3
“ไปแป๊บเดียว ได้เยอะขนาดนี้เชียวเหรอเฮีย” พายุมองหน้าพี่ๆ ก่อนจะยกนิ้วให้ทั้งสอง
เด็กทั้งสามย่างปลาและนกนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย บิดามารดาเคยสอนว่าอย่ายิงนกตกปลา เพื่อความสนุกสนานเพราะไม่ว่าใครก็ย่อมรักชีวิตของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากจำเป็นเพื่อนำมาเป็นอาหารน่ะไม่เป็นไร
พวกผู้ใหญ่ไม่ชอบให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่ด้วยนิสัยของเด็กก็อดไม่ได้ที่จะประลองความแม่นยำกัน แต่ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงหรือทารุณกรรมสัตว์
หลังเสร็จจากเที่ยวเล่นจนหนำใจ เด็กทั้งสามก็เดินกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะตาโตเมื่อน้องร้องไห้โยเย ฉี่ใส่เปลที่นอนอยู่ ไหลเป็นทางไปตามพื้น
“เวรแล้วไง เฮียบอกให้แกกลับมาดูน้องก่อนไอ้พัน มัวแต่ห่วงเล่นอยู่นั่นแหละ” อัสนีบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทำท่าจะตบกะโหลกน้องสักทีสองที
“ก่อนหน้านี้ผมเห็นยังหลับปุ๋ยอยู่เลยนี่เฮีย” พายุรีบแก้ตัว ในขณะที่อัสนีตรงเข้าไปอุ้มน้องขึ้นจากเปล แต่มิรินยังฉี่ไม่หมด เด็กน้อยเลยฉี่ใส่อัสนีเต็ม ๆ
โยธินและพายุหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเมื่ออัสนีโดนน้องฉี่ใส่ มิรินฉี่เสร็จก็มองหน้าพี่ ๆ ที่หัวเราะกันไปมา จึงหัวเราะเอิ้กอ้ากบ้างตามประสาเด็กอารมณ์ดี ก่อนจะทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้ คงเพราะเหนียวตัว เริ่มรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวนั่นเอง
“พาหนูมิไปอาบน้ำกันเถอะ” อัสนีเอ่ยขึ้น ทั้งสามจึงรีบพาน้องน้อยไปอาบน้ำ
สามหนุ่มน้อยไปอาบน้ำกันทางด้านหลังของบ้าน ที่นั่นมีตุ่มใส่น้ำ กะละมังขนาดใหญ่ เป็นลานโล่ง ๆ ที่เอาไว้ซักล้างและอาบน้ำไปในตัว ด้านหลังคือวิวภูเขาและธรรมชาติอันสวยงาม
สามหนุ่มน้อยต่างวัยช่วยกันถูสบู่ให้น้องน้อย แล้วก็เอาลูกเป็ดมาลอยไว้ในกะละมังใบเล็กให้มิรินนั่งแช่น้ำอยู่ เด็กน้อยหัวเราะอย่างมีความสุขกับการจับลูกเป็ดในน้ำเล่น จนแทบไม่อยากขึ้นจากน้ำ
“พอแล้วไอ้เอส เดี๋ยวหนูมิก็เป็นหวัดหรอก” โยธินเอ่ยบอกอัสนี อัสนีเลยยกร่างเด็กน้อยขึ้นจากน้ำเพราะกลัวน้องจะไม่สบายเอาได้ โยธินใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตัวน้องเอาไว้ หนุ่มน้อยทั้งสามช่วยกันแต่งตัวให้น้อง โรยแป้งเด็กไปตามตัว ประแป้งน้องจนหน้าขาว หวีผมหย่อมน้อย ๆ ปาดไปด้านหนึ่งของศีรษะ แล้วต่างเพ่งมองน้องว่าดูดีหรือยัง เจ้าตัวเล็กทั้งยิ้มทั้งหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างมีความสุข พลางตบมือไปมาตามประสาเด็ก แต่ยังพูดไม่ได้ แค่ทำเสียงอ้อแอ้เท่านั้น
“เฮีย” พายุเรียกอัสนีที่กำลังขะมักเขม้นกับการแต่งตัวให้น้องน้อย
“อือ...” อัสนีขานรับในลำคอ สายตาไม่ได้ละไปจากมิรินเลยสักนิด
“หนูมิเหมือนผีเด็กตกในถังแป้งเลย ดูหน้าสิ” พายุหัวเราะลั่นบ้าน แทบลงไปนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นเมื่อพูดจบ
“ฝีมือแกไม่ใช่เหรอ ให้ทาแป้งน้องดี ๆ แกเล่นโปะแป้งจนหมดกระป๋อง” อัสนีอยากเขกกะโหลกพายุสักทีสองที แต่อีกฝ่ายรีบหลบเพราะรู้ทัน
อัสนีพาน้องนอนเล่นบนเบาะ มิรินก็มองพี่ ๆ แล้วยิ้ม จนสามหนุ่มต้องยิ้มตามอย่างอัตโนมัติ
“หนูมินี่เป็นเด็กอารมณ์ดีจริง ๆ เลย ดูสิ ยิ้มอยู่ตลอดเวลา” โยธินลูบผมน้อย ๆ กลางกระหม่อมของน้อง พลางเอ่ยชม
อัสนีทิ้งตัวลงนอนใกล้ ๆ กับมิริน ก่อนจะเริ่มเล่นกับเด็กน้อยอย่างมีความสุข ในขณะที่พายุหาของเล่นมานั่งเล่นกับน้องด้วย ส่วนโยธินนั้นเดินไปชงนมมาส่งให้เมื่อเห็นมิรินทำปากจุ๊บจั๊บเหมือนกำลังหิวนม
พอส่งจุกนมเข้าปากเจ้าตัวเล็ก มิรินก็ดูดนมในทันที ทั้งสามหนุ่มน้อยนอนเท้าคางมองน้องกินนมอย่างมีความสุข ปากเล็กแดงบางดูดกินจุกนมอย่างเอร็ดอร่อย
บิดามารดาของพวกเขายุ่งกับงานในไร่ กำลังบุกเบิกขยายไร่เพิ่ม จึงฝากน้องให้ทั้งสามช่วยกันเลี้ยงน้อง จริง ๆ มีพี่เลี้ยงอีกคน แต่พี่สร้อยนั้นชอบแอบไปจู๋จี๋กับคนงาน ทิ้งน้องเอาไว้ให้สามหนุ่มเลี้ยงดูกันเอาเอง
พายุกับโยธินหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย แต่อัสนียังนอนเท้าคางมองน้องตาไม่กะพริบ ไม่นานเด็กน้อยก็หลับปุ๋ยคาขวดนม เขาเอาจุกนมออกจากปากเล็ก ๆ ก่อนจะแอบจิ้มแก้มใส ๆ นั้นหนึ่งที เหลียวซ้ายแลขวาว่าทุกคนหลับกันหมดแล้ว จึงแอบจุ๊บแก้มเนียนใสนั้นเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูเหลือล้น
อัสนีแอบเบ้หน้าเล็กน้อย เพราะกลิ่นคาวของนม เขาจัดการนำมุ้งครอบมาครอบกันยุงกัดน้อง แล้วไปล้างขวดนม ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอน
1 คอมเม้นต์เท่ากับ 1 ล้านกำลังใจนะคะ