บท
ตั้งค่า

2

“น้องยังเด็ก ยังพูดไม่ได้ เดี๋ยวโตขึ้นก็พูดจ้อเหมือนแกนั่นแหละไอ้พัน” อัสนีหันไปตอบพายุ อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ยิ้มกว้างขณะหันไปมองน้องน้อยในเปล

“เฮีย...” พายุเรียกอัสนีซึ่งเป็นพี่ชายที่นับถือ คนช่างซักช่างถามมีความสุขที่จะได้ถามโน่นถามนี่ที่ตนเองอยากรู้ พายุเห็นว่าอัสนีจริงจังกับการเลี้ยงดูเด็กน้อยเสียเหลือเกิน ซึ่งเขาเองก็รักและเอ็นดูเด็กน้อยมิรินเป็นอันมาก เนื่องจากเป็นลูกคนเดียวเช่นกัน

“น้องพูดได้ตอนไหนครับเฮีย”

“ไม่รู้ แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้”

“ตอนเด็ก ๆ เราคงเป็นแบบนี้นะ”

“ใช่ ตอนเด็ก ๆ แกก็เป็นแบบนี้แหละ” โยธินพูดขึ้น เขาทันได้เห็นพายุเป็นเด็กตัวน้อยวัยเตาะแตะเพราะอายุห่างกันถึงสี่ปี

“เฮียครับ นั่นน้องทำท่าจะหลับแล้ว ตาปรือเชียว” พายุรีบบอกอย่างตื่นเต้น หากมิรินหลับ เขาจะชวนพี่ ๆ ออกไปเที่ยวเล่นเสียหน่อย

อัสนียกมือขึ้นจุ๊ปาก บอกให้พายุเงียบปากเสียบ้าง เด็กชายวัยสิบสามจึงหุบปากฉับ อัสนีไกวเปลเบาๆ ไม่นานเด็กน้อยก็หลับคาจุกนม

อัสนียื่นมือไปดึงขวดนมออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้โยธินและพายุ เพราะนัดกันว่าจะไปยิงนกตกปลาแถวนี้ด้วยกัน

“น้องจะตื่นกี่โมงครับเฮีย” พายุยังเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ห่วงเที่ยวเล่นเหลือเกินในตอนนี้

“เห็นกินเสร็จแล้วนอนนานทุกทีกว่าจะตื่นคงอีกนาน ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้นายวิ่งกลับมาดูแล้วกัน” อัสนีตอบพายุแต่สายตามองน้องน้อยไม่ยอมวาง ท่าทีดูก็รู้ว่าห่วงใยมิรินสุดหัวใจ

“ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับ” คนที่อ่อนวัยกว่าเอ่ยถามหน้ายุ่ง จะพูดกันตรง ๆ พายุเป็นลูกไล่ของพี่ ๆ จึงถูกใช้ให้ทำโน่นทำนี่อยู่บ่อยครั้ง

“แกเด็กที่สุด อายุน้อยที่สุด ต้องทำตามคำสั่งเฮีย ๆ” อัสนีพูดเช่นนั้นก่อนจะหยิบหนังสติ๊กส่งให้โยธินและพายุคนละอัน

“ว้าว... หนังสติ๊กอันใหม่แจ่มไปเลยเฮีย” พายุเห็นหนังสติ๊กอันใหม่แล้วนึกชอบใจอยู่ไม่น้อย เขายกมันขึ้นมาง้างแล้วก็ทำท่าเล็ง

“เข้าไปในไร่แล้วเจอไม้สวย ๆ ขนาดเหมาะมือเลยทำมาเผื่อ” หนังสติ๊กคืออุปกรณ์ที่ใช้ไม้เป็นง่ามนำมาตัดไม่ให้ยาวหรือสั้นจนเกินไป ก่อนจะนำไปผูกกับยางเส้น ส่วนกระสุนคือดินเหนียวปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ตากแดดจนแห้งจนมีน้ำหนักเบา

“ไหนดินเหนียวล่ะไอ้พัน” โยธินเอ่ยถาม พายุล้วงดินเหนียวออกมาจากย่ามที่สะพายเอาไว้ให้ทั้งสองรับไปกำมือใหญ่ พายุกับอัสนีรับมาใส่ย่ามของตัวเอง ก