บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ท่านโหวน้อย "หยวนเสี่ยวผิง"

“ท่านพี่นี่ท่านกำลังข่มขู่ข้างั้นหรือเจ้าคะ”

แม่ทัพฟางรู้ดีว่าต่อให้ต้องเลือกนางก็ไม่อยากได้ท่านโหวน้อยที่ดูกะล่อนของสกุลหยวน

“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่ได้ชอบ "หยวนเสี่ยวผิง" ท่านวางใจได้ข้าไม่มีทางแต่งกับเขาหรอกเจ้าค่ะ"

“แต่ว่า…เฮ้อ ช่างเถอะหากว่าเจ้าตัดสินใจเช่นนั้นแล้วแม่ก็คงสุดจะห้าม เช่นนั้นแม่จะเขียนจดหมายส่งไปให้ท่านตาเจ้า ท่านพี่ท่านเองก็ส่งไปที่กองทัพเพื่อให้หลงเอ๋อร์ด้วย”

“เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าท่านอ๋องจะทรงกรำศึกหนักขนาดไหนแต่ข้าเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่ละทิ้งม่านเอ๋อร์ของพวกเรา เจ้าอย่าลืมสิว่าหลงเอ๋อร์เป็นสหายร่วมศึกของพระองค์”

“ข้าทราบเจ้าค่ะ”

หอหงซื่อ

ก่อนเดินทางเพียงสามวันฟางหลีม่านก็ออกมาเดินเล่นและฟังละครที่โรงละครเลื่องชื่อของซีโจวกับสาวใช้ของนางซึ่งพวกนางมาที่นี่เป็นประจำอยู่แล้วแต่วันนี้กลับมีแขกที่นางเองก็ไม่คิดว่าจะพบที่นี่

“หลีม่าน เจ้าจะรับหมั้นกับท่านอ๋องจอมโหดผู้นั้นจริงเหรอ”

“ท่านโหวน้อย ท่านมาที่นี่ได้เช่นไรกัน”

“หยวนเสี่ยวผิง” ไม่เพียงเข้ามาแต่เขาเดินมานั่งข้าง ๆ นางอีกด้วย หยวนเสี่ยวผิงชอบพอฟางหลีม่านมานานแล้วนับตั้งแต่นางเข้าพิธีปักปิ่น เขาก็ลดนิสัยเจ้าชู้และตามเกี้ยวนางอยู่ร่วมสองปีแต่หลีม่านดูเหมือนว่าจะไม่ได้คิดอะไรกับเขานอกจากเห็นเขาเป็นเพียงสหายเท่านั้น

“ท่านโหวน้อย ข้ารับการหมั้นหมายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน แล้วที่ท่านกล่าวหาอยู่นั้นคือว่าที่คู่หมั้นของข้า เขาเป็นถึงองค์ชายเชียวนะท่านจะมาพูดว่าเขาโหดเหี้ยมเช่นนี้ไม่กลัวตายหรืออย่างไร ต่อให้ตระกูลหยวนทั้งตระกูลมีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัดหรอกนะ”

“เจ้าอย่ามาขู่ข้าเลย ได้ข่าวว่าเจ้าเตรียมตัวจะเดินทางไปที่เมืองลู่โจวแล้วงั้นหรือ”

“ท่านโหวน้อยช่างจมูกไวเสียจริงเรื่องนี้ท่านก็ยังรู้”

“เรื่องของเจ้าไม่ว่าอะไรข้าก็รู้ทั้งนั้น แต่ว่าข้าอยากจะมั่นใจจริง ๆ เจ้าจะไปจริงหรือ ที่นั่นมันอยู่ติดกับชายแดนนะ”

“ข้าจะไปที่ใดท่านเกี่ยวอันใดด้วย นี่ท่านโหวน้อยข้าขอเตือนท่านอีกครั้ง ข้ากำลังจะหมั้นหมายแล้วคงไม่เหมาะที่ท่านจะมาพบปะข้าเช่นนี้”

“ตราบใดที่เจ้ายังไม่เข้าพิธีแต่งงานข้าก็ยังมีสิทธิ์ ข้าไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นท่านโหวแม่ทัพ หรือท่านอ๋อง”

หลีม่านกลอกตาไปมา แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่เคยเถียงสู้หยวนเสี่ยวผิงผู้นี้ได้อยู่แล้ว และอีกไม่กี่วันนางก็จะไปจากซีโจวคงไม่ต้องพบกันอีก นางจึงเลือกที่จะไม่ถกเถียงกับเขาเมื่ออีกฝ่ายยอมถอยและเดินออกไปเอง

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านโหวน้อยผู้นี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง ๆ เลย ตามตื๊อท่านมาหลายปีแล้ว มาวันนี้ยังไม่ยอมแพ้อีก คนอะไรกันเหตุใดท่านเจ้าเมืองจึงไม่สั่งสอนบุตรชายเสียบ้างนะ”

“เอาเถอะ ๆ เจียวจูเจ้าก็อย่าได้โมโหไปเลยอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางแล้วคงไม่พบเขาอีกหรอกน่า”

ฟางหลีม่านปลอบเจียวจูที่ยืนไม่พอใจเมื่อท่านโหวหยวนเดินออกจากร้านไป แม้ว่าเขาจะดูเจ้าชู้และไม่เอาไหนแต่ก็นับว่าเขาเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามเปี่ยมไปด้วยความรู้ เพียงแค่ไม่ได้เป็นทหารแต่ก็พอมีวรยุทธ์เพราะเรียนกับสำนักศึกษาอันดับหนึ่งและอันที่จริงแล้วเขานิสัยคล้าย ๆ กับฟางหลีม่านอยู่หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว รักสนุกและชอบอิสระ

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านไม่รีบกลับไปเก็บของหรือเจ้าคะ”

“ไม่ล่ะ ข้าพยายามทำตัวให้เป็นปกติอยู่เจ้าก็เห็นว่าท่านแม่ข้าพอเห็นว่าข้าเริ่มเก็บของนางก็เอาแต่ร้องไห้ ข้าจะเก็บตอนกลางคืนนางจะได้ไม่ต้องคิดมาก ถึงอย่างไรก็ต้องเห็นใจนางหน่อยเพราะพี่ใหญ่เองก็ไม่เคยกลับซีโจวนับตั้งแต่….”

“คุณหนู แต่ก็ยังเหลือคุณหนูสามนะเจ้าคะ”

“อาหรูยังเด็ก แม้ว่านางจะเป็นบุตรสกุลฟางแต่นางก็ยังมีแม่อยู่เจ้าอย่าลืมสิ แต่ท่านแม่ของข้า…”

“เช่นนั้นท่านยังจะจากฮูหยินไปได้ลงคออีกหรือเจ้าคะ ไม่สู้รอท่านอ๋องอยู่ที่นี่”

“เอาล่ะละครจบแล้วพวกเรากลับกันเถอะ ข้าจะไปเตรียมของสำหรับการเดินทางสักหน่อย”

“เจ้าค่ะ”

เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าคนในจวนสกุลฟางคิดเช่นไร รวมถึงคนข้างกายนางอย่างเจียวจูด้วย เพียงแต่นางอยากจะออกท่องเที่ยวบ้างก็เท่านั้น อีกอย่างนางเองก็ไม่ได้พบหน้าพี่ชายคนเดียวของนานหลายปีแล้วนับตั้งแต่ที่ท่านอ๋องขออาสาออกศึกพี่ใหญ่ของนางก็ร่วมติดตามเขาดุจเงา

สามวันถัดมา วันเดินทาง

“ดูแลตัวเองให้ดี ท่านตาจะรอรับเจ้าไปที่จวนของเขาก่อนที่หน้าเมืองลู่โจว จงอย่าลืมว่าอย่าสร้างความลำบากใจให้ท่านตานะเข้าใจหรือไม่”

“ท่านแม่ ท่านบอกลูกครั้งนี้เป็นครั้งที่แปดแล้วนะเจ้าคะ ท่านพ่อ ลูกไปก่อนนะเจ้าคะ ฝากดูแลท่านแม่ด้วย”

