บทที่ 3 ของรางวัลเหนือชั้นจากระบบ
อย่างไรก็ตาม
เมื่อสายตาของจงชิงกวาดมองไป ผู้คนก็ต่างพากันหลบหน้า
เพราะมีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้จักประมุขภูไร้ประโยชน์แห่งภูอาสน์มู่นั่น
สามารถพูดได้เลยว่าถ้าเกิดถูกเขาเลือกจริง ๆ ชาตินี้ก็ถือว่าจบเห่แล้วล่ะ!
ส่วนประมุขภูที่เหลือกลับรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก ศิษย์ที่มีพรสวรรค์แข็งแกร่งก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากถูกจงชิงเลือกไปคนหนึ่ง ตัวเลือกของพวกเขาก็จะหายไปคนหนึ่ง
โดยเฉพาะเมื่อจงชิงนำสายตาจับจ้องไปทางผู้มีพรสวรรค์สีม่วงนั่น ประมุขภูทั้งหลายก็กัดฟันแน่นจนฟันแทบจะแตกเลยทีเดียว
ต้วนเฟิงยิ่งเบิกตากว้างจนดวงตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
กลัวว่าจงชิงจะเลือกผู้มีพรสวรรค์สีม่วงนั่นไป
“พรสวรรค์สีม่วง!”
“ช่างเป็นพรสวรรค์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉายิ่งนัก!”
ถึงแม้จงชิงจะบำเพ็ญเพียรไม่ได้ แต่เขาย่อมต้องทราบความรู้ของการบำเพ็ญเซียนอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าพรสวรรค์สีม่วงเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริง ๆ
ทว่าเขาไม่ได้ด่วนตัดสินแต่อย่างใด แต่เป็นการสื่อสารกับระบบ
“ระบบ ผู้ชี้เจาะจงที่เจ้าหมายถึงคือผู้ใด?”จงชิงอดถามไม่ได้
「รายงานโฮสต์ เงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวที่จะกระตุ้นพันธนาผู้แพ้ได้คือ ศิษย์ที่โฮสต์รับต้องผู้แพ้ที่แท้จริง」
“ผู้แพ้ที่แท้จริง?”
จงชิงมึนงงไปหมดแล้ว การที่สามารถปรากฏบนสนามจัตุรัสแห่งนี้ได้นั้น มันไม่มีทางมีผู้แพ้ที่แท้จริงอยู่แล้ว
ต่อให้เป็นพรสวรรค์สีขาวที่ระดับต่ำที่สุดก็ตาม อย่างน้อยก็สามารถบำเพ็ญเพียรได้อยู่
「โฮสต์ไม่จำเป็นต้องใจร้อน ตามหาเป้าหมายให้โฮสต์ได้แล้ว ซึ่งเป้าหมายก็คือผู้มีพรสวรรค์สีขาว หลินเฟิง」
เมื่อสิ้นเสียงระบบ ระบบก็ชี้ตัวชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มคนผู้มีพรสวรรค์สีขาวให้จงชิงโดยตรง
ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำ ร่างกายดูแข็งแรง เปี่ยมล้นไปด้วยลมปราณ
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือผู้แพ้ที่แท้จริง?”จงชิงถามอย่างรู้สึกสงสัย
「ระบบไม่มีทางประเมินผิดพลาดแน่นอน โปรดวางใจรับศิษย์ได้เลย หลังจากรับศิษย์สำเร็จ จักมอบรางวัลปริศนาให้แก่โฮสต์」
ในขณะที่จงชิงกำลังสื่อสารกับระบบอยู่นั้น หลินเฟิงที่อยู่ในกลุ่มคนผู้มีพรสวรรค์สีขาวก็กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่
เขาใช้มือขวาหมุนเล่นแหวนเก็บของที่สวมใส่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายเบา ๆ
ไม่นานนัก ก็มีเสียงเสียงหนึ่งสะท้อนเข้าไปในหัวเขา “ไอ้หนู การได้ทำสัญญากับเจ้าช่างเป็นบาปกรรมที่ข้าสั่งสมมาแปดชั่วโคตรจริง ๆ ด้วยฐานกายขยะอันไร้เทียมทานเหนือชั้นของเจ้า เพื่อทำให้มีพรสวรรค์สีขาวปรากฏตอนตรวจสอบพรสวรรค์แล้วได้เข้าร่วมสำนัก แถมยังให้ผู้อื่นจับผิดไม่ได้อีก เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าทุ่มร่างกายแรงใจไปมากเท่าไหร่?”
“ท่านเจี้ยน ขออภัยจริง ๆ นะขอรับ”หลินเฟิงก้มหน้าพลางพูด
“พอแล้ว ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว ในเมื่อทำข้อสัญญาแล้ว เราทั้งสองก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน ขอแค่เจ้าปฏิบัติตามคำสั่งของข้า อนาคตเจ้าต้องพลิกชะตาบรรลุเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้อย่างแน่นอน!”
“รับทราบ ท่านเจี้ยนว่าอย่างไร ข้าก็จักทำเช่นนั้นเลยขอรับ!”หลินเฟิงตอบกลับอย่างตื่นเต้น
“คิดหาวิธีเข้าร่วมภูอาสน์มู่นั่น”ท่านเจี้ยนพูด
“เข้าร่วมภูอาสน์มู่?”
ใบหน้าของหลินเฟิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกใจ “ภูอาสน์มู่นั่นเป็นผู้แพ้เหมือนข้ามิใช่หรือ?”
“ผู้แพ้ก็ผู้แพ้สิ ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะสามารถทำให้คนไร้ค่าอย่างเจ้ากลายเป็นคนเลิศล้ำได้สักหน่อย ข้าหมายความว่าอิงจากการทำนายของข้า ใต้ดินภูอาสน์มู่มีอัคคีอภินิหารที่เจ้าต้องการ หลังจากได้รับอัคคีอภินิหาร ข้าจักสอนวิธีใช้อัคคีอภินิหารกลั่นยาให้เจ้า แล้วเจ้าจะสามารถก้าวขึ้นสู่เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียร ทั้งอยู่เหนืออัจฉริยะทั่วไปได้ด้วย”
“แถมท่านประมุขภูแห่งภูอาสน์มู่คือผู้แพ้ อันที่จริงนี่ก็สามารถทำให้เจ้าทำเรื่องต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย”
“เพราะฉะนั้นขอแค่เจ้าเข้าร่วมภูอาสน์มู่สำเร็จ ข้าก็มั่นใจว่าสามารถทำให้เจ้าก้าวขึ้นสู่เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียรได้ภายในครึ่งปี ผลการฝึกตนบรรลุสู่แดนทิวาเสวียนภายในสามปี หลังจากผ่านพ้นไปสามปี ค่อยโค่นล้มคู่หมั้นที่มีสัญญาสามปีกับเจ้า บรรลุหัวใจแห่งผู้ไร้เทียมทานโดยตรง!”
“ได้ ท่านเจี้ยน ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจักทำได้แน่นอน”
เมื่อได้ยินเสียงของท่านเจี้ยน ใบหน้าของหลินเฟิงก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ กำหมัดแน่นพลางตอบกลับ ในขณะเดียวกันสายตาก็จ้องมองไปทางจงชิงโดยสัญชาตญาณ
ส่วนจงชิงก็กำลังมองเขาอยู่พอดี
ทั้งสองสบตากัน
“ข้าขอเลือกเขา ศิษย์ที่อยู่ในกลุ่มพรสวรรค์สีขาว”จงชิงใช้นิ้วชี้ไปทางหลินเฟิงแล้วพูด
เมื่อสิ้นเสียงจงชิง
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ล้วนผงะ
นี่มันอะไรกัน
อุตสาห์ให้เจ้ามีโอกาสได้เลือกก่อน นึกไม่ถึงจะเลือกพรสวรรค์สีขาวหรือ?
ผู้คนล้วนรู้สึกเหลือเชื่อมาก
ต้วนเฟิงยิ่งหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างอดไม่ได้ จ้องเขม็งไปทางจงชิงแล้วพูด “เจ้าเด็กไร้ประโยชน์ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเองก็สำเหนียกในตัวเองอยู่นี่ รู้ว่าตัวเองจะทำให้ผู้อื่นเสียเวลา ฉะนั้นจึงตั้งใจเลือกพรสวรรค์สีขาวโดยเฉพาะ การกระทำที่ไม่ได้ดำเนินการไปตามการคาดหมายของเจ้ากลับทำให้ข้าต้องชื่นชมในตัวเจ้าจริง ๆ ฮ่าฮ่า”
สีหน้าของซวนหยวนหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูย่ำแย่เช่นกัน
เขาก็นึกไม่ถึงเลยว่าจงชิงจะตัดสินใจเช่นนี้
ทว่าเขาก็ไม่ได้ตำหนิถือโทษจงชิงเช่นกัน เดินทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย
เกรงว่าอาจจะเหมือนอย่างที่ต้วนเฟิงกล่าวมาจริง ๆ กลัวว่าจะทำให้ผู้อื่นเสียเวลากระมัง
“เจ้าหนู เจ้าแน่ใจในการตัดสินใจของตัวเองหรือไม่ ข้าสามารถให้เจ้าเลือกใหม่ได้อีกครั้งนะ”ซวนหยวนหงมองไปทางจงชิงแล้วถาม
“ข้าแน่ใจแล้วขอรับ เลือกเขานี่แหละ”จงชิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ก็ได้!”
เมื่อเห็นว่าจงชิงตัดสินใจแล้ว ซวนหยวนหงก็พูดอะไรมากไม่ได้เช่นกัน อนาคตค่อยคิดหาวิธีอื่นมาสนับสนุนยกระดับภูอาสน์มู่ทีหลังแล้วกัน
และเมื่อเห็นว่าเขาตัดสินใจแล้ว ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์หรือประมุขภูทั้งหลาย ต่างก็รู้สึกโล่งอกมาก
เหล่าศิษย์โชคดีที่ตัวเองไม่ถูกเลือก
ส่วนประมุขภูทั้งหลายกลับรู้สึกโชคดีที่เหล่าศิษย์ที่มีพรสวรรค์ดีเยี่ยมยังไม่ถูกเลือก
“เจ้ายินดีกราบไหว้ข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?”จงชิงเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตามองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ในกลุ่มคน
เมื่อได้ยินเสียงของจงชิง หลินเฟิงถึงจะดึงสติกลับมาได้
เห็นได้ชัดเจนเลยว่า
เขาเองก็รู้สึกตะลึงต่อการตัดสินใจของจงชิงเช่นกัน
เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าท่านเจี้ยนเพิ่งจะให้เขาเข้าร่วมภูอาสน์มู่เอง แต่จงชิงก็เลือกเขาแล้ว
“เจ้าหนู นี่คือโชค ผลที่เกิดจากโชค!”
“เมื่อมีการอบรมสั่งสอนจากข้า ควบคู่กับโชคชะตาที่แหกกฎสวรรค์นี้ อนาคตเจ้าจักมีวุฒิมหาจักรพรรดิยุทธ์ชียวนะ!”
มีเสียงของท่านเจี้ยนดังขึ้นมาในหัวหลินเฟิง
ใบหน้าของหลินเฟิงที่ได้ยินเช่นนี้ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นดีใจเช่นกัน
“เจ้ายังมัวยืนบื้ออยู่กระไร รีบตอบตกลงเขาสิ แค่ตอบกลับพอเป็นพิธีเอง เด็กผู้แพ้คนหนึ่งยังคิดที่จะเป็นอาจารย์เจ้าจริง ๆ หรือ เขายังไม่มีสิทธิ์!”ท่านเจี้ยนพูดย้ำเตือนอีกครั้ง
“ขอรับ”
หลินเฟิงพยักหน้า แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกตื้นตันใจต่อจงชิงอยู่
“ศิษย์ยินดีขอรับ”
หลินเฟิงยิ้มพลางประสารมือก้มคำนับอย่างรวดเร็ว
“ดีมาก มาข้างกายข้าเถิด!”จงชิงยิ้มพลางตอบกลับ
“ขอรับ”
หลินเฟิงพยักหน้า ก่อนจะเดินตรงไปทางจงชิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วไปยืนด้านหลังจงชิง
ส่วนสายตาของผู้คนที่มองไปทางหลินเฟิงก็เหมือนมองคนโง่เช่นกัน รวมไปถึงศิษย์ที่มีพรสวรรค์สีขาวก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน
ตกอยู่ในกำมือของผู้แพ้นั่นแล้ว แต่ยังมีความสุขได้อีก คาดว่าการที่เป็นศิษย์ของเขายังแย่กว่าการไปเป็นศิษย์รับใช้ของยอดภูอื่นเสียอีก
และถัดจากนี้ ก็ถึงคราวต้วนเฟิงเลือกศิษย์สักที
ไม่มีอะไรผิดพลาด ต้วนเฟิงยื่นข้อเสนอให้ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์สีม่วงนั่นโดยตรง ทั้งยังสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ นานาแก่เขา ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะตกลงเข้าร่วมยอดภูของต้วนเฟิง
แม้นประมุขภูที่เหลือจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ต่างเลือกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สีแดงคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของจงชิงในวินาทีนี้กลับมีความสุขมาก
เพราะรางวัลจากระบบถูกส่งมาแล้ว!