08 คู่หมั้นNC
“มะ….ไม่นะอื้อ” คำพูดของพิงค์ถูกกลืนลงคอไปเมื่อมาเฟียหนุ่มกดจูบแสนเร่าร้อนลงมา สองมือรวบแขนของเธอขึ้นไว้เหนือศรีษะ ก่อนจะพันธนาการเธอด้วยกุญแจมือสีแดงที่ซุกซ่อนอยู่ใต้หมอน
แกร๊ก~
“อืมมม….จะเอากับผัวไม่ต้องขัดขืนหรอกที่รัก” มาเฟียหนุ่มพูดน้ำเสียงเย็นยะเยือก ก่อนจะรูดเนคไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อที่สวมใส่อยู่ออกไปอย่างรวดเร็วด้วยมือเพียงข้างเดียว
“อย่าทำแบบนี้ ไอ้บ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” ดูเหมือนว่าการขัดขืนของเธอ จะทำให้มาเฟียหนุ่มชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
มือหนาลูบไล้ต้นขาขาวเนียนไปมาก่อนจะสอดเข้าไปด้านใน แล้วรูดจีสตริงสีดำที่เธอสวมใส่อยู่ออกมาเหวี่ยงทิ้งลงไปข้างเตียง
“ไอ้บ้า! ไอ้ทุเรศ! ไอ้คนไม่รักษาสัจจะ!” เธอตะโกนด่าทอสารพัดคำพูดที่คิดออกมาได้ในตอนนั้น เพื่อหวังว่าจะให้ชายหนุ่มเสียอารมณ์และเลิกทำแบบนี้กับเธอ
“ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีทางขัดขืนได้เขาจึงผละตัวออกไปถอดเสื้อผ้าของตนเองออก ก่อนจะคลานขึ้นมาหาเธออีกครั้ง
ผลั่ก!
“ซี๊ดด ยัยตัวแสบ” ร่างใหญ่ร้องอุทานเมื่อจู่ ๆ พิงค์ก็เหยียดขาถีบเขาอย่างแรง แต่ยังดีที่หลบทันเลยเฉียดแค่ด้านข้าง ถ้าเข้าเต็ม ๆ น้องชายของเขาคงใช้งานไปไม่ได้อีกหลายเดือน “จะแรงเยอะไปถึงไหนวะ”
“ออกไป ไม่อย่างนั้นฉันถีบนายอีกแน่”
“กล้าก็เอาสิ!”
มือสองข้างจับขาของพิงค์เอาไว้แน่นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปตรงกลางกายของเธอ
“ดูซิเข้ามาขนาดนี้แล้วยังจะถีบฉันได้อีกหรือเปล่า”
“กรี๊ดดด ไอ้บ้า ไอ้หน้าปลาทู ไอ้^#^#^%&^” สารพัดคำด่าที่เธอพ่นออกมาใส่หน้าเขา
“แม่งกูจะไม่เป็นคนอยู่แล้วนะ ด่าอยู่ได้ เจอดีแน่”
เสื้อเกาะอกของพิงค์ถูกดึงลงมากองที่หน้าท้องเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่ม ที่ไม่เคยผ่านชายใดมาเลยนอกจากเขา หัวนมสีชมพูแดงเย้ายวนน่าลิ้มลอง
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
“อ๊ะ อ๊าส์ อื้อ อื้ม~” ร่างเล็กเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงอุบาทว์ของตัวเอง
มาเฟียหนุ่มตวัดเรียวลิ้นอย่างรัว ๆ ที่ยอดถันสีแดงจนเยิ้มเต็มไปด้วยน้ำลาย
“มะ ไม่ อ๊าส์” เธอพยายามขัดขืน แต่ยิ่งขัดขืนมากเท่าไหร่เขาก็รุกแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
กึด~
“อ๊ะส์ นะ นายมันเจ็บ! อื้อ” ร่างบางกัดปากตัวเองแน่นเมื่อมาเฟียหนุ่มพยายามสอดแทรกแก่นกายยักษ์เข้าไปในร่องแคบของเธอ โดยไร้สารหล่อลื่นใด ๆ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“อืมมม~” ดูเหมือนคำร้องขอของเธอจะไม่เป็นผลอะไร มาเฟียหนุ่มพยายามดันแก่นกายใหญ่เข้าไปในร่องแคบของเธอเท่าที่จะทำได้ “ซี๊ด แน่นจังวะ!”
เขาก้มลงมองที่จุดเชื่อมต่อ ร่องแคบของเธอมันมีรอยแยกปริออกและมีเลือดซิบออกมาเล็กน้อย บ่งบอกว่าจุดกลางกายของเธอมันกำลังฉีกออกเพราะถูกท่อนใหญ่ขนาดไม่ธรรมดารุกล้ำเข้าไป
“ฉะ ฉันเจ็บ อื้อเอามันออกไป”
“ไม่ทันแล้วพิงค์ มาขนาดนี้แล้วทนเอาก็แล้วกันนะ” แทนที่มาเฟียหนุ่มจะดึงแก่นกายยักษ์ออกไป แต่เขากลับพยายามดันมันเข้าไปในร่องแคบของเธอ “อืมมม แน่นฉิบหาย!!” ริมฝีปากหนาสบถคำหยาบออกมา ก่อนจะชำเลืองตาขึ้นไปมองพิงค์ที่นอนแสดงสีหน้าเจ็บปวดอยู่ใต้ร่าง
“อึกก~ จะ เจ็บ”
ตับ ตับ ตับ
ปัก ปัก ปัก
มาเฟียหนุ่มถาโถมแก่นกายใหญ่เข้าร่างเล็กอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน
“….” พิงค์ได้แต่นอนหลับตาเม้มปากแน่น มันมีแต่ความเจ็บปวดที่มาเฟียหนุ่มมอบให้แก่เธอ แรงกระแทกทำให้ร่างกายของเธอสั่นคลอนไปทั้งตัว กุญแจมือที่พันธนาการเธอไว้กับหัวเตียงตอนนี้มันรูดกับข้อมือของเธอจนรู้สึกแสบ
“อ่ะ อ่าส์ อืมม~” ร่างใหญ่กระตุกเกร็งพร้อมกับปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นเข้าไปในช่องท้องของคนใต้ร่าง ก่อนจะค่อย ๆ ดึงรูดแก่นกายยักษ์ออกมาอย่างช้า ๆ ตามด้วยน้ำสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักออกมาจากปากร่องสีแดงปนเลือดจาง ๆ
“พอแล้ว พอแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว..” ริมฝีปากบางเอ่ยร้องขอคนด้านบน
“แต่ฉันยังไหว” มาเฟียหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปปลดกุญแจมือที่พันธนาการเธออยู่ “เลือดไหลเลยหรอ ฉันขอโทษที่รุนแรงมากไป”
ครั้งนี้เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับจ้องมองที่ข้อมือของพิงค์ด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
“พะ พอแล้วได้ไหม ฉันไม่ไหวแล้ว”
“ได้ครับ นอนซะนะ” มาเฟียหนุ่มดึงผ้าห่มหนาขึ้นมาคลุมร่างกายให้กับเธอก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าห้องน้ำไป
พิงค์ที่เพิ่งจะผ่านรสรักสวาทกลับมาเฟียหนุ่มมา เธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย
เช้าวันต่อมา
“อื้มม~~” ร่างเล็กพลิกตัวดิ้นไปมาบนเตียงใหญ่ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเพราะความเจ็บแสบที่ด้านล่างทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืน “ซี๊ดด ไอ้บ้าคราม!”
“เรียกหาชื่อผัวแต่เช้าเลยนะ คิดถึงกันเหรอ” ร่างใหญ่เดินเข้ามานั่งลงที่ปลายเตียง ร่างกายมีเพียงกางเกงวอร์มขายาวปกปิดส่วนล่าง ซึ่งมันก็ยังมีบางส่วนนูนออกมาให้เห็น ส่วนอกแกร่งก็เต็มไปด้วยมัดกล้ามบ่งบอกว่าเขานั้นดูแลร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดี แถมยังมีรอยสักเลขโรมันที่สีข้างอีก เซ็กซี่ไม่เบาเลย
“เรียกหาเพราะจะด่าต่างหากล่ะ ไอ้…”
“พอเถอะ ที่เธอด่าฉันเมื่อวาน ก็ไม่เหลือความเป็นคนแล้วนะ”
“…” พิงค์จ้องมองมาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเอามาก ๆ แต่การกระทำของเธอทำให้เขามีรอยยิ้มออกมา
“เธอจะกลับไทยหรือเปล่าล่ะ?”
“….” เมื่อได้ยินคำถามนี้สีหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปทันที
“ไม่ต้องกลัวหรอก เธอเป็นเมียฉัน ฉันไม่ยอมให้เมียตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่นหรอก ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไงว่าฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นของใครเด็ดขาด”
“….” พิงค์จ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความสงสัย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ “เรื่องที่รูมเมทของฉันแต่ละคนหายไป เกี่ยวกับนายด้วยหรือเปล่าคราม”
“….” มาเฟียหนุ่มไม่ตอบมีเพียงรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
“คราม…”
“หืม…ว่าไง”
“นายทำแบบนั้นทำไม” เขาไม่ตอบแค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของเขา “นายทำร้ายเพื่อนของฉันทำไม พวกเขาไปทำอะไรให้นาย”
“มันไม่ได้ทำฉัน แต่มันทำเธอ!” มาเฟียหนุ่มกดเสียงต่ำ พร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยด้วยสายตาที่แข็งกร้าว
“ทะ ทำอะไร?” เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก สีหน้าของพิงค์ก็เปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวคนตรงหน้า
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่าฉันทำเพื่อปกป้องเธอ”
“ถ้าอย่างนั้น ผู้ชายสามคนที่ถูกฆ่าตายในตรอก ก็เป็นฝีมือของ…”
“ใช่เป็นฝีมือของฉันเอง!”
“ทะ ทำไมนายถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้”
“สักวันเธอจะรู้ว่าโลกของความเป็นจริงมันไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เธอคิดเลย”
“….” พิงค์เงียบ ถึงจะไม่เข้าใจคำพูดของครามที่พูดกับเธอ แต่เธอก็ไม่อยากถามอะไรต่อ เพราะกลัวว่ามาเฟียหนุ่มจะฆ่าเธอเหมือนสามคนนั้น
“ไปอาบน้ำฉันจะลงไปรอด้านล่าง”
“อะ อืม” เธอพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงแล้วเข้าห้องน้ำไป
เวลาต่อมา
“หน้าซีดจังเลยนะคะคุณพิงค์ ไม่สบายหรือเปล่าคะ?” แม่บ้านเอ่ยถามเมื่อพิงค์เดินมาถึงโต๊ะอาหาร
“เอ่อ เปล่าค่ะ”
“เธอไม่เป็นอะไรหรอกครับป้า แค่จัดหนักกันมากไปหน่อย” มาเฟียหนุ่มที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่บนโต๊ะก็ให้คำตอบกับแม่บ้านทันที พร้อมกับหันมองใบหน้าของพิงค์ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ไม่เบา
“คุณพิงค์จะรับอะไรดีคะ มีข้าวต้มกุ้งกับโจ๊กหมูค่ะ”
“เธอแพ้กุ้งครับป้า คราวหลังอย่าทำอาหารที่มีกุ้งนะครับ” ครามตกใจถึงกับวางแก้วกาแฟลงทันที เขาลืมเตือนเรื่องนี้กับแม่บ้าน ยังดีที่บอกได้ทันและพิงค์ยังไม่ได้แตะต้องข้าวต้มนั้น
“ค่ะ ๆ ขอโทษด้วยนะคะพอดีว่าป้าไม่รู้ว่าคุณพิงค์แพ้กุ้ง”
“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้า พิงค์กินอะไรก็ได้ค่ะขอบคุณนะคะ”
“งั้นเดี๋ยวป้าไปตักโจ๊กหมูมาให้นะคะ”
“ค่ะ”
“นั่งลงก่อนสิ”
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันแพ้กุ้ง?” พิงค์เอ่ยถามอย่างงงๆ เรื่องนี้แทบจะไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำ พ่อแม่ของเธอรู้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่าว่าเธอแพ้กุ้ง
“ก็ไม่เห็นแปลกเลย เวลาเธอให้ความสำคัญกับใคร เธอสังเกตเขาหรือเปล่าล่ะ ว่าคนนั้นชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร”
“อ้อ” พิงค์เลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ
“โจ๊กหมูร้อน ๆ มาแล้วค่ะคุณพิงค์”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
“กินด้วยดิ” ครามพูด พร้อมกับมองหน้าของพิงค์
“เดี๋ยวป้าไปตักให้ใหม่นะคะคุณคราม”
“ไม่เป็นไรครับป้า ป้าไปพักเถอะ ผมอยากกินถ้วยเดียวกับเมียมากกว่า”
“….” คำพูดของมาเฟียหนุ่มทำให้พิงค์ถึงกับตาลุกวาว
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นป้าไปทำความสะอาดในครัวก่อนนะคะ มีอะไรก็เรียกได้ทันที”
“ครับ” ครามตอบแม่บ้าน ก่อนจะลุกมานั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ กับพิงค์ “กินด้วยคนสิ เมื่อคืนฉันก็เสียพลังงานไปเยอะเหมือนกันนะ”
“หยุดพูดเลยนะ!”
“ป้อนหน่อยดิ” เขาอ้าปากราวกับเด็กสามขวบรอแม่ป้อนข้าว
“อะ..” พิงค์ตักโจ๊กในถ้วยใส่ปากให้กับเขาอย่างว่าง่าย แต่ลืมไปว่ามันยังร้อนและเธอก็ไม่ได้เป่าเลย
“พรวดด ร้อน ๆ ๆ หืมม ปากพองหมดแล้วพิงค์”
“ฉะ ฉันขอโทษ เป็นไงมั่ง” พิงค์รีบหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้กับเขา
“ร้อนดิถามได้”
“ขอโทษ ฉันลืมไปว่ามันยังร้อน” พิงค์มองหน้ามาเฟียหนุ่มด้วยความรู้สึกผิด เพราะตอนนี้ริมฝีปากของเขาแดงแจ๋เพราะถูกโจ๊กร้อน ๆ ลวกเต็มปาก
“คืนนี้เธอเจอดีแน่”
“….”