บท
ตั้งค่า

๒ ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว (๑)

ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว

หลังจากทำเรื่องและบริษัทตอบรับการฝึกงานแล้ว บุณณดาก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการค้นข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ The area group ทำให้ยิ่งทึ่งกับความสามารถของเขามากกว่าเดิม

แทนไท ทรัพย์พูนทวี นักธุรกิจที่มาแรงเพราะเขาเริ่มต้นสร้างอาณาจักรตั้งแต่ยังอายุได้เพียง 27 ปี โดยเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดกลางก่อนแล้วเริ่มขยับขยายใหญ่ขึ้นจนปัจจุบันมีหลายสาขาพร้อมทั้งเริ่มกิจการทางโรงแรมโดยใช้ชื่อว่า The area hotel (TAH) เน้นที่ต่างจังหวัด มีที่ภูเก็ต เชียงใหม่ โคราชและที่กำลังสร้างคืออุบลราชธานี แต่ละพื้นที่ชื่อจะแตกต่างกันออกไปแต่ยังอยู่ในเครือของ The area hotel

ส่วนห้างสรรพสินค้าอยู่ในส่วนของ The area shopping (TAS) มีทั้งหมดสี่สาขาที่เมืองหลวง และที่ร่วมทุนกับพัฒนาสยามตั้งเป็นห้างยักษ์ใหญ่เมื่อสองปีที่แล้ว The luxury ถือเป็นสถานที่ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก มีแบรนด์ดังเข้ามาเปิดจนคนแน่นห้างตั้งแต่วันแรก และยังเป็นอย่างนั้นจนถึงปัจจุบัน

และโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการร่วมทุนกับพัฒนาสยามสร้างห้างสรรพสินค้าตามเมืองใหญ่ของแต่ละภาคในประเทศไทย The diamond ที่จังหวังเชียงใหม่ The victory ที่จังหวัดขอนแก่น และสุดอลังการส่งท้ายคือ Grand paradise อยู่ใจกลางมหานครแห่งนี้ที่จะลงทุนกว่าหมื่นล้านพร้อมดึงต่างชาติเข้ามาร่วมหุ้นด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เห็นภาพของตัวอาคาร

ยังไม่หมดเท่านั้นเพราะชายหนุ่มยังมีธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งร่วมทุนกับบริษัทของพี่เขยที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้พี่สาวเขาต้องขึ้นบริหารแทน กิจการนี้เพิ่งสร้างเมื่อห้าปีที่แล้วเพราะต้องการลดต้นทุนในการขนส่งถึงได้ทำขึ้นเองเสียเลยภายใต้ชื่อ The area of leo logistics (TAOL) โดยบริษัทนี้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และกำลังมีมูลค่าสูงจนคนทั่วไปไม่ค่อยมีเงินซื้อ ส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจด้วยกันมากกว่าเพราะเห็นว่ามีความมั่นคงและจะสร้างรายได้ในระยะยาว

การพัฒนามากขึ้นทุกปีสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ร่วมหุ้นและพนักงาน โบนัสที่ได้ สวัสดิการต่างๆ สามารถซื้อใจทุกคนจนภักดีกับเขาไม่แม้แต่คิดจะไปสมัครงานที่อื่นเพราะรู้ดีว่าหากขยันขันแข็งผลตอบแทนที่ได้กลับมาก็ยิ่งมากขึ้น

และค่อนข้างก้าวหน้าทางการงานถ้าเป็นคนมีความสามารถ เส้นสายไม่ใช่สิ่งที่แทนไทชอบส่วนมากคนที่ทำงานจึงมาจากความสามารถของตนเอง ทำให้บุคคลากรที่อยู่บริษัทนี้สามารถยืดอกได้เลยว่าตนไม่ใช่เด็กเส้น ถึงจะใหญ่มาจากไหนแต่ความรู้ไม่ถึงก็กระเด็นออกไปทันที

“เก่งจังเลย” บุณณดาเอ่ยชมชายหนุ่มเมื่อได้อ่านประวัติและค้นคว้าข้อมูลของบริษัทจบ อยากเร่งวันคืนให้ถึงโดยเร็วจะได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขา

ไม่ได้เจอหรือคุยกับเขานานเกือบเดือนเพราะชายหนุ่มต้องทำงานสำหรับโปรเจคใหม่จึงทำเพียงนับวันรอมาเริ่มงาน

ร่างบางลุกขึ้นไปดูชุดที่หล่อนเลือกจะใส่ไปวันแรก ดีที่เขาอนุญาตให้ใส่ชุดทั่วไปไม่ได้สวมเครื่องแบบมหาวิทยาลัย จึงค่อนข้างกลมกลืนไปกับผู้คนไม่ต้องเคอะเขินแต่อย่างใด

“แล้วเจอกันนะคะคุณแทน” มองเสื้อแบรนด์ดังและกระโปรงเข้าชุดที่เขาซื้อให้เมื่อสองปีก่อนแต่ไม่เคยคิดจะหยิบมาใส่สักครั้งเพราะกลัวมันจะเก่า แต่ครั้งนี้ตัดสินใจจะเลือกใส่เพื่อให้ชายหนุ่มเห็นโดยค่อนข้างลุ้นว่าเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นไร

หวังว่าจะชอบนะคะ..

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วทำให้ตอนนี้ร่างบางมายืนอยู่หน้าบริษัท The area group ซึ่งเป็นอาคารสี่ชั้นถือเป็นสำนักงานใหญ่มีทุกแผนกอยู่ในนี้ ไว้ใช้สำหรับต้อนรับคู่ค้า หรือนัดประชุมใหญ่เท่านั้นทำให้อาคารไม่ได้สูงมากนักแต่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ

หล่อนสูดลมหายใจเดินเข้าข้างในแต่แล้วมือเรียวกลับถูกคว้าเอาไว้เสียก่อนทำให้หันไปมองตามแรงดึงก็พบเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้จนต้องเบิกตากว้าง

“มะ มาได้ยังไง แล้วทำไม..” มองชุดที่พร้อมทำงานจนเกิดความสงสัย

อรวราส่งยิ้มแก้มปริเพราะปิดเอาไว้เสียนานเกี่ยวกับที่ฝึกงาน ตอนแรกหล่อนจะฝึกที่ธุรกิจของทางบ้านแต่เมื่อรู้ว่าเปมทัตทำเรื่องไปฝึกที่เดียวกับบุณณดาก็เปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว

คุณหนูแสนหวานเรียนภาควิชาพาณิชยศาสตร์ และสาขาวิชาเดียวกับเพื่อนชายคนสนิท หล่อนตัวติดเขาด้วยไม่รู้ว่าตนเองอยากเป็นอะไรเพราะสุดท้ายก็ต้องมาช่วยบริหารกิจการที่บ้านอยู่ดี

ในขณะที่เปมทัตซึ่งรู้เรื่องหญิงในดวงใจมาฝึกงานที่นี่ก็ทำเรื่องอย่างรวดเร็ว มันค่อนข้างยากเนื่องจากแทนไทไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงาน และเมื่อมีการประกาศว่าต้องการเปิดรับคนรุ่นใหม่เพื่อฝึกงานทำให้มีผู้สมัครจำนวนมาก ซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า

จึงใช้หนทางสุดท้ายที่รู้ว่าไม่สมควรนั้นคือการใช้เส้น ในเมื่อฝึกแค่สามเดือนไม่ได้เป็นพนักงานประจำการใช้เส้นก็คงไม่ผิด และเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เขาที่มีเส้นสายเพราะแต่ละคนที่สมัครนั้นก็เส้นใหญ่กันเหลือเกิน โดยเฉพาะบุณณดาที่ได้ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท

ทำเอาเป็นที่กล่าวขานกันเสียยกใหญ่ถึงจะเห็นประวัติที่แนบมาด้วยว่าหล่อนมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ใครเล่าจะห้ามปากคนได้

“มาฝึกงานไง” คุณหนูคนสวยตอบทันที

“ไม่เห็นหนูอรบอกเลยว่าจะมาฝึกที่นี่” ถามกลับเพราะเพื่อนไม่เคยพูดถึงเรื่องฝึกงาน หากหล่อนถามก็บอกเพียงแค่น่าจะฝึกกับที่บ้านเพราะครอบครัวหล่อนเปิดร้านอาหารซึ่งมีแฟนไชน์กว่ายี่สิบจังหวัดในประเทศไทย

“เซอร์ไพรส์ไง” ยิ้มอย่างน่ารักก่อนจะเดินเข้าไปกอดแขนเพื่อนในขณะที่บุณณดาหันมาจ้องเปมทัตที่เอาแต่นิ่งเงียบ

“นายล่ะ ไหนบอกจะฝึกงานอยู่โรงแรม” มองอย่างเอาเรื่องเมื่อไม่เป็นไปตามที่พูด ทว่าเพื่อนตัวสูงก็ทำเพียงยักไหล่

“ฝึกมาหลายปีแล้วอยากเปลี่ยนสถานที่บ้าง” จนใจจะพูดจึงไม่ได้ถามอะไรอีกพากันไปรายงานตัวที่แผนกบุคคลโดยบุณณดาทำตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัทจนคนที่รู้เรื่องพากันมองหญิงสาวเป็นตาเดียว

การเปิดรับนักศึกษาฝึกงานครั้งแรกแล้วมีคนทำในตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดจนอยากรู้พื้นเพของผู้หญิงคนนี้เสียแล้วว่ายิ่งใหญ่มาจากไหนถึงได้รับความไว้วางใจให้ทำในงานที่หนักและใช้ความสามารถรอบด้านขนาดนั้นได้

ในขณะที่อรวราได้อยู่ฝ่ายธุรการแผนกประชาสัมพันธ์ และเพื่อนสนิทอย่างเปมทัตได้อยู่แผนกคลังสินค้า เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยจึงให้พี่เลี้ยงพาไปยังที่นั่งทำงานของตนเอง ทั้งสามโบกมือลากันก่อนที่บุณณดาจะต้องขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร

แต่กลับผิดคาดเพราะพี่เลี้ยงของหล่อนพามาหน้าบริษัทอีกครั้งจนคนเดินตามงงเป็นไก่ตาแตก รีบเอ่ยถามเพื่อคลายความสงสัย

“เรามาหน้าบริษัททำไมเหรอคะ” หัวหน้าแผนกบุคคลมาส่งหล่อนเองไม่มีพี่เลี้ยงเหมือนเพื่อนทั้งสอง

“พี่เลี้ยงเธอจะมารับที่นี่” อันที่จริงอยากถามต่อแต่ใบหน้าเรียบเฉยติดบึ้งตึงของหญิงมากกว่าวัยทำให้จำต้องปิดปากสนิท รอไม่นานก็มีรถยนต์มาจอดเทียบพร้อมกับผู้ชายหน้าตาใจดีเดินลงมาจากรถด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

ร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผูกเนกไททับด้วยสูทสีเข้ม ดวงตาเรียวมีแว่นตาทาบทับดูแล้วค่อนข้างเป็นคนอัธยาศัยดี หล่อนยิ้มให้เขาเพื่อให้เกิดความประทับใจต่อกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ อย่างไรเสียก็ต้องทำงานด้วยกันไปอีกสามเดือน สร้างมิตรดีกว่าศัตรูและชายหนุ่มก็เป็นพี่เลี้ยงโดยตรง

“สวัสดีครับ ผมชื่อนนทัชต่อจากนี้จะเป็นพี่เลี้ยงของคุณตลอดการฝึกงาน” ได้ยินอย่างนั้นก็รีบยกมือไหว้ทันทีพร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน ค่อนข้างดีใจที่คนดูแลตลอดการฝึกงานครั้งนี้ไม่ได้โหดเหมือนที่นึกกลัวเอาไว้

หัวหน้าแผนกบุคคลฝากฝังหล่อนเสร็จก็เดินเข้าไปข้างในบริษัทปล่อยให้สองหนุ่มสาวอยู่กันตามลำพัง ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงก็เปิดประตูให้ร่างบางแล้วบอกให้เข้าไปอย่างรวดเร็วจนตามไม่ทัน

“เราจะไปไหนกันคะ” เขาย้ายมาประจำที่คนขับก่อนออกตัวด้วยความเร็วแทบคาดเข็มขัดไม่ทัน ถึงจะดูท่าทางใจเย็นแต่การขับรถนั้นเร็วจนหล่อนท่องบทสวดมนต์ทั้งอ้อนวอนต่อพระพุทธเจ้าให้รอดชีวิตจากการขับแสนหวาดเสียวครั้งนี้

“คุณแทนต้องไปคุยงานที่ชลบุรีเราต้องตามไปด้วย” งานแรกก็ทำเอาไม่ทันตั้งตัวแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากรับรู้เพียงแค่ว่าต้องออกงานนอกสถานที่

“มีเสื้อผ้ามาอยู่ใช่ไหม” ทว่าคำถามนี้ก็ทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันที ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนำเสื้อผ้ามาทำงานด้วย

“มะ ไม่ค่ะ รถค่ะรถ” ตอบเสียงสั่นก่อนจะเห็นว่าเขาเกือบสอยท้ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจึงร้องบอก เสี้ยววินาทีที่พี่เลี้ยงของเธอหักหลบพร้อมแซงได้อย่างนิ่มนวลเกือบใจหายใจคว่ำ ตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้อยากให้ถึงสถานที่หมายโดยเร็ว

“ไม่เป็นไรค่อยไปซื้อที่นั่น ชื่อใบข้าวใช่ไหม ผมขอเรียกว่าข้าวได้หรือเปล่า” ระหว่างการเดินทางจึงทำความรู้จักไปในตัว

“ได้ค่ะ คุณนนทัช” เธอเรียกเขาเต็มยศจนคนฟังรู้สึกแปลกหูต้องหันมามองใบหน้าหวานพลางเปลี่ยนสรรพนามใหม่

“เรียกผมว่าทัชก็ได้ถ้าเรียกเต็มมันแปลกหูพิกล” พยักหน้ารับคำพลางบอกให้เขาดูทางข้างหน้ามากกว่าจะหันมาดูหล่อน แค่การขับรถสุดฉวัดเฉวียนก็ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะแทบจะอาเจียนหลายรอบแล้ว

ต่อจากนี้การขึ้นรถมากับพี่เลี้ยงคงเป็นเรื่องที่หล่อนต้องพยายามหลีกเลี่ยงเสียแล้ว ไม่อยากเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้ายหรือรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก หล่อนขอนั่งแบบปลอดภัยดีกว่า

“ขับรถเป็นใช่ไหม” การสัมภาษณ์เริ่มขึ้นขณะที่ใจหล่อนเต้นไม่เป็นจังหวะ เอาแต่จ้องมองถนนตลอดเวลาว่าตนเองจะปลอดภัยหรือไม่

“เป็นค่ะ” พยักหน้าพลางแต้มรอยยิ้มที่มุมปาก

“ดี เผื่อผมไม่ว่างคุณจะได้ขับพาคุณแทนไปข้างนอก” ต้องยกความดีความชอบให้เปมทัตที่ฝึกหล่อนกับอรวราขับรถยนต์ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งจะได้ช่วยเหลือตนเอง อีกทั้งพาไปสอบใบขับขี่เรียบร้อยทำให้ถึงแม้ไม่มีรถยนต์แต่ก็มีใบอนุญาตในการขับรถมาครอบครอง

“ทำงานเลิกดึกได้ไหม”

“ได้ค่ะ” หล่อนเตรียมใจมาอยู่แล้ว ระดับประธานบริษัทคงไม่เลิกตรงเวลาหรอกในเมื่อมีทั้งงานราษฎร์งานหลวงเยอะเต็มไปหมด

“ดี เร็วสุดคือสองทุ่มช้าสุดตีสาม ทำใจหน่อยนะเพราะช่วงนี้กำลังมีโปรเจคใหญ่เลยต้องทำงานหนักกว่าปกติ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะข้าวจะได้เงินเดือนและค่าล่วงเวลาแน่นอน” การฝึกงานครั้งนี้มีสวัสดิการและยังได้รับเงินเดือนเหมือนพนักงานทั่วไปทำให้ยิ่งเทิดทูนเขามากกว่าเดิมอีก

“ค่ะ” รถยนต์เลี้ยวเข้ามาภายในซอยแห่งหนึ่งเมื่อถึงกลางซอยก็มีรั้วสูงใหญ่ที่ไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ ประตูอัลลอยด์ถูกเปิดออกโดยระบบอัตโนมัติก่อนพาหนะจะเคลื่อนเข้าไป ขึ้นบนเนินสูงแล้วจอดลงที่ชั้นสองของบ้าน

ระหว่างทางหญิงสาวได้แต่อ้าปากค้างตื่นตาตื่นใจกับบ้านสามชั้นขนาดใหญ่ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติเหมือนยกป่ามาไว้ในเมืองกรุง

เปิดประตูออกแล้วเดินตามพี่เลี้ยงไปอย่างรวดเร็วไม่ทันได้สังเกตอะไรมากนัก หล่อนเดินผ่านบันไดไม้ที่ทอดตัวเข้าไปในบ้านซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับธรรมชาติ มีต้นไม้สูงใหญ่เจริญเติบโตอยู่กลางบ้านและเขาทำเพียงเว้นที่ให้มันได้แผ่ลำต้นสูงขึ้นไปไม่ตัดออก

พื้นบ้านปูด้วยไม้และผนังกรุกระจกทำให้มันเห็นบรรยากาศภายนอก ความเย็นที่แผ่ซ่านต้องกายไม่ใช่จากเครื่องปรับอากาศเพราะหน้าต่างถูกเปิดออกรับลมจนมั่นใจว่าต้องเป็นลมธรรมชาติ

เพียงแค่เห็นหล่อนก็ชอบบ้านหลังนี้เสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel