4.ความลัพธ์ของมาร์โค
EP4:ความลับของมาร์โค
เมื่อซื้ออาหารเสร็จ ร่างสมส่วนของนิชากรก็เดินตรงดิ่งเข้ามาหามาร์โคที่กำลังนั่งทานข้าวเงียบๆคนเดียวอยู่ก่อนแล้ว มาร์โคหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ด้วยแววตาเรียบนิ่ง เขาไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรกับการเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามของนิชากร
“นิขอนั่งด้วยนะคะมาร์ค”
“…..” เขาไม่ตอบ เลือกที่จะก้มไปสนใจอาหารตรงหน้าแทน ซึ่งนิชากรก็ชินชากับท่าทางแบบนี้ของเขาไปแล้ว
“มาร์คจำได้ไหมวันนี้วันอะไร”
มาร์โคชะงักเล็กน้อย เขาจำได้ดีหากคำถามนี้เกิดขึ้นระหว่างเขากับนิชากร เขาเข้าใจความหมายของมันดีว่าเธอหมายความว่ายังไง
ความจริงที่ทุกคนรู้ก็คือนิชากรกับมาร์โคเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่ปี 1 ด้วยความหล่อของเขา ทำให้เธอตกหลุมรักได้ไม่ยากเลย แต่คนไร้หัวใจอย่างมาร์โคไม่เคยสนใจใครที่ไหน ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะสวยหรือดูดีแค่ไหน หากไม่ชอบ เขาก็จะไม่แลตามอง แต่ด้วยความโชคดีของเธอละมั้ง นิชากรถึงได้มีโอกาสได้อะไรจากเขามากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่แอบหมายปองเขาอยู่เหมือนกัน
สิ่งที่หมอสาวได้มา นั่นก็คือความสัมพันธ์ลับๆที่เขากับเธอมักจะทำด้วยกันมาตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนจบแรกๆ ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อนกัน แต่…เรื่องนี้มันคือความลับ ไม่เคยมีใครล่วงรู้เรื่องนี้มาก่อน มาร์โคจะขอจะมีอะไรกับเธอก็ต่อเมื่อตอนที่เขาอยากก็เท่านั้น ภายนอกทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันดั่งเช่นปกติ ซึ่งนิชากรก็เข้าใจในเรื่องนั้นดี หากเธอเผลอทำอะไรให้มาร์โคไม่พอใจ เขาสามารถถอนชื่อเธอออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ง่ายๆ เธอรู้ใจเขาดีว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงน่ารำคาญมากแค่ไหน
ถึงแม้ว่าหมอสาวจะต้องการอะไรหลายๆอย่างมากกว่านั้นก็เถอะ เเต่เขาคือคนที่เธอไม่กล้าล้ำเส้นด้วย เซ็กส์ของมาร์โคนั้นดีมาก จนเธอเคยคิดอยากได้มันทุกวัน แต่จะเสียก็ตรงที่ ผอ หนุ่ม ไม่ได้หมกมุ่นอะไรในเรื่องนี้นัก ถึงจะเป็นคู่นอนกันก็จริงแต่เธอกับเขายังมีอะไรกันไม่ถึงสิบครั้งด้วยซ้ำไป
วันเกิดในทุกๆปีนิชากรจะขอของขวัญวันเกิดจากเขา นั่นก็คือเซ็กส์ของเขาที่เธออยากได้ ซึ่งมาร์โคก็ยอมตกลง เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขามีคู่นอนเป็นนิชากรก็จริงแต่บางครั้ง มาร์โคก็เลือกที่จะไปซื้อกินข้างนอก เพราะเขาไม่อยากทำให้นิชากรคิดอะไรกับเขาเกินเลยกว่านั้น มาร์โคเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างระมัดระวังตัวในทุกเรื่องอย่างเข้มงวด
“อืม”
“งั้นคืนนี้เจอกันที่คอนโดนินะ มาร์คออกเวรตอนเย็นใช่ไหม”
“…..” มาร์โคไม่ตอบ เขาเลือกที่จะเดินเอาจานอาหารไปเก็บแทน ซึ่งนิชากรเองก็รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ
แต่ในทางกลับกัน เธอเองก็รู้ดีกว่าใครว่ามาร์โคเป็นคนรักษาคำพูดของตัวเองเสมอ คืนนี้เขาต้องมาหาเธอแน่ๆ เขาจะรู้ไหมว่าเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน และมีอีกเรื่องที่มันกำลังกวนใจหมอสาวอยู่ตอนนี้ ก็คือแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขา กับเรื่องที่พยาบาลพูดในห้องนั้นวันนี้ มันกวนใจเธอเป็นอย่างมาก จนอยากจะถามเขาออกไปให้รู้เรื่อง แต่เธอกลับไม่กล้าพอที่จะทำอย่างนั้น เพราะเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย
@ตกดึก
22:35 น.
ติ๊งต่อง…..