“ไปเถอะ”

“พี่รอง ท่านดูแลตัวเองดี ๆ ข้าทำขนมมาให้ท่านพกติดตัวไปด้วย”

“อาหรู แม่รองข้าฝากดูแลท่านแม่ด้วยนะเจ้าคะ”

“ม่านเอ๋อร์ เจ้าเดินทางคนเดียวต้องระวังให้มาก ๆ นี่แม่รองให้เจ้าเอาไว้ป้องกันตัว อย่าให้ท่านแม่เจ้าเห็นนางไม่ชอบอะไรเช่นนี้”

“หลงเยี่ยน” ฮูหยินรองยื่นกริชสีเงินอันเล็กสำหรับให้นางพกติดตัวเอาไว้มาให้ หลีม่านหันไปยิ้มให้แม่รองที่ตอนนี้เริ่มน้ำตาคลอเช่นเดียวกับมารดาของนาง แม้ว่านางจะแต่งเข้าจวนมาทีหลังแต่ทั้งสองฮูหยินก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน

สามพี่น้องที่เติบโตมาพร้อมกันก็รักใคร่กันดีไม่เหมือนกับจวนอื่น ๆ ที่มีฮูหยินหลายคน อาจจะเป็นเพราะเติบโตในจวนแม่ทัพที่เข้มงวด ลูก ๆ ของในจวนจึงไม่เหมือนจวนอื่น

“ท่านแม่รองท่านเองก็รักษาสุขภาพให้ดี”

“อย่าลืมวิชาที่ข้าสอน เอาไว้ใช้ยามจำเป็นนะดูแลตัวเองให้ดี ๆ ไม่ต้องห่วงท่านแม่เจ้า แม่รองจะดูแลนางเป็นอย่างดี”

“ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ อาหรูพี่ไปนะ”

“เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ”

รถม้าและขบวนคุ้มกันของจวนแม่ทัพเดินทางออกจากจวนแล้ว เมื่อขบวนออกจากประตูเมืองมาได้ฟางหลีม่านก็เปิดหน้าต่างมองออกไปด้านนอก

“เจียวจูเจ้าดูสิ เราออกมานอกเมืองแล้วจริง ๆ”

“คุณหนูท่านอย่าเปิดหน้าต่างเช่นนั้นเจ้าค่ะ ไม่งามนะเจ้าคะ”

“เจียวจูที่นี่นอกจากต้นไม้และทหารคุ้มกันก็ไม่มีคนอื่นเลยนะ เจ้าดูสิ”

เจียวจู สาวใช้ของนางกำลังจัดเก็บของจำเป็นอยู่บนรถม้าและค่อย ๆ วางของเพื่อจะมาดูบรรยากาศนอกเมืองที่เต็มไปด้วยป่าเขาและมีถนนเพียงเส้นทางเดียวที่จะพาพวกนางมุ่งไปสู่เมืองลู่โจว

ซึ่งหากนับจากเวลาเดินทางแล้วน่าจะใช้เวลาประมาณสองวันกว่า ๆ ถึงจะถึงเมืองลู่โจวที่ท่านตานางอาศัยอยู่ ส่วนกองทัพของท่านอ๋องและพี่ใหญ่ของนางนั้นอยู่ห่างจากเมืองลู่โจวไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น

“คุณหนู นอกเมืองนี่อากาศดีอย่างที่ท่านเคยบอกจริง ๆ เจ้าค่ะ”

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าต้องชอบ เอ๊ะนั่นอะไรน่ะ”

รถม้าของคณะสกุลฟางจอดพักที่ศาลาพักม้านอกเมืองเพื่อส่งรายงานให้ยังเจ้าหน้าที่เพื่อให้ทราบว่าผู้ใดจะผ่านเข้าเมืองถัดไป เมื่อฟางหลีม่านเดินลงมาจากรถม้า นางกับเจียวจูก็ต้องตกใจแทบจะล้มเมื่อเห็นว่าผู้ใดที่ตามมา

“คุณหนูเจ้าคะ นั่น….”

“หยวนเสี่ยวผิง เขามาทำอะไรที่นี่กัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel