- 5 -
ยังมิทันรุ่งสางไป๋หลานเฟยถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เนื่องเพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของนางจึงต้องจัดเตรียมทุกอย่างให้ดีมิให้เกิดข้อผิดพลาด และนางจะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ใบหน้าของนางถูกผัดแป้งจนนวลเนียน วาดคิ้วและกรีดตาให้ดูเด่นชัด วาดลายฮวาเตี้ยนเป็นรูปกลีบดอกโบตั๋นเล็ก ๆ ตรงหว่างคิ้วให้เข้ากับชุดเจ้าสาว ริมฝีปากที่ถูกทาด้วยชาดสีแดงสดยิ่งทำให้ดูอวบอิ่มยิ่งกว่าผลอิงเถา
พอแต่งหน้าเสร็จหลิวหนิงก็ช่วยนางสวมชุดเจ้าสาวสีแดงที่ปักด้วยลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต สีแดงยิ่งขับผิวขาวเนียนของนางให้สว่างขึ้นไปอีก
เมื่อจัดแจงชุดเรียบร้อยแล้วก็สวมมงกุฎหงส์เล็ก ๆ ลงบนผมที่เกล้าจัดเป็นทรงมวยที่ทำให้นางดูทั้งสวยและสง่างาม
“คุณหนูของบ่าวงามมากเจ้าค่ะ” หลิวหนิงยืนมองคุณหนูของตนอย่างปลาบปลื้มใจ หลานเฟยก็มองตัวเองในคันฉ่องตรงหน้าเช่นกัน
“เรียบร้อยกันหรือยังฮึ” ไป๋ฮูหยินเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ขบวนเจ้าบ่าวได้มารออยู่หน้าจวนแล้ว
“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน” หลิวหนิงตอบ
ไป๋ฮูหยินพยักหน้ารับพร้อมกับมองไปยังบุตรี
“หลานเออร์วันนี้เจ้างามจริง ๆ มาให้แม่กอดเจ้าหน่อย” ว่าจบนางก็ดึงร่างบุตรีเข้าไปสวมกอดน้ำตารื้น นางทั้งปลื้มใจที่บุตรีได้ออกเรือนกับบุรุษที่ดี แต่ขณะเดียวกันก็หมายความว่าหลานเฟยของนางต้องห่างจากอกมารดาผู้นี้เสียแล้ว นึกแล้วก็ใจหาย นางจึงกอดรัดบุตรีแน่นขึ้น ส่วนหลานเฟยก็กอดตอบมารดาเช่นกัน
“เอาละ ได้เวลาแล้ว” มารดาพูดพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตา นางมองหน้าบุตรีแล้วยิ้มให้อีกครั้ง งานมงคลไม่ควรเสียน้ำตา ทั้งบุตรีของนางยังได้ออกเรือนกับบุรุษที่เพียบพร้อมถึงปานนี้
“อย่าลืมที่ข้าสอนล่ะหลานเออร์ ออกเรือนไปแล้วเจ้าต้องเชื่อฟังสามี ปรนนิบัติเขาอย่าได้ขาดตกบกพร่อง เขาจะได้รักและเอ็นดูเจ้ามาก ๆ ข้าขอให้เจ้ามีความสุขมาก ๆ นะหลานเออร์” นางอบรมสั่งสอนบุตรีตามทำเนียม แล้วรับผ้าคลุมปักหลายดอกโบตั๋นเข้าชุดกันที่หลิวหนิงยื่นส่งให้ลงมาคลุมหน้าของหลานเฟย แล้วหลิวหนิงจึงค่อยประคองนายของตนออกมาด้านนอก
บรรยากาศภายนอกช่างครึกครื้นยิ่งนัก มีแขกเหรื่อมาร่วมงานกันเต็มไปหมด ทุกคนต่างล้วนมีหน้ามีตามีศีกดิ์มีฐานะเพราะงานนี้เป็นการเกี่ยวดองระหว่างจวนอัครเสนาบดีกับจวนเจ้ากรมพิธีการ มิมีใครมิอยากไม่มา
วันนี้เป็นวันฤกษ์งามยามดีท้องฟ้าแจ่มใส สายลมพัดเอื่อย ๆ ทำให้ไม่ร้อนมากนัก นับเป็นวันที่ดีที่สุดอีกวันหนึ่งในวสันตฤดูนี้
จางเจียหรงในชุดเจ้าบ่าวสีแดงยืนรอเจ้าสาวอยู่หน้าประตูจวน เขามีใบหน้าหมดจดหล่อเหลา พออยู่ในชุดแต่งงานเช่นนี้แล้วยิ่งเพิ่มความสง่างามให้เขายิ่งขึ้นไปอีก ทำเอาสตรีที่พบเห็นทั้งสตรีวัยแรกแย้มหรือแม้กระทั่งบรรดาฮูหยินต่างอายม้วนไปตาม ๆ กัน
ทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่าไป๋หลานเฟยช่างโชคดีนักที่ได้แต่งงานกับบุรุษผู้งามสง่าและพรั่งพร้อมถึงเพียงนี้
ไป๋หลานเฟยถูกสาวใช้คนสนิทค่อย ๆ ประคองเดินมาหยุดเคียงข้างเจ้าบ่าว จางเจียหรงยื่นมือออกไปรับนางเพื่อช่วยประคองนางต่อไปจนถึงเกี้ยว
เกี้ยวเจ้าสาวหลังงามตกแต่งหรูหราสมฐานะจอดเทียบรออยู่หน้าประตูจวน ข้างในที่นั่งได้บุนวมไว้เป็นอย่างดีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับว่าที่ฮูหยินน้อยแห่งจวนอัครเสนาบดี
เมื่อจางเจียหรงส่งไป๋หลานเฟยนั่งในเกี้ยวเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาจึงขึ้นหลังม้าขี่นำขบวนเจ้าสาวที่มีทั้งสินเดิมและของหมั้นหมายยาวสุดลูกหูลูกตามุ่งสู่จวนอัครเสนาบดี
เสียงปี่เสียงแตรแห่งงานมงคลถูกบรรเลงไปตลอดทาง สองฝั่งถนนมีผู้คนออกมามุงดูอย่างครึกครื้นเต็มไปหมด คล้ายกับว่ามีงานเทศกาลเฉลิมฉลองอะไรสักอย่าง ในที่สุดขบวนได้หยุดลงที่หน้าจวนอันใหญ่โตโออ่าอันแสดงถึงความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ
จางเจียหรงลงจากหลังม้าแล้วเข้าไปประคองเจ้าสาวให้เดินเข้าไปในจวนพร้อมกัน
ภาพความเอาใจใส่ของเจ้าบ่าวทำให้ผู้พบเห็นต่างอมยิ้มไปตาม ๆ กัน
ไป๋หลานเฟยวางมือลงบนมือใหญ่ที่กระชับมือนางแน่น ตลอดทางนางมองเห็นเพียงลาง ๆ ผ่านผ้าสีแดงที่คลุมหน้าเท่านั้น และรู้ว่ามีคนมาร่วมแสดงความยินดีมากมาย
ทั้งคู่เดินมาหยุดที่หน้าแท่นทำพิธี ในใจของไป๋หลานเฟยตอนนี้ทั้งตื่นเต้นและประหม่า หลังจากเสร็จพิธีนี้ก็หมายความว่านางจะกลายมาเป็นคนของสกุลจางอย่างสมบูรณ์
หลังจากพิธีการทุกอย่างเสร็จสิ้นไป๋หลานเฟยถูกพามารอที่ห้องหอโดยมีหลิวหนิงมาอยู่เป็นเพื่อน นางนั่งรออย่างสงบนิ่งแต่ในใจตื่นเต้นยิ่งนักเพราะคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่นางต้องนอนร่วมเตียงกับบุรุษ พลันนางคิดไปถึงเรื่องที่หลิวหนิงเคยพูดจนรู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่หลิวหนิงเจ้าว่าคุณชายเจียหรงจะพอใจข้าหรือไม่”
“ถามอะไรอย่างนั้นเล่าคุณหนู คุณชายย่อมต้องพอใจคุณหนูของบ่าวอย่างแน่นอน วันนี้ใคร ๆ ต่างก็ดูออกว่ายามที่คุณชายมองคุณหนู สายตาของเขาฉายแววรักใคร่ขนาดไหน”
คำปลอบของหลิวหนิงทำให้นางคลายใจลงไปได้บ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด
“คุณหนูหิวหรือไม่เจ้าคะ บ่าวเตรียมของว่างให้คุณหนูรองท้องก่อนดีกว่า” หลิวหนิงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้ผู้เป็นนายกังวลจนเกินเหตุ
“ก็ดีเหมือนกัน” หลานเฟยเห็นด้วยเพราะตั้งแต่ตื่นตอนเช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย