่าหลานคนนี้ชอบแทนไทมากแค่ไหน มันไม่ใช่ความหลงเพียงชั่วครั้งชั่วคราวแต่กลับรักจนไม่เผื่อใจด้วยซ้ำ
“ข้าวรักคุณแทนค่ะ” บอกชัดเจนถึงความรู้สึกของตนเองทำเอาบัลลพเผยอปากค้าง ถึงจะเดาได้บ้างแต่เมื่อได้ฟังความจริงจากหล่อนก็รู้สึกเจ็บใจที่ปล่อยปะละเลยจนบุตรสาวไปตกหลุมราชสีห์จอมเจ้าเล่ห์
“แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ ข้าวจะทำให้เขารักข้าว หลงข้าวเหมือนที่ข้าวรู้สึกกับเขา” ท่าทางมั่นใจของคนรุ่นลูกสร้างความกังวลแก่ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยอาบน้ำร้อนมาก่อนจึงรู้ดีว่าเป็นการยากที่แทนไทจะหันมารักตอบ ในเมื่อข่าววงสังคมพูดกันว่าชายหนุ่มกำลังคบหากับลูกสาวนายธนาคาร
แต่ไม่กล้าพูดตัดกำลังใจเพราะดูเหมือนบุณณดาจะตั้งความหวังเอาไว้สูงมาก พูดคุยกันอีกสักพักหล่อนก็กลับไปบ้านทรัพย์พูนทวี แล้วลงครัวจัดอาหารเพื่อสุขภาพให้เจ้าของบ้าน ต้องสร้างความประทับใจเพื่อให้เขาหลงใหล
มันไม่ยากเกินไปสำหรับเธอหรอกใบข้าว...
ปลอบใจตนเองอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มกำลังรับประทานอาหารอยู่กับครอบครัวผกายฤทธิ์ซึ่งพูดคุยเรื่องธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อเขาเดินมาหน้าบ้านเพราะกำลังจะกลับธัญพิชชาก็เดินมาส่งถึงรถพร้อมจุมพิตที่แก้มสากเป็นการบอกราตรีสวัสดิ์
“ได้ข่าวว่าเลี้ยงเด็กไว้เหรอคะ” ถามตามข่าวลือที่ได้ยินซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าไม่ปิดบัง
“ใช่ คุณมีปัญหาหรือเปล่า” ใบหน้าสวยส่ายไปมาพลางอมยิ้มเล็กน้อยค่อยเข้าไปกอดแขนชายหนุ่มที่ยังไม่มีสถานะให้กันชัดเจน
ก็แค่คู่นอนที่เรียกหาได้ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างเสียแล้ว
“ไม่ค่ะ ถ้าคุณแค่เล่นๆ หยาดก็ไม่ว่าอะไร” เพราะถึงอย่างไรอนาคตอันใกล้ตำแหน่งคุณผู้หญิงของบริษัทในเครือ The area group ก็ต้องเป็นหล่อนอยู่ดี
ถึงจะทำเป็นเหมือนไม่สนใจแต่ใครจะรู้ว่าเธอนั้นชอบเขามากแค่ไหน รู้ว่าแทนไทไม่ชอบผู้หญิงที่แสดงความเป็นเจ้าของถึงยื่นสถานะคู่นอนให้กับเขา ทำเป็นไม่สนใจและเว้นระยะห่างพอประมาณ เพียงเท่านี้ก็ได้อยู่ในจุดที่เหนือกว่าคนอื่นแล้ว
อีกทั้งบิดายังสนับสนุนบุตรสาวเต็มที่ จะไม่มีใครมาขวางทางหล่อนได้และแทนไทก็ต้องเลือกผู้หญิงที่คู่ควรกับเขามากที่สุดอย่างเธอ
“แล้วเจอกันวันงานแฟชั่นโชว์นะคะ” ร่างสูงพยักหน้าก่อนเข้าไปภายในรถแล้วขับออกไปจากบ้านหลังโตโดยมีสายตาหวานมองตามกระทั่งพาหนะหายลับไป รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มริมฝีปากค่อยเดินเข้าบ้านพร้อมเปิดรูปของผู้หญิงที่เป็นเด็กเลี้ยง
นี่มันผู้ช่วยเลขาแทนไทไม่ใช่เหรอ...
หล่อนหุบยิ้มทันทีพร้อมจ้องรูปนั้นด้วยดวงตามาดร้าย คิดจะมาแย่งผู้ชายคนเดียวกับเธอต้องเจอสั่งสอนเสียหน่อยว่าอยู่คนละชั้น และเป็นได้อย่างมากก็แค่นางบำเรอ
บุณณดากลับไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อปรึกษาอาจารย์เกี่ยวกับหัวข้อธีสิส ค่อนข้างเครียดเพราะเรื่องที่ทำต้องค้นคว้าข้อมูลเยอะแต่มันช่างหายากเสียเหลือเกิน ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงถึงได้เรื่องพร้อมทั้งขอบคุณอาจารย์ยกใหญ่ก่อนจะกลับบ้านที่ตนเองอาศัยมาได้ระยะหนึ่ง
แต่ระหว่างทางก็พบเพื่อนต่างคณะที่หล่อนเคยไปช่วยงานละครเวทีหลายครั้ง “ตายแล้วใบข้าว เจอตัวพอดีเลย” กระวีกระวาดเข้ามาหาพร้อมส่งเสียงร้องด้วยความยินดีจนร่างบางตกใจไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมด้วยการล็อคแขนจากชายใจสาวร่างถึกทั้งสองคน
“แกต้องช่วยฉัน” ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ถูกขอร้องน้ำเสียงจริงจังจนคนตรงกลางหันซ้ายทีหันขวาทีเริ่มกังวลอนาคตของตนเองเสียแล้ว
“ช่วยอะไร ขนาดฉันยังจะเอาตัวเองไม่รอด” แค่เรื่องธีสิสจบของตนเองยังนั่งกุมขมับเสียหลายวันแล้วจะมีหน้าไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร
“แกช่วยได้ เถอะนะเพื่อน ถ้าไม่ใช่แกก็หาใครไม่เหมาะอีกแล้ว ได้โปรด...นะแม่นางฟ้าคนงาม” อวยจนบุณณดาต้องถอนหายใจเสียงดังพลางตอบรับอย่างเสียไม่ได้ นำมาซึ่งความดีใจแก่สาวประเภทสองจนส่งเสียงดังก้องบริเวณ
และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนแก่หล่อนจนต้องนอนหลับด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาไปหลายวัน