บท
ตั้งค่า

- 2 -

นางหัวเราะเสียงร่าเริง “เจ้าน่ะชมข้าเกินไป แต่จะว่าก็ว่าเถอะ หญิงงามมีนับร้อยพันและว่าที่สามีของข้าคนนี้ก็คงพบเห็นมาแล้วมิใช่น้อย ข้าจะมัดใจเขาเอาไว้ได้อย่างไรกัน” นางเป็นกังวล เพราะยามเมื่อแต่งออกไปแล้วชีวิตของนางต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาของสามีล้วน ๆ

“เท่าที่บ่าวรู้” หลิวหนิงเกริ่น แล้วยกมือป้องปากทำท่ากระซิบกระซาบ “นอกจากเรื่องงานบ้านงานเรือนแล้ว เรื่องบนเตียงก็ต้องดีด้วยนะเจ้าคะ ถึงจะทำให้สามีอยู่ติดบ้าน ไปไหนไม่รอด”

คุณหนูในห้องหอเช่นไป๋หลานเฟยเมื่อได้ยินดังนั้นก็หน้าแดง

“พี่หลิวหนิงไปฟังเรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน อย่าเที่ยวพูดไปเรื่อยเชียว” นางว่าจบก็ค้อนปะหลักปะเหลือกให้สาวใช้

ผู้เป็นบ่าวหัวเราะขบขันกับกิริยาเขินอายของคุณหนู

“ก็ฟังจากยายเฒ่าและพวกคนรับใช้อื่นนั่นแหละเจ้าค่ะ เขาพูดกันให้ทั่วเรื่องเถ้าแก่โรงน้ำชาไปติดอกติดใจหญิงในหอนางโลมแค่เพราะนางเก่งเรื่องพรรค์นั้น ทำเอาเถ้าแก่หมดเนื้อหมดตัวเชียวนะเจ้าคะ เพราะฉะนั้น ใครจะว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ บ่าวขอเถียงขาดใจ” นางเล่าต่ออย่างสนุกปาก

“แต่ข้าไม่เคยมีสัมพันธ์กับชายใด จะไปเก่งเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไรกันเล่า” เพียงแค่พูดถึง ใบหน้าเปล่งปลั่งก็แดงเป็นผลตำลึงสุกยิ่งกว่าเดิม นางจึงหันหน้าหนีสาวใช้ประจำตัว แต่ก็เม้มปากแน่น คิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้ยิน

“มันก็น่าจะเรียนรู้ได้สิเจ้าคะ คุณหนูอย่าเป็นกังวลไปเลย คุณชายเจียหรงดูท่าทางจะเป็นสุภาพบุรุษ คงจะปฏิบัติกับคุณหนูด้วยความอ่อนโยน” หลิวหนิงปลอบใจคุณหนูที่ตัวเองดูแลมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ก่อนจะกุลีกุจอไปหยิบชุดปักลวดลายสวยงามด้วยไหมอย่างดีมาสวมให้

ไป๋หลานเฟยต้องแต่งตัวรอการมาเยี่ยมเยียนของจางเจียหรงซึ่งตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายตกลงหมั้นหมายและกำหนดเรื่องการแต่งงานกันแล้ว เขาก็แวะเวียนมาหาหลังเสร็จงานเสมอ

ครอบครัวของนางเปิดโอกาสให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามลำพังเพื่อจะได้ทำความรู้จักสนิทสนมกันเพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็จะต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยามอยู่ด้วยกันตามลำพังนางก็ไม่ค่อยได้สนทนาปราศรัยกับเขามากนัก ด้วยเกรงว่าจะไม่เหมาะสม และนางเองก็ไม่ใช่คนช่างพูดช่างคุย ติดจะเหนียมอาย พูดน้อย ส่วนเขามักจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้นางฟัง บางทีเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เขาพบเจอมา ซึ่งนางชอบและยิ้มรับคำของเขาอย่างเดียวเสียมากกว่า

แต่อาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติเหล่านี้ ท่านอัครเสนาบดีจึงได้เลือกนางก็เป็นได้ ว่ากันว่าชายผู้นี้มีสายตาเฉียบคมยิ่งนัก มักจะมองออกว่าสตรีนางไหนมีลักษณะนิสัยเช่นไร และจะเกี่ยวดองเป็นครอบครัวกับเขาได้หรือไม่ เฉกเช่นที่เขาเลือกภรรยา อนุหรือแม้แต่ลูกสะใภ้ให้บุตรชาย

สตรีเหล่านั้นก็ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งให้รำคาญใจเลยสักนิด ยามที่ออกงานพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนต่างสนิมสนมรักใคร่กันอย่างแท้จริงผิดกับจวนอื่น ๆ ที่เหล่าอนุภรรรยาที่ฉากหน้ารักใคร่ แต่ลับหลังกลับแก่งแย่งชิงดีกัน

ลึก ๆ แล้วนางเองก็ยินดีในการแต่งงานครั้งนี้ เพราะให้นางคงไปสู้รบปรบมือกับคนอื่นคงไม่ไหว

“เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

หลิวหนิงเสียบปิ่นปักผมชิ้นสุดท้ายให้อย่างเบามือแล้วถอยออกไป

“คุณหนูของข้างดงามเหลือเกิน”

คนถูกชมส่ายหัว แต่ก็แย้มรอยยิ้มหวาน

“เจ้าว่าคุณชายเจียหรงจะคิดเหมือนเจ้าไหม” นางถามพลางมองตัวเองในคันฉ่องเบื้องหน้า

“ผู้คนทั่วเมืองหลวงคิดเหมือนข้ากันทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ” สาวใช้พูดให้นางมั่นใจก่อนจะเดินออกไปประตูให้

ไป๋หลานเฟยก้าวออกมาจากห้อง เดินเลี้ยวขวาไปตามทางเดินทอดยาวภายในจวนซึ่งกินอาณาบริเวณกว้างขวาง และมีเรือนต่าง ๆ สำหรับใช้สอยต่างกัน ทั้งเรือนนอน เรือนรับรอง หออ่านหนังสือ หรือแม้แต่เรือนบริวารด้านหลังที่ถูกสร้างอย่างเป็นสัดเป็นส่วนดังเช่นจวนขุนนางอื่น ๆ

พื้นที่กลางจวนถูกจัดให้เป็นที่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีสวนสวยที่เต็มไปด้วยดอกไม้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตรงกลางมีสระน้ำขนาดใหญ่และสะพานเชื่อมเล็ก ๆ ไปยังศาลาชมจันทร์ที่ถูกสร้างยื่นเข้าไปในน้ำอันเป็นที่ที่นางโปรดปรานยิ่ง

ไป๋หลานเฟยก้าวเดินไปอย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบ ทุกกิริยาล้วนอ่อนช้อยงดงามพลางมองไปรอบจวนด้วยความอาลัย เพียงแค่คิดว่าอีกไม่นาน จะต้องจากจวนอันอบอุ่นหลังนี้ไป ก็ทำให้นางอดใจหายมิได้

นางไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในจวนของอัครเสนาบดีที่จะกลายเป็นพ่อสามีมาก่อน นางเพียงแค่เคยผ่านไปยังบริเวณนั้นและเห็นเพียงกำแพงยาวกินอาณาบริเวณกว้างขวาง และหมู่ตึกด้านในหลายหลัง ไม่รู้ว่าภายใต้กำแพงนั่นจะเป็นอย่างไรบ้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel