๓ ข้างๆ หัวใจ (๑)
๓
ข้างๆ หัวใจ
เข้าพักบังกะโลติดหาดที่เป็นส่วนตัว หล่อนได้ยินว่าปีหน้ากำลังจะปิดปรับปรุงแต่ดูแล้วที่พักไม่ได้เก่าเลยสักนิด หลังคามุงด้วยหญ้าฝางซึ่งค่อนข้างแข็งแรงมีเพดานฉลุลายดอกไม้ปิดทับอีกชั้น ผนังห้องทำด้วยไม้ขัดเงา ตัวที่พักจะยกสูงจากพื้นประมาณหนึ่งเมตรทำให้มีชานเรือนสำหรับนั่งรับลมหรือดูวิวทะเล
เดินไปเปิดหน้าต่างรับลมข้างนอกพลางสูดเอากลิ่นทะเลเข้าปอด เธอไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ แต่ละวันผ่านไปด้วยการเรียนและโหมงานหนักจนแทบไม่เคยได้พักผ่อน เคยมีครั้งหนึ่งถึงขั้นเป็นลมจนเพื่อนที่ทำงานด้วยกันต้องปฐมพยาบาล ดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่นอนไม่พอ
ถึงจะทำงานหนักแค่ไหนแต่เงินเก็บก็มีเพียงสองหมื่นเพราะส่วนมากหล่อนจ่ายหนี้ให้บิดาไปจนหมด หรือบางครั้งท่านก็มาหยิบยืมโดยไม่เคยคืนสักบาทจนต้องทำใจเสียแล้วว่าหากให้เงินพ่อก็ไม่หวังจะได้คืน
วางกระเป๋าไว้บนเตียงเสร็จแล้วค่อยรูดซิปสำรวจว่าแม่บ้านเตรียมอะไรให้บ้าง มีชุดชั้นในครบเซ็ตพร้อมทั้งชุดนอนกระโปรงยาวผ้าเนื้อนุ่มที่แค่ได้สัมผัสก็รู้ว่าต้องราคาแพงแน่นอน ชุดทำงานเป็นเสื้อแขนยาวสีชมพูมีลูกเล่นตรงชายเสื้อเป็นระบายแสนน่ารัก คู่กับกระโปรงสอบบานปลาย
ยิ้มอย่างมีความสุขก่อนนอนลงที่เตียงพลางผ่อนลมหายใจออกมา การได้เข้าใกล้แทนไทเป็นสิ่งเหนือความคาดหมายจนคิดว่าขอแค่อยู่ตรงนี้ก็คงเพียงพอแล้วกับคนฐานะเช่นหล่อน
ไม่ต้องหวังสูงมากกว่านี้หรอก..
ซ่า
ฟ้าที่เคยสว่างสดใสกลับมีเมฆดำปกคลุมไม่นานฝนจึงตกลงมาหลังจากอบอ้าวทั้งวัน หล่อนสะดุ้งเพราะเผลอนอนหลับหลังจากเหนื่อยในการทำงานทั้งวัน อีกทั้งสิ่งที่ปลุกให้หญิงสาวฟื้นจากนิทราคือน้ำจำนวนหนึ่งที่ตกลงบนที่นอนจนเปียกชุ่ม
“อะไรเนี่ย” รีบลงจากเตียงแล้วคว้ากระเป๋าออกมาด้วยกลัวว่าจะโดนน้ำ
เพดานของบังกะโลที่สร้างมาหลายสิบปีดูท่าจะผุพังตามกาลเวลา น้ำรั่วซึมตกกระทบเตียงจนเปียกไปหมดไม่อาจนอนได้ ใบหน้าหวานฉายแววกังวลก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นต้องรีบรับอย่างรวดเร็ว
“ค่ะคุณแทน”
‘ฉันสั่งรูมเซอร์วิสให้แล้วนะ ฝนตกแบบนี้คงออกไปกินข้างนอกไม่ได้’ หล่อนมีท่าทีกระอักกระอวนไม่รู้จะบอกเขาดีไหม จนตัดสินใจได้ถึงรับคำพร้อมแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เกิดเมื่อสักครู่
“คุณแทนคะ ห้องของข้าวดูเหมือนฝ้าจะมีปัญหาตอนนี้น้ำฝนตกใส่ที่นอนเปียกไปหมดเลย” น้ำเสียงค่อนข้างเกรงใจที่เอาปัญหาของตนเองไปบอกชายหนุ่มอีกแล้ว ปลายสายเงียบสักครู่แล้วค่อยตอบกลับ
‘เดี๋ยวฉันเดินไปหา’ เขาวางสายทำให้หล่อนต้องเม้มปากแน่นที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้
คนอะไรจะซวยได้ขนาดนี้เนี่ยใบข้าว..
รอไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจึงได้รีบไปเปิดให้ร่างสูงเข้ามาข้างใน ร่มถูกวางไว้ข้างนอกก่อนที่ท่านประธานจะเข้ามาสำรวจความเสียหาย ใบหน้าคมเรียบนิ่งไม่ได้แสดงอาการใดก่อนจะหันมามองหล่อนซึ่งมีท่าทีหงอยลงอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกห้องก็เต็มแล้วด้วย..” พึมพำเสียงเบาแต่เธอก็ได้ยินชัดเจน
“เดี๋ยวข้าวนอนที่โซฟาก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาหรอก” ชี้ไปยังโซฟาซึ่งวางไว้ใกล้ระเบียงของห้อง มันมีขนาดเล็กหากนอนทั้งคืนตื่นมาต้องปวดตามเนื้อตัวแน่
“ไปนอนห้องฉันแล้วกัน” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเจ้านายตัดสินใจเช่นนั้น รีบเอ่ยขัดทันทีเพราะไม่ต้องการรบกวนเขาด้วยคิดว่าแทนไทจะย้ายมานอนห้องนี้
“คะ..ไม่เป็นไรค่ะ ข้าวนอนห้องนี้ได้คุณแทนนอนห้องตัวเองเถอะนะคะ” โบกมือเป็นพัลวันแต่ดูเหมือนคนอายุมากกว่าจะไม่ฟังเสียงทัดทานกลับคว้าแขนเรียวพลางจูงกึ่งลากให้ออกไปข้างนอกด้วยกันไม่วายหันมาถามเสียงเรียบ
“เอาของสำคัญออกมาหมดแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แต่ว่าข้าวนอนห้องนี้ได้..” เขาไม่ฟังที่หล่อนพยายามจะสื่อสารเลยสักนิดกลับพาให้เข้ามาอยู่ในร่มคันเดียวกันแล้วเดินไปบังกะโลหลังที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
บุณณดาเม้มปากให้เงียบสนิทหลังอยู่ใกล้ชายหนุ่มที่หมายปองจนไหล่ชิดกัน มือหนาโอบไหล่มนเอาไว้กลัวว่าคนตัวเล็กจะโดนฝน กระทั่งขึ้นมาบนบังกะโลมีหลังคากันเม็ดฝนที่เทกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
มีหยดน้ำตามตัวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ทำให้เปียกมาก เขาดันหล่อนเข้าไปข้างในห้องที่เหมือนกันทุกอย่างต่างก็แต่เตียงที่ใหญ่กว่าเท่านั้น
“นอนด้วยกันที่นี่แหละ ห้องมันเต็มหมดแล้วคงเปิดห้องใหม่ให้ไม่ได้”
นอนด้วยกัน!
ตกใจกับคำพูดนั้นจนเผลอแสดงสีหน้าออกไปทำให้คนมองต้องอมยิ้ม หล่อนแสดงความรู้สึกออกทางสีหน้าทุกครั้งจนสามารถคาดเดาอารมณ์ของนักศึกษาสาวได้โดยง่าย
แม้กระทั่งความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา
“ฉันสาบานว่าจะไม่แตะต้องเธอ วางใจได้” ให้คำมั่นก่อนจะแยกออกไปรับรูมเซอร์วิชที่มากดกริ่งหน้าห้องพอดี หล่อนพยายามผ่อนลมหายใจเข้าออกให้เป็นปกติถึงสีหน้าจะแดงก่ำด้วยเขินอายจากคำพูดที่เขาเอ่ย
อันที่จริงหากแทนไทจะทำอะไรเธอคิดว่าตนเองคงไม่สามารถต้านทานเขาได้ในเมื่อหัวใจมันมอบให้ชายอายุคราวพ่อเสียแล้ว เพียงได้มาอยู่ในห้องเดียวกันใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ดวงตาเผลอมองคนที่ยกอาหารมาวางไว้ยังโต๊ะกลมสำหรับรับประทานก่อนจะเงยหน้าสบตากัน
“มากินข้าวเย็นสิ” เหมือนทำตามคำสั่งของเขาอัตโนมัติเพราะหล่อนรีบลุกเดินไปนั่งตรงข้ามร่างสูงทันที มองอาหารที่มีสลัดผักและสเต็กปลาแซลม่อน
“พรุ่งนี้คงกลับตอนตีห้าเพราะมีประชุมเช้า” ยกจานสเต็กให้หญิงสาวจนหล่อนต้องค้อมศีรษะเป็นการขอบคุณแล้วพึมพำบอกเสียงเบา
“ทำงานมาทั้งวันเป็นยังไงบ้าง ชอบไหม” ขณะที่เริ่มลงมือรับประทานอาหารเขาก็ถามไถ่ถึงเรื่องงานที่มาวันแรกก็เจอรับน้องนอกสถานที่เสียแล้ว อันที่จริงหากไม่ใช่บุณณดาเขาก็คงไม่รับนักศึกษาฝึกงานคนไหนมาทำตำแหน่งนี้หรอก
เนื่องจากผู้ช่วยเลขานั้นต้องดูแลงานทุกอย่างเสมือนเป็นเลขาอีกคน ต้องมีความรอบคอบ กระฉับกระเฉง แก้ไขปัญหาและสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี ทำงานตั้งแต่สากเบือยันเรือรบตามแต่เจ้านายจะสั่ง เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรงด้วยซ้ำ
แต่ถึงงานจะเยอะหรือหนักแค่ไหนก็ได้ค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงคุ้มกับความสามารถ ยิ่งปลายปีโบนัสที่ได้ทำเอายิ้มแก้มปริหายเหนื่อยจากงานที่ตรากตรำทำมาทั้งปี
ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องงานก่อนที่นาฬิกาจะบอกเวลาสองทุ่ม หญิงสาวแยกไปอาบน้ำพยายามทำตัวปกติทั้งที่ความจริงเกร็งจนเกือบจะเป็นตะคริวที่ได้อยู่ห้องกับชายในฝัน ต่างจากแทนไทซึ่งนั่งหน้าเครียดดูกระดานหุ้น
เขาสนใจหุ้นของบริษัท วิจิตร จำกัด(มหาชน) แต่ราคาขายกลับพุ่งสูงจนไม่กล้าซื้อ ดูความมั่นคงในระยะยาวค่อนข้างมั่นใจการบริหารของกองทัพ วิจิตรประภาที่ขึ้นแท่นตำแหน่งผู้บริหารแทนบิดาซึ่งเกษียณการทำงานไปเมื่อปีที่แล้ว ได้ข่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทนี้ทำกำไรได้มากกว่าเดิมถึงสามเท่า น่าสนใจทีเดียว
ประตูห้องน้ำถูกเปิดและหล่อนก็ออกมาในชุดนอน ยังคงเห็นเขานั่งที่เดิม ทำตัวไม่ถูกอีกครั้งแต่ตัดสินใจก้าวไปยังเตียงนอนทันที เลือกที่จะนอนทั้งยังไม่ง่วง หากให้จ้องตากับแทนไทคงทำตัวไม่ถูกกันพอดี
“จะนอนแล้วเหรอ” เงยหน้าจากจอสี่เหลี่ยมแล้วเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ” ตอบพลางพยักหน้าถี่เป็นการยืนยัน
“เดี๋ยวฉันปิดไฟให้” ไม่อยากรบกวนคนบนเตียงจึงลุกขึ้นหมายจะไปปิดไฟแต่หล่อนก็รีบปฏิเสธทันทีเพราะแค่มารบกวนก็เกรงใจจะแย่แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณแทนเปิดไฟไว้เลยก็ได้ ข้าวเป็นคนนอนง่ายจะเปิดทั้งห้องสว่างแค่ไหนก็หลับค่ะ” นั่งจ้องตากับเขาหลังพูดจบทำเอาชายหนุ่มแอบอมยิ้มออกมาแล้วพยักหน้าเข้าใจกับคำพูดแสนยาวเหยียดที่ร่างบางรัวใส่ไม่ยั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็เปิดไฟไว้แล้วกัน” หล่อนตอบรับเสียงเบาก่อนเอนกายลงนอนปล่อยให้ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายแล้วออกมาด้วยชุดนอนคือเสื้อยืดและกางเกงขายาวผ้านิ่ม
บุณณดาหลับตาสนิททั้งที่ไม่ได้รู้สึกง่วงนอน ฟังเสียงการก้าวเท้าของคนร่วมห้องยิ่งรู้สึกว่าใจเต้นแรงมากขึ้น พยายามห้ามใจตนเองแต่มันก็ไม่สามารถทำได้จนกลัวเขาจะรู้ว่าเธอตื่นเต้นมากแค่ไหนที่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
กระทั่งรู้สึกถึงแรงยวบบนเตียงทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายคงมานอนแล้ว ยิ่งหลับตาแน่นผ่อนลมหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอเหมือนคนหลับลึก แสงไฟที่เคยแยงตาถูกปิดลงพร้อมกับที่ร่างสูงหัวถึงหมอนก่อนเขาจะเข้าสู่ห้วงนิทราในขณะที่ฝนเริ่มซาลงจนหยุดตกไปนานแล้ว
ถึงอยากจะลืมตาขึ้นมามองใบหน้าคมก็ไม่อาจทำอย่างที่ใจปรารถนาได้ ยังคงปิดตาสนิทกระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนาน และหล่อนยังไม่รู้สึกง่วงสักนิด
“อ่ะ” จังหวะที่กำลังตัดสินใจจะลืมตานั้นลำตัวก็ถูกคนข้างกายคว้าเข้าไปกอดเสียก่อน เบิกตากว้างทันทีไม่คิดว่าตนเองจะตกอยู่ในอ้อมกอดของชายในดวงใจ
ใบหน้าของเขาที่หลับตาพริ้มอยู่ห่างไม่ถึงคืบ ขนาดที่ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันสร้างความตระหนกจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เกร็งตัวเสมือนเป็นท่อนไม้พลางเม้มปากแน่นไม่อยากให้แม้แต่อากาศปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากนิทรา
ไม่เคยได้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน ถึงจะมีคนมาจีบบ้างแต่ก็ถูกเปมทัตส่งสายตาเขม่นจนกระเจิงไปหมด เรียกได้ว่าตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่นจนโตเป็นสาวขนาดนี้ยังไม่เคยได้เรียนรู้ความรักผ่านทางร่างกายหรือจิตใจสักครั้ง
และดูเหมือนว่าเจอครั้งแรกก็เป็นของสูงจนเกินเอื้อมเสียแล้ว
หล่อนจ้องมองเขาในยามที่กำลังหลับใหล แสงจากดวงไฟภายนอกส่องผ่านหน้าต่างมากระทบใบหน้าคมที่หล่อเหลาราวรูปปั้น อยากยกมือขึ้นลูบไล้แต่ก็ไม่กล้าทำกลัวว่าชายหนุ่มจะตื่นถึงได้เก็บภาพประทับใจเอาไว้ผ่านทางดวงตาของตน
หล่อนจะมีโอกาสยืนในหัวใจของเขาบ้างไหม..
หรือไม่อย่างนั้นขอแค่เพียงข้างหัวใจก็ยังดี