จวนอัครเสนาบดีหฤหรรษ์

76.0K · จบแล้ว
ปรียาดา
39
บท
21.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไป๋หลานเฟยแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้เล็กแห่งจวนอัครเสนาบดี แล้วนางก็ได้ค้นพบความลับ...ที่ไขปริศนาแห่งความรักใคร่ปรองดองของเหล่าสมาชิกในจวน และนางต้องเป็นส่วนหนึ่งกับมัน “เป็นอย่างไร จะทนไม่ไหวแล้วหรือ” “ก็ข้าโดนรุมขนาดนี้นี่เจ้าคะ” “แค่นี้ยังไม่มากพอหรอก”

นิยายจีนโบราณฟินๆจีนโบราณดราม่า4P25+21+18+3P

- 1 -

แคว้นโจอันยิ่งใหญ่ อาณาเขตแผ่ไพศาล แผ่นดินทอดยาวสุดลูกหูลูกตาราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด จากอุดรจรดทักษิณ จากบูรพาจรดแดนประจิม พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์พูนพร้อม ทรัพยากรมั่งคั่ง ธรรมชาติงดงาม ยามคิมหันตฤดูแสงแดดแผดกล้าเป็นประกายระยิบระยับ ทำให้ทั่วทั้งแคว้นสว่างไสวมีชีวิตชีวา ยามวสันตฤดูบุปผาเบ่งบานสะพรั่งราวกับสตรีแรกแย้มรื่นเริงใจ แม้แต่เมื่อล่วงเข้าสู่เหมันตฤดูก็มิอาจทำให้แคว้นอันยิ่งใหญ่ยากเข็นลำเค็ญไปได้ เนื่องด้วยพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้มากล้นสะสมเป็นเสบียงได้ตลอดทั้งปี ทุกตารางนิ้วของดินแดนถูกปกครองด้วยองค์จักรพรรดิผู้ปรีชาสามารถและทรงธรรม ในท้องพระคลังมั่งคั่ง การทหารมั่นคง การค้าเจริญรุ่งเรือง ราษฎรร่มเย็นเป็นสุข มีกินมีใช้ไม่ขาด ต่างสุขสำราญกันถ้วนหน้าที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินทอง

ทว่าหากจะกวาดตามองไปทั่วทั้งเมืองหลวงขนาดใหญ่แห่งนี้ ผ่านบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย ไปจนกระทั่งถึงจวนคหบดีผู้มั่งคั่งตลอดจนขุนน้ำขุนนางที่รับใช้ใกล้ชิดองค์จักรพรรดิ เห็นจะไม่มีที่ไหนสงบสุขมากไปกว่าจวนของอัครมหาเสนาบดีแห่งแคว้น จวนที่ขึ้นชื่อว่าคนในตระกูลรักใคร่ปรองดอง สมัครสมานกลมเกลียวกันยิ่งนัก ไม่มีเรื่องหลังบ้านตบตีกันดังเช่นจวนอื่นเล็ดลอดออกมาให้ได้เล่าลือจนเสื่อมเสียชื่อเสียงแม้แต่น้อย

ท่านอัครมหาเสนาบดีจางลู่โหยวเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้คน เขาปฏิบัติตามธรรมเนียมอย่างเคร่งครัด สามภรรยาสี่อนุมิขาดตกบกพร่องไปสักอย่าง แต่ละนางนั้นมีรูปโฉมงดงาม ทุกนางต่างรู้หน้าที่ รักใคร่กลมเกลียว ช่วยกันปรนนิบัติสามีอย่างเอาใจใส่ จนบุรุษในแคว้นต่างอิจฉาและนับถือท่านอัครเสนาบดียิ่งนัก บุตรชายทุกคนของเขาล้วนประเสริฐ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของบิดามารดา

บุตรชายคนโตและคนรองนั้นแต่งสะใภ้เข้าจวนแล้ว เหลือแค่เพียงบุตรชายคนเล็กเล็กที่เขากำลังเลือกเฟ้นสตรีที่เหมาะสมจะทำหน้าที่นี้ เหตุนี้กระมังที่ตระกูลต่าง ๆ อยากส่งบุตรตรีมาเกี่ยวดองด้วย

ทว่าสตรีผู้มีวาสนาดีนั้นเห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ไป๋หลานเฟย บุตรีอันเป็นที่รักของของเจ้ากรมพิธีการไป๋ฉิน ความงามของนางเป็นที่เลื่องลือสมกับเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง

ประจวบเหมาะกับที่นางถึงวัยออกเรือนพอดี และเป็นหญิงสาวโฉมสะคราญเพียบพร้อมไปทั้งรูปทรัพย์และอุปนิสัย นางเป็นคุณหนูที่แสนสุภาพเรียบร้อย อยู่ในโอวาทเชื่อฟังบิดามารดา ใสซื่อ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ว่าจะเดิน นั่ง หรือพูดจา ล้วนระมัดระวังกิริยา ทำให้นางดูราวกับเทพธิดา รอยยิ้มหรือก็อ่อนหวานจนท่านอัครเสนาบดีถูกใจเป็นอย่างมาก อยากให้มาเคียงคู่กับบุตรชายคนเล็กที่สมควรจะได้ตบแต่งภรรยาผู้งดงามมาประดับจวนเสียที

ด้วยความที่ชื่อเสียงของนางเป็นที่เลื่องลือ จวนขุนนางหรือคหบดีต่างส่งเทียบเชิญมาให้นางมิขาดตั้งแต่นางเริ่มปักปิ่น แต่ใครเล่าจะคู่ควรกับนางนอกไปเสียจากบุตรชายคนเล็กของท่านอัครเสนาบดี นอกจากฐานะอันเหมาะสมแล้ว ชื่อเสียงอันดีงามเรื่องความสมัครสมานกลมเลียวกันในจวนย่อมทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก การสู่ขอหมั้นหมายเกี่ยวดองระหว่างสองจวนจึงเกิดขึ้นตามมาไม่นาน

“คุณหนูเจ้าคะ” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นจากด้านนอก

“พี่หลิวหนิงหรือ” เสียงหวานร้องถาม ก่อนจะผุดลุกจากเตียงแล้วเดินมานั่งบนโต๊ะไม้ขัดเงาที่ตั้งอยู่กลางห้องด้วยท่าทางเกียจคร้าน แต่งามหยดย้อยดังเทพธิดา

“บ่าวเองเจ้าค่ะ”

“เข้ามาเถอะ”

สิ้นเสียงคำอนุญาตประตูได้ถูกเปิดออก ตามมาด้วยสาวใช้คู่กายที่ดูแลกันมาตั้งแต่นางยังเด็กจนกระทั่งบัดนี้ ไป๋หลานเฟยจึงนับนางเป็นสหายคนหนึ่ง

หลิวหนิงเดิมค้อมตัวอย่างสาวใช้ที่มีถูกอบรมเป็นอย่างดีมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้านายของตน

“บ่าวมาแต่งตัวให้คุณหนูเจ้าค่ะ” หลิวหนิงเสนอตัวอย่างขันแข็ง

ไป๋หลานเฟยพยักหน้าอนุญาต วันนี้ว่าที่สามีของนาง ซึ่งเป็นชายที่นางเคยพบอยู่ไม่กี่ครั้งจะมาเยี่ยมหา เขาเป็นถึงบุตรชายของอัครเสนาบดีผู้เลื่องลือ ทันทีที่ท่านพ่อของนางได้รับคำทาบทามจากแม่สื่อ ท่านใช้เวลาขบคิดเพียงแค่สามราตรีก็ตอบตกลง

นางเองไม่เคยขัดท่านพ่อกับท่านแม่มาก่อน ด้วยนิสัยหัวอ่อนว่าง่าย และอยู่ในวัยที่เหมาะสมจะออกเรือนได้แล้ว การที่ทั้งสองซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานเลือกคู่ให้ ก็น่าจะเป็นการรับประกันถึงสามีที่น่าจะทำให้นางมีความสุขได้ โดยเฉพาะถ้าเป็น คุณชายจางเจียหรงแล้วละก็ ยิ่งไม่น่าจะมีข้อผิดพลาดประการใดไปได้

“คุณหนูอยากสวมชุดสีอะไรเป็นพิเศษไหมเจ้าคะ”

“ข้าอยากได้ชุดสีฟ้าอ่อนปักลายเหลียนฮวาที่ใส่ประจำ” นางตอบแล้วถอนหายใจ ถามสาวใช้อย่างเป็นกังวล “พี่หลิวหนิงว่าเขาพอใจในตัวข้าไหม”

“คุณหนูหมายถึงคุณชายเจียหรงหรือเจ้าคะ” หลิวหนิงถามพลางมองเจ้านายด้วยสายตาเอ็นดู

“ก็ต้องเขานะสิ จะเป็นใครไปได้” นางว่าให้อย่างไม่จริงจังนัก คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างคนที่มีอะไรให้คิดหนักอยู่ในใจ

“มีสิ่งใดทำให้คุณหนูแสนงามของบ่าว ผู้ที่แค่แย้มยิ้มก็ทำให้ผู้คนถึงกับต้องเข่าอ่อน เป็นกังวลไปได้” หลิวหนิงตอบพร้อมกับสางเส้นผมยาวสลวยให้นางไปด้วย