บทที่ 3
“เฮ้ย แหวนจะทิ้งกันแบบนี้ได้ไง” พิชญาหันมองตามสายตาเพื่อน เจอเข้ากับสิงหาและเพื่อนอีกสองคนเดินตรงมาทางเธอ จนต้องรีบร้องหาเพื่อนสาวที่เดินจากไป
พิชญารีบลุกขึ้นเดินตามเพื่อนแต่ถูกจับแขนไว้จากด้านหลัง เรี่ยวแรงที่มากกว่าทำเอาเธอเซปะทะอกกว้าง มือเล็กวางแหมะลงกับแผงอก ความแน่นที่สัมผัสได้ทำเธอหัวใจเต้นแรง
“จะไปไหน ตัวแสบ”
สิงหาคำรามเสียงทุ้ม ตัวเขาสูงกว่าเธอมาก สายตาคมมองร่างบางผอมแห้ง สายตาแลเห็นมาม่าคัพที่วางบนโต๊ะแล้วเกิดอารมณ์ขัดใจ ทำไมชอบกินอะไรไม่มีประโยชน์นักนะ
“ฉันไม่ใช่ตัวแสบ แล้วก็เลิกประกาศเรียกหาฉันได้แล้ว มันน่าอาย เข้าใจไหม” พิชญาหันกลับมาต่อว่าเขาเสียงดัง
“ไม่ เธอยกตัวเป็นทาสฉันแล้วก็ต้องทำตามคำสั่ง” สิงหาคิ้วทางขวากระตุกเล็กน้อย อารมณ์โมโหไหลไปทั่วร่างกายเมื่อถูกหญิงสาวปฏิเสธ
“ไม่ทำ คุณมันเจ้าเล่ห์ คุณหลอกฉัน คนโกหก!”
“หึ กล้าด่าฉันงั้นเหรอ” เสียงห้าวทุ้มต่ำฟังดูน่ากลัว พร้อมสายตาดุดันมองไปยังดวงหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“จะทำอะไร” พิชญาถามเสียงสั่นๆ
“นับจากนี้จนจบปีเธอจะต้องเป็นทาสฉัน ถ้าขัดขืนคงรู้ใช่ไหมว่าจะเจออะไร”
สิงหาประกาศกร้าวถือสิทธิ์ครอบครองพิชญาเพียงคนเดียว ตุลามองการกระทำของเพื่อนแล้วชอบใจ เพิ่งเคยเห็นอีกฝ่ายออกอาการอยากเอาชนะครั้งแรก ส่วนเมญ่านั้นยืนมองด้วยความริษยาเพราะทำอะไรไม่ได้
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา พักเที่ยง พิชญามักขลุกอยู่กับสิงหาและเพื่อนชายของเขาบนห้องสภานักศึกษา เธอไม่เต็มใจสักนิดที่จะทำ หากเพราะกลัวถูกไล่ออกจากที่นี่ต้องยอมจำนนให้
“ฉันอยากกินน้ำผลไม้รสเสาวรสที่ร้านหน้ามหาวิทยาลัย” สิงหาสั่งเสียงเรียบเฉย ขณะเหยียดขาไปบนโต๊ะเตี้ยข้างหน้า วางท่าสบายๆ สายตาดุดันมองร่างบางตรงหน้า
“มันไกลนะ” พิชญาบ่น เธอไม่อยากเดินไกลๆ ให้เหงื่อท่วมตัว แต่เมื่อถูกสายตาดุดันตวัดมองต้องรีบรับเงินพร้อมบ่นกระปอดกระแปดให้อีกฝ่ายได้ยินและเดินออกจากห้องนี้ไป ไม่เข้าใจพวกคณะกรรมการหายไปไหนหมด ถึงปล่อยให้พวกเขามานั่งเล่นสบายอกสบายใจ
คอยดูเงินทอนเหลือจะไม่ให้สักบาท
หญิงสาวอาศัยว่ามีรถจักรยานของนักการภารโรงปั่นไปซื้อน้ำผลไม้ให้สิงหาเลยใช้เวลาไม่นานสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการก็อยู่ตรงหน้าแล้ว
“น้ำผลไม้ได้แล้วค่ะ” พิชญายื่นให้พร้อมเสียงหอบ
“ซื้อข้าวผัดปูมาด้วยสิ” สิงหาสั่งหลังรับน้ำผลไม้จากมืออีกฝ่าย
“แล้วทำไมไม่สั่งมาให้ครบจะได้ซื้อครั้งเดียว” พิชญามองหน้าชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ เธออยากกรีดร้องดังๆ แต่ก็ยอมลงไปสั่งให้เขา
“เสร็จแล้ว ฉันจะไปเข้าเรียน” พิชญามองนาฬิกาตรงข้อมือเห็นเวลาอีกยี่สิบนาทีต้องเข้าเรียน แต่นั่นเป็นแค่ข้ออ้างหนีหน้าสิงหาเท่านั้น
“เดี๋ยว ฉันไม่หิวแล้วเธอกินให้หน่อย” สิงหาบอกพร้อมใช้สายตามองข้าวกล่องและน้ำผลไม้
“ได้ไง ฉันซื้อมาเหนื่อยแทบตายนะ” เธอบ่นทั้งที่ท้องเริ่มหิว จำได้ว่าตัวเองก็ยังไม่ได้ทานอาหารเพราะต้องเก็บเงินไว้ทำรายงานตอนใกล้จบ เพราะไม่อยากรบกวนแม่ที่ต้องเก็บเงินไว้ให้น้องสาวขณะรอผลประกาศเรียนต่อ
“จะกินไม่กิน ถ้าไม่กินฉันจะเทมันทิ้ง” สิงหาขู่พร้อมขยับกาย เอื้อมมือไปหยิบข้าวกล่องแต่ถูกหญิงสาวแย่งไป
“กินสิ ของฟรีใครไม่อยากกินบ้าง” พิชญารีบหยิบจานข้าวและน้ำผลไม้ไปนั่งทานเงียบๆ คนเดียว ไม่สังเกตเลยว่าสายตาของสิงหานั้นดูเปลี่ยนไปโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้
“หึ” ตุลามองการกระทำของเพื่อนแล้วหัวเราะเบาๆ
“อะไรติดคอ” สิงหาถามเสียงห้าว
“เปล่า ฉันก็ต้องเข้าเรียนเหมือนกัน รีบตามมาล่ะ” สองหนุ่มเดินออกจากห้องไปแล้ว เหลือแค่พิชญาที่ยังนั่งทานอาหารจนหมด เธอไม่เข้าใจการกระทำของเขาเลยสักนิด เหมือนร้ายๆ แต่ก็ใจดี
ใจดีงั้นเหรอ ไม่มีทาง คำนี้ใช้กับอีตานั่นไม่ได้
พิชญาส่ายหน้าเร็วๆ แล้วเก็บจานไปล้างก่อนจะวางไว้ที่เดิม แล้วเดินออกจากห้องนั้นเพื่อไปเรียนบ้าง แต่ถูกเมญ่าดักทางไว้
“ฉันบอกแล้วไงเลิกยุ่งกับเขาซะ” เมญ่ากอดอกมองหน้า
“ฉันไม่ได้อยากยุ่งกับเขา”
“ถ้าเธอไม่ให้ท่าหนึ่ง มีเหรอเขาจะมายุ่งด้วยแบบนี้” เมญ่าเดินเข้ามาผลักร่างบางจนเซแต่ไม่ล้มพร้อมพูดเสียงดัง