06 บังคับ
เวลาต่อมา
พิงค์ Talk
เรียนจบได้สักทีนะเรา กว่าจะจบได้เหนื่อยใช่ย่อยเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันต้องย้ายออกและหาห้องเช่าใหม่อยู่ประจำ ฉันเปลี่ยนห้องเช่าอยู่ประมาณเดือนละ 4 ครั้ง เพราะไม่อยากให้ใครตามมาเจอ และป้องกันพวกโรคจิตที่คอยแอบตามฉันอยู่ด้วย
ถึงตอนนี้ฉันจะเรียนจบแล้วแต่ฉันก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองนับต่อจากนี้เลย ฉันไม่อยากกลับบ้านเพราะรู้ว่าถ้ากลับไปแล้วฉันจะต้องถูกจับคลุมถุงชนแน่นอน ทางที่ดีฉันควรหางานทำที่นี่เลยโดยไม่ต้องกลับไปเมืองไทย
เวลาผ่านไป
"บ้าจริง!!" ฉันสบถอย่างหัวเสียก่อนจะนั่งยองลงตรงหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง
ฉันไปสมัครงานมาหลายบริษัทมากแต่ไม่มีที่ไหนรับฉันเข้าทำงานเลย บางบริษัทก็ให้เหตุผลว่าฉันเป็นนักศึกษาจบใหม่ไม่สามารถรับเข้าทำงานได้เพราะไม่มีประสบการณ์ บางบริษัทก็ว่าพนักงานเต็มยังไม่เปิดรับพนักงาน
วันนี้เป็นวันที่วุ่นวายมากๆอีกวันนึง เหมือนทุกบริษัทพร้อมใจกันไม่รับฉันเข้าทำงาน
"แล้วจะไปหางานทำที่ไหนได้อีกวะเนี่ย"
ครืด ครืด
"จิ๊! ใครโทรมาอีกวะ!" ฉันหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู ก็พบว่าปลายสายเป็นเบอร์ของแม่โทรเข้ามา ฉันถอนหายใจก่อนจะกดรับสายนั้น "ค่ะแม่"
( เรียนจบแล้วเมื่อไหร่จะกลับ? ) นี่หรือประโยคแรกที่คุยกับฉัน คิดถึงหรือว่าต้องการอย่างอื่นกันเเน่
"ไม่กลับค่ะ ให้ตายยังไงพิงค์ก็ไม่กลับแน่นอน และพิงค์จะกลับก็ต่อเมื่อแม่กับพ่อยกเลิกงานหมั้นบ้าบออะไรนั่น"
( ก็ดี! ถ้าแกไม่กลับก็อยู่ที่นั่นไปเลย เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฉันส่งให้แกทุกเดือนจะตัดทิ้งให้หมดเลยบัตรเครดิตทุกใบที่แกใช้อยู่ฉันก็จะตัด ดูซิว่ามันจะหยิ่งยโสอยู่ที่นั่นได้อีกนานแค่ไหน )
"....." ฉันนั่งฟังพ่อพูดผ่านปลายสายมา บังคับกันแบบนี้เลยหรอเห็นฉันเป็นตัวอะไร ที่จะจับไปประเคนให้ใครก็ได้ "ถ้าพ่อสบายใจที่จะทำแบบนั้นก็ตามสบายค่ะ พิงค์จะอยู่ด้วยตัวเองให้ได้"
ฉันกดวางสายแล้วปิดเครื่องหนีทันที ก็รีบไปที่ตู้กดเงินสดออกมาเท่าที่จะกดได้ พอที่จะทำให้ฉันอยู่ได้อย่างสบายจนกว่าจะหางานทำได้
จากนั้นฉันก็หักบัตรทิ้งกับถังขยะทันทีเพราะรู้ว่าพ่อทำจริงแน่นอน แต่ยังช้ากว่าฉัน
ตกเย็น
ฉันกลับมาที่ห้องพักตามปกติแต่ที่ผิดปกติคือข้าวของเครื่องใช้ของฉันทุกอย่างถูกเก็บมาวางไว้อยู่หน้าโรงแรมหมดแล้ว
"นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมของใช้ของฉันถึงมาอยู่นอกห้องแบบนี้ได้?" ฉันเดินเข้าไปถามพนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์
"ทางเราไม่สามารถให้คุณพักต่อได้จริงๆค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ"
"เพราะอะไร?"
"คือทางผู้จัดการแจ้งมาทางเราก็ทำตามคำสั่ง ดิฉันไม่รู้จริงๆค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นขอโทษด้วยนะคะ"
"...." ฉันยิ่งโมโหไปมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเรื่องนี้มีตัวการใหญ่สั่งมา อย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของพ่อที่กำลังบีบบังคับให้ฉันกลับไปเมืองไทยให้ได้ ใช้วิธีสกปรกเล่นกันแบบนี้เลยหรอ นี่ฉันเป็นลูกนะ
ก็ดีฉันก็จะได้แสดงความสามารถของตัวเองให้เห็นว่าฉันมีความสามารถมากพอที่จะอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงินของพวกเขาเลย ( แต่ตอนนี้ขอใช้ก่อนเพราะยังไม่มี แหะ ๆ )
ฉันรีบเดินไปเก็บข้าวของที่ถูกขนออกมาวางไว้แล้วเดินออกจากโรงแรมมาทันที ฉันจะจำโรงแรมนี้เอาไว้ให้แม่นเลย แล้วจะไม่กลับเข้ามาใช้งานอีกเป็นเด็ดขาด