นิชากรผละออกจากแก้วไวน์ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้คนที่มาหา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานิชากรก็เผยยิ้มกว้างออกมา ในที่สุดเขาก็มาหาเธออย่างที่เธอหวังเอาไว้ มาร์โคก้าวเท้าเข้ามาภายในคอนโดสุดหรูที่เขาเคยมาไม่บ่อยนักด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ก่อนที่เขาจะจัดการถอดรองเท้าของตัวเองออกไป
“ดื่มไวน์หน่อยไหมมาร์ค” นิชากรยื่นแก้วไวน์ให้เขา แต่ชายหนุ่มกลับหยิบมันมาแล้ววางเอาไว้ที่เดิม
“ฉันมีเวลาไม่มาก” เขาตอบกลับหน้าตาย
“อืม งั้นไปในห้องกัน” หญิงสาวกระดกไวน์เข้าปากจนหมดแก้วเพื่อเรียกความฮึกเหิมให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินนำทางเขาไปในห้องนอนดั่งเช่นทุกครั้ง
“มาร์คจูบนิหน่อยได้ไหม” เธอหันมาถามเขาน้ำเสียงอ้อยอิ่ง
“ฉันไม่จูบ”
“อื้ม นิเข้าใจ”
เมื่อคุยกันจบทั้งสองคนก็พากันถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปให้พ้นทาง ในระหว่างนั้นมาร์โคไม่รู้ตัวเลยว่าแหวนหมั้นของเขาหล่นและกลิ้งลงไปใต้เตียงของนิชากร บทรักเริ่มขึ้นโดยที่ทั้งสองสุขสมไปพร้อมกันอย่างที่นิชากรปรารถนา แต่มันไม่ได้ช่วยเติบเต็มความรู้สึกใดๆให้เธอเลย ทุกแรงกระแทกที่เขาส่งเข้ามามันไร้ความรู้สึกและว่างเปล่าจนร่างสมส่วนสัมผัสได้ มันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งไป
เมื่อทุกอย่างจบสิ้น ร่างกำยำก็จัดการสวมเสื้อผ้าของตัวเองให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิม นิชากรมองภาพนั้นด้วยความน้อยใจที่ฉายชัดออกมาทางใบหน้า ของขวัญจากเขามันช่างใจร้ายเหลือเกิน ทุกครั้งที่เขาเสร็จสม เขาก็มักจะกลับเลยเสมอ ไม่เคยอยู่หรือพูดคุยอะไรกับเธอเลยเเม้แต่คำเดียว
“ต่อไปฉันคงไม่ได้มาหาเธอแล้ว” เมื่อส่องดูความเรียบร้อยในกระจกเสร็จคนตัวโตก็หันมาพูด
นิชากรได้เเต่เม้มปากแน่น เรื่องงานหมั้นของเขา เธอคงไม่ต้องถามให้มันเจ็บใจเล่นแล้วละ ในเมื่อเขาชัดเจนซะขนาดนี้
“ทำไมคะ….เพราะมาร์คมีคู่หมั้นแล้วน่ะเหรอ”
“…..” เขาไม่ตอบ เอาแต่จ้องหน้าเธอนิ่ง จะให้ฟันธงว่าเพราะเรื่องนั้นทั้งหมดก็คงไม่ใช่ มันเป็นเพราะเขาเริ่มเห็นว่าสายตาของนิชากรเริ่มมีความต้องการเขามากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เขาไม่อยากให้ความหวังใครและเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงตรงหน้าเลยสักนิด เขาถึงอยากให้ความสัมพันธ์นี้มันจบลง
“มาร์คแอบไปหมั้นตอนไหน นิไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย”
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ” คำพูดอันตรงแสนตรงของเขา ทำเอาคนที่รู้สึกดีด้วยกระอักเลือดมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว เช่นเดียวกับนิชากรในตอนนี้ เขากำลังตอกย้ำ ว่าเธอไม่ได้สำคัญอะไรในชีวิตเขาเลย
“นิขอโทษ แต่ว่า….ถึงมาร์คหมั้นแล้ว นิก็ไม่ได้มีปัญหา” เธอไม่อยากเสียเขาไปเลยจริงๆ ร่างสมส่วนนั่งเปลือยกายอยู่บนเตียงใหญ่ เธอจ้องมองเขาอย่างมีความหวัง ต่อให้เธอจะกลายเป็นคนไม่มีค่า ไร้ศักดิ์ศรีเธอก็ยอม ขอเพียงแค่เขามาหาเธอนานๆครั้งเหมือนเดิมก็ได้
“แต่ฉันมี….ฉันไม่อยากให้ความหวังใคร เรื่องของเราให้มันจบแค่นี้” พูดจบ มาร์โคก็ไม่สนใจจะรอฟังอะไรอีกต่อไป เขาเดินออกไปจากคอนโดหรูเงียบๆ ท่ามกลางความเสียใจของคุณหมอสาวเจ้าของห้อง
วันต่อมา
@Must Hospital
11.00 น.
ร่างหนาเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยใบหน้าเปื้อนเหงื่อวันนี้เขาต้องออกเวรตั้งแต่แปดโมงเช้าแล้ว พอดีมีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามา กว่าจะได้ออกมาก็ปาไปสิบเอ็ดโมง ร่างสูงใหญ่ของหมอหนุ่มอยากกลับไปพักผ่อนเสียเต็มประดา โชคดีที่ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเขากินข้าวไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้จึงไม่รู้สึกหิว อยากกลับไปนอนพักที่ห้องให้เร็วที่สุด
แต่ในระหว่างนี้เขาต้องเดินกลับไปเอาโน๊ตบุ๊คที่ห้องทำงานก่อน วันนี้เขาเข้าเวรอีกทีตอนค่ำ กะจะเอาโน๊ตบุ๊คไปเช็คตารางงานเสียหน่อย แต่เดินมาถึงหน้าประตูห้องร่างสูงก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อเห็นว่าร่างสมส่วนของคู่หมั้นนั่งรอตัวเองอยู่ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
คงมาทุกวันอย่างที่พูดจริงๆสินะ….
“สวัสดีค่ะพี่มาร์ค” เอมิกาลุกขึ้นและยิ้มทักทายเขาด้วยความดีใจ รดาแจ้งกับเธอว่า ผอ มีเคสผ่าตัดด่วน หญิงสาวก็เลยนั่งรอ เธออยากให้อาหารกับเขาด้วยมือของตัวเอง แล้วก็…..อยากเจอหน้าเขาด้วย เพราะเธอคิดถึง
“อืม”
“นี่อาหารเที่ยงค่ะ วันนี้มี่ทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ามาให้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี พร้อมกับยื่นกล่องข้าวให้เขา
เธอใช้กล่องที่ทำมาจากธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ ก็เลยเลือกที่จะตกแต่งมันด้วยผ้าลายน่ารักๆแทน
“ขอบใจ” เขารับมันไม่แต่ไม่คิดจะกินมันเหมือนเช่นเคย
“กระเพราเมื่อวานเป็นยังไงบ้างคะ รสชาติถูกปากหรือเปล่า” หญิงสาวพยายามชวนคุย ถึงแม้ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างห่างเหินแต่เธอก็ยังคงพยายาม
“ก็ดี”
“จริงเหรอคะ ดีใจจังที่พี่มาร์คชอบ ถ้าพี่มารค์อยากทานอะไรเป็นพิเศษบอกมี่ได้เลยนะคะ มี่จะตั้งใจทำให้ทานค่ะ” เอมิกาแสดงความดีใจออกมา โดยหารู้ไม่ว่าคนตัวโตไม่ได้ทานอาหารฝีมือของเธอเลยสักคำ
มาร์โคมองรอยยิ้มของคนตรงหน้าด้วยดวงตาเฉื่อยเป็นนิจ เธอไม่เบื่อบ้างหรือไงที่ต้องปั้นหน้ายิ้มตลอดเวลา เขารู้สึกเมื่อยหน้าแทน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น คงหลงรักเจ้าของรอยยิ้มนี้ไปนานแล้วมั้ง แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับเขาหรอก
“ไม่เป็นไร”
“อุ๊ยตายแล้ว! มัวแต่พูดจนลืมดูเวลาเลย งั้นมี่ไปก่อนนะคะพี่มาร์ค พรุ่งนี้เจอกันค่ะ” มีมี่ฉีกยิ้มกว้างส่งให้เขาอีกครั้งก่อนจะก้มหัวให้แล้วรีบเดินออกไปจากตึกสูง
“อ้าว ผอ นึกว่ากลับไปพักแล้วเสียอีกค่ะ” รดาที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำเดินกลับเข้ามา พร้อมกับทำหน้าแปลกใจที่เห็นเจ้านายยืนอยู่หน้าห้อง
“อืม กำลังจะไป”
“เอานี่ไป ผมให้”
ปึก!
มาร์โคยัดกล่องข้าวใส่ในมือของพยาบาลสาวโดยไม่สนใจสักคำว่ารดาอยากรับไหม จากนั้นร่างสูงก็หมุนตัวออกไปจากตรงนั้น เขาเปลี่ยนใจไม่เข้าไปเอาโน๊ตบุ๊คในห้อง กลับไปนอนเอาแรง แล้วค่อยลงมาเช็คดีกว่า
“แต่รดาทานข้าวแล้วนะคะ ผอ!” รดาตะโกนตามหลังไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ผอ สุดหล่อของเธอเดินขึ้นลิฟท์หายไปแล้ว พยาบาลสาวก้มลงมองกล่องข้าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ทำไม ผอ ถึงไม่ยอมกินข้าวของคู่หมั้นตัวเอง เต็มใจหมั้นหรือเปล่าเนี่ย” เธอบ่นไปตามประสาคนขี้สงสัย ก่อนจะวางกล่องข้าวลงแล้วตั้งใจเคลียร์งานของตัวเองต่อ
ด้านของมีมี่
เนื่องจากร่างเล็กสาวเท้าไวเกินไป เธอกลัวไปไม่ทันเข้าคลาส ร่างบางจึงเผลอเดินไปชนไหล่เข้ากับใครคนนึงที่ใส่ชุดกาวน์อยู่
ปึก!
“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” เอมิการีบเอ่ยออกมา เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนอีกคนจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะๆ” นิชากรหันมายิ้มให้ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันเดินไปตามทางของตัวเอง