๕ เลือกได้ไหม (๑)
๕
เลือกได้ไหม
หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกจากโรงเรียนมัธยมชื่อดังเขาก็ได้สอบชิงทุนเข้าคณะวิศวกรรมการบินของสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง แทนไทเหลือพี่สาวเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว แม่ของเขาเสียชีวิตตอนชายหนุ่มอายุ 15 ปี ส่วนพ่อก็ทิ้งพวกเขาไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ
ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อทั้งหน้าตาค่อนไปทางฝรั่งเลยโดนล้อมาตลอด เขาทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยเก็บเงินเรียนไม่ต้องการใช้เงินแม่ที่เป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านไม่ทำงานที่มันมีเกียรติหรือศักดิ์ศรีมากกว่านี้
ชายหนุ่มมุมานะในการเรียนจนได้อยู่ในสังคมของคนเก่งและเต็มไปด้วยคนรวย ตอนนั้นเองที่ทำให้ได้รู้จักกับบัลลพ บวรกิตติ์ ลูกชายนักธุรกิจชื่อดังที่เข้ามาสร้างความสัมพันธ์โดยไม่คำนึงถึงชนชั้นวรรณะแต่อย่างใด
กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเรียนที่สถาบันเดียวกัน เขาหลงคิดฝันจะได้เพื่อนแท้โดยไม่รู้เลยสักนิดว่างูเห่ามันแฝงตัวอยู่ภายในกายของอีกฝ่าย
จนวันที่แฟนสาวเข้ามาบอกพร้อมทั้งน้ำตา ‘เราท้อง..’ ตกใจจนมือไม้ชาเพราะเขาไม่เคยแตะต้องหล่อนไปมากกว่าจับมือ ยิ่งช่วงก่อนหน้านั้นทุ่มเทอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อต้องการขอทุนไปเรียนต่างประเทศอยากขยับฐานะตนเองให้ดีกว่าเดิม
‘เราขอโทษนะแทน เราผิดไปแล้ว เราไม่ได้ตั้งใจ’ เธอกล่าวพร้อมน้ำตาไหลไม่ขาดสายแต่คนมองกลับมีท่าทีนิ่งสงบก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“ใครเป็นพ่อของเด็ก” เขาพลาดตรงไหนทำไมเธอถึงได้ทรยศกันอย่างเลือดเย็นขนาดนี้ เมื่อถามจบก็มีบุคคลที่สามเดินเข้ามาพร้อมโอบไหล่บางเอาไว้
“กูเป็นพ่อเด็กในท้องเอง กูขอโทษจริงๆ แทนที่หักหลังมึง แต่กูรักปาน พวกกูรักกัน” มือหนากำหมัดแน่นเมื่อเห็นว่าคนที่ทำให้รักของเขาขาดสะบั้นเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจฝากหล่อนให้มันดูแลแต่กลับโดนคนทั้งสองทรยศอย่างเลือดเย็น
เขาผิดเองที่ไว้ใจคนผิด..
แต่นั่นมันยังไม่ทำให้แค้นเท่าการที่บัลลพขับรถชนพี่สาวเขาจนหล่อนแท้งลูกซึ่งมารู้ทีหลังว่าพ่อของเด็กในท้องก็คือมันนั่นแหละ!
เขาตั้งปณิธานว่าอย่างไรต้องแก้แค้นให้ได้ถึงพี่จะบอกว่าเลิกแล้วต่อกันและไม่ควรจองเวรก็ตาม
ในเมื่อกรรมมันส่งผลไม่สาสมแก่ใจทำให้เขาต้องเป็นคนลงมือเอง
“แล้วกูจะเอาหลานมาให้มึงเลี้ยง” ดึงผมอดีตเพื่อนรักขึ้นจนมันร้องเสียงดังแล้วผลักแบบไม่ออมแรงค่อยละสายตามาจ้องที่หญิงสาวซึ่งนิ่งเงียบไปแล้วเพราะตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
เหมือนรู้ชะตากรรมของตนเองว่าจะเจออะไรจึงได้มองใบหน้าคมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ผู้ชายที่หลงรักและเทิดทูนกลับกลายเป็นซาตานร้ายมาทวงความแค้นที่เคยเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่อยากถามเหลือเกินว่าเธอเกี่ยวอะไร..
“อย่าทำลูกกู”
“แล้วตอนที่มึงทำพี่กูล่ะ!” หันกลับมามองพลางถามเสียงเข้มตามแรงอารมณ์ หายใจเข้าออกเสียงดังก่อนจะแสยะยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาบุณณดาซึ่งนั่งนิ่งอยู่กับที่ มือหนาคว้าแขนเรียวแล้วฉุดให้ลุกขึ้นยืนก่อนกระชากเอวเล็กเข้าใกล้ค่อยประทับริมฝีปากลงไปอย่างรวดเร็ว
หล่อนเบิกตากว้างไม่คิดว่าเขาจะกระทำการอุกอาจต่อหน้าผู้คนเช่นนี้จึงดิ้นรนไม่ยอมให้ถูกรังแก ได้ยินเสียงบิดาร้องตะโกนห้าม
แทนไทรุกรานโดยไม่ออมแรงเลย เขาบดขยี้จนริมฝีปากจิ้มลิ้มจนเลือดออก มันเป็นจูบแรกที่ไม่น่าจดจำสำหรับเธอสักนิด พยายามผลักร่างสูงออกห่างแต่ก็ไม่อาจทำได้กระทั่งชายหนุ่มเป็นฝ่ายผละออกไปเอง
“กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึงไอ้เหี้ย!” ตะโกนลั่นในขณะที่แทนไทยกยิ้มมุมปากอย่างสมเพช ขนาดลุกขึ้นยืนยังทำไม่ได้แต่กล้าที่จะขู่ฆ่าเขา
“มึงยืนให้ได้ก่อนเถอะ” ว่าจบก็หันไปมองลูกน้องของเสี่ยทรงภพก่อนจะจ้องหญิงสาวที่มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ คงโกรธน่าดูแต่ไม่สามารถทำอะไรแม้แต่จะด่า ทำให้นักธุรกิจใหญ่ต้องก้าวเข้าไปหาเธอพลางเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ฉันมีทางเลือกให้เธอสองทาง หนึ่ง..จะให้ซ้อมพ่อเธอจนมันตาย หรือสอง..จะเอาตัวเธอมาขัดดอก” นั่นไม่ได้เรียกว่าทางเลือกสำหรับหล่อนแต่มันคือการบังคับให้รักษาชีวิตบิดาเอาไว้ต่างหาก
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเอาตนเองไปขัดดอกยอมเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายคนนี้
หล่อนเม้มปากแน่นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่แสนกดดัน มองใบหน้าคมที่เคยหลงรักก่อนค้นพบความจริงว่าทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นเพียงการแสดงละครฟอร์มยักษ์โดยมีหล่อนเป็นเหยื่อ
“ข้าวจะไปกับคุณแทน” เอ่ยเสียงแผ่วแต่ทุกคนในที่นั้นก็ได้ยินชัดเจน บัลลพส่ายหน้าพลางร้องห้ามเสียงหลง อดีตเขาเคยทำกับเพื่อนคนนี้เอาไว้มากหากมันทำเช่นเดียวกันกับบุตรสาวที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจจะทำเช่นไร
“อย่าไปข้าว อย่าไปกับมัน” ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเจ้าของธุรกิจใหญ่โตคว้าข้อมือเล็กพลางจับจูงออกไปข้างนอกไม่วายหันมาสั่งลูกของที่เหลือของเสี่ยใหญ่
“ปล่อยมันไป ยังไงก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว” ร่างบางได้แต่ตามเขาออกจากบ้านหลังเล็กไม่ลืมหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้นไปด้วย หันมองบิดาว่าไม่ถูกทำร้ายก็ใจชื้นมาเล็กน้อยแล้วเข้าไปภายในรถยนต์ของร่างสูง
จากที่เคยนึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้บัดนี้มันไม่ใช่แล้ว เธออึดอัดกับบรรยากาศที่แสนอึมครึม อยากโพล่งถามให้รู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมถึงทำกันได้เจ็บแสบขนาดนี้แต่ก็เก็บเงียบเอาไว้ปล่อยให้ชายหนุ่มขับไปตามทางจนถึงบ้านสามชั้น
ไม่มีแม่บ้านมาต้อนรับ ไร้ซึ่งผู้คนอยู่ในชั้นส่วนตัวก่อนเขาจะลากเธอมานั่งตรงโซฟาพักผ่อนแล้วยืนกอดอกจ้องดวงหน้าหวานนิ่ง
“มีอะไรจะถามไหม”
“ที่คุณแทนเข้ามาหาข้าว เพราะต้องการแก้แค้นพ่อเหรอคะ” เข้าสู่ประเด็นสำคัญโดยไม่อ้อมค้อมให้มากความและแทนไทก็ตอบตามความจริงเช่นเดียวกัน
“ใช่” สั้นและได้ใจความแต่สะท้านไปทั่วทรวงอก หล่อนก้มหน้ายิ้มเยาะตนเองที่หลงคิดว่าเขาก็สนใจในตัวหล่อนแท้จริงมันไม่ใช่สักนิด
ปล่อยให้ตัวเองหลงงมงายอยู่ได้ตั้งนาน เธอมันโง่จริงๆ ใบข้าว
“แล้วต่อจากนี้คุณแทนต้องการให้ข้าวทำอะไรคะ ทำงานบ้านหรือเรื่องบนเตียงอย่างเดียว” เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยท้าทายเขาเมื่อผิดหวังในตัวของผู้ที่ตนเองเคยเคารพ
เขาเหมือนเป็นแทนไทอีกคนซึ่งหล่อนไม่รู้จัก อะไรเป็นแรงผลักดันให้ชายหนุ่มคนนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้
“สำหรับเธอแค่เซ็กก็พอ”
แค่เซ็กที่ปราศจากความรัก..
หล่อนแค่นยิ้มก่อนจะพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลทั้งที่ดวงตาแดงก่ำ เจ็บปวดเหมือนโดนบีบหัวใจจากคนที่หล่อนไว้ใจมากสุด เขาที่เปรียบเสมือนแสงสว่างและน้ำทิพย์มาชโลมลงบนหัวใจอันแห้งแล้ง แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น
แทนไทคือปีศาจร้ายในคราบนักบุญ ทำให้หล่อนตายใจก่อนจะกลับมาทำร้ายกันจนไม่เหลือลมหายใจให้ใช้ชีวิตต่อ
“ถ้าทำใจเสร็จแล้วก็ตามฉันขึ้นไปบนห้อง” เหนื่อยมาทั้งวันไหนจะเพิ่งผ่านสนามอารมณ์กับศัตรูทำให้ค่อนข้างล้าจึงเดินขึ้นไปชั้นสามซึ่งเป็นห้องนอนของตนเอง ปล่อยร่างบางนั่งอยู่เพียงลำพังเพื่อทำใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง
ไม่ว่าจะหลีกหนีอย่างไรก็คงไม่พ้น
ตอนเช้าทำงานร่วมกันทั้งพูดคุยเหมือนไม่มีเรื่องบาดหมางแต่ตกเย็นกลับกลายเป็นคนละเรื่อง ทำไมแทนไทถึงได้เปลี่ยนอย่างรวดเร็วขนาดนี้
มือที่กุมกันอยู่บนหน้าตักถูกบีบแน่นกว่าเดิม น้ำสีใสเม็ดใหญ่ไหลออกจากหน่วยตาลงมาที่ใบหน้าหวานซึ้ง ร่างบางตัวสั่นพลางสะอื้นไห้เจ็บใจกับโชคชะตาที่เผชิญ
ทุกอย่างมันยากลำบากไปหมด กระทั่งตัดสินใจได้ว่าทำวันนี้ให้มันจบเร็วๆ ค่อยคิดหาทางใหม่วันรุ่งขึ้น บุณณดาลุกจากโซฟาเดินไปยังชั้นบนที่ไม่เคยได้ย่างกรายมาสักครั้ง
ชั้นสามค่อนข้างโปร่งและโล่งสบาย พื้นทำด้วยไม้ขัดเงาอย่างดีมีต้นไม้ประดับอยู่ตามเสา เดินมาห้องแรกที่ประตูใหญ่กว่าอีกสองห้องก็คิดว่าต้องเป็นห้องนอนสำหรับเจ้าของบ้าน เธอเคาะประตูแล้วค่อยเปิดออกก็เห็นร่างสูงนั่งรอบนเตียง
“ชุดของเธออยู่ในห้องน้ำ ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย” สั่งเสียงเรียบเหมือนเรื่องงานทั้งที่คนฟังใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
หล่อนอดจินตนาการถึงครั้งแรกของตัวเองไม่ได้ว่ามันจะเป็นเช่นไร ยิ่งผู้ชายคนนั้นคือแทนไทที่เป็นรักแรกด้วยแล้วความตื่นเต้นก็เพิ่มมากกว่าเดิมโดยเกือบลืมไปเสียสนิทว่ามาบ้านหลังนี้ในตำแหน่งใด
เธอไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาแต่คือตัวขัดดอก...
ถอนหายใจค่อยเดินเข้าไปภายในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองตามที่อีกฝ่ายบอก และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับชุดที่เห็น ไม่คิดว่าจะต้องสวมมันจริงๆ หลังใช้เวลาเตรียมใจอยู่ในห้องน้ำค่อนข้างนานก็เดินออกมาข้างนอกด้วยชุดนอนซีทรูซึ่งไม่ปกปิดร่างกายด้วยซ้ำ ค่อนข้างเขินอายแต่ก็จำต้องหยุดยืนตรงหน้าชายที่มองหล่อนด้วยสายตาราวกำลังประเมินราคาของชิ้นหนึ่ง
หัวใจกระตุกวูบไม่คิดว่าจะเป็นได้แค่เครื่องบำบัดความใคร่ เพราะความจริงแล้วหวังสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นแต่มันคงเป็นไปไม่ได้
“เคยหรือยัง” คำถามแรกหลุดออกจากปากของเจ้านายที่เคยเคารพและเทิดทูน แต่วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อได้รับรู้ว่าเขาเข้ามาหาหล่อนเพราะมีเหตุผลใดแอบแฝง
“ไม่ค่ะ”
ร่างสูงพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วค่อยถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนเหลือเพียงบ็อกเซอร์ทำให้ใบหน้าหวานต้องรีบหลบภาพตรงหน้าทันที เธอถูกเขาดึงเข้าไปหาจัดการผลักลงบนเตียงนอนก่อนที่ชายหนุ่มจะทาบทับลงมา
ริมฝีปากหยักขบลงที่ยอดปทุมถันผ่านผ้าซีทรูสีดำจนมันตั้งชัน รู้สึกขนลุกซู่พร้อมส่งเสียงครางยามถูกแตะต้องไปตามร่างกาย ความไม่เคยทำให้ราชสีห์ซึ่งชอบควบคุมสัตว์ตัวเล็กแอบยกยิ้มก่อนฉีกชุดราคาแพงออกจนกลายเป็นเศษผ้า
ร่างขาวผุดผ่องปรากฏแก่สายตาโดยไม่มีอาภรณ์มาปกปิด อดยอมรับไม่ได้ว่าหล่อนสวยจนมองอย่างหลงใหล หน้าอกสล้างไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปแต่มันกลับพอดีมือจนนวดเคล้นเมามัน เสียงหอบหายใจกระเส่ายิ่งเพิ่มความตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม
ใบหน้าคมก้มลงเลียบริเวณฐานอกแล้วย้ายมาที่ยอดสีหวาน ตวัดลิ้นอย่างชำนาญจนคนอ่อนประสบการณ์เริ่มหลงเข้าไปในห้วงอารมณ์ที่เขาเป็นผู้นำพา
“อ่ะ คุณแทน” เรียกชื่อคนที่อยู่ด้านบนอย่างเผลอไผลทั้งที่มือยังคงกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นด้วยไม่กล้าแตะต้องกายของเขาจนคนมากกว่าวัยต้องยกมือหล่อนมาลูบไล้ที่แผงอกตนเอง
“ลองจับดูสิ” จับที่หน้าอกแข็งก่อนจะเลื่อนไปยังซิกแพคเป็นลอนช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เขาบังคับมือเล็กให้ล้วงเข้าไปภายในบ็อกเซอร์ที่งูซึ่งเคยสงบได้ตื่นพร้อมสำหรับศึกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
คนไม่เคยค่อนข้างตื่นเต้นจนมือสั่น หล่อนยังใหม่กับเรื่องนี้มากนักทำอะไรก็ดูเงอะงะไปหมด อีกทั้งแสงไฟของห้องส่องสว่างจนรู้สึกอับอายกับการกระทำของตนเองในขณะที่ชายอีกคนนั้นเริ่มหลงใหลในกลิ่นกายสาวเสียแล้ว
ผิวของหล่อนขาวนวลเสียยิ่งกว่าดวงจันทร์จนอดฝากรอยสีกุหลาบเอาไว้ไม่ได้ทั้งที่ปกติไม่เคยจะแสดงความเป็นเจ้าของกับคู่นอนคนไหนเลย แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าเหตุใดถึงทำแบบนั้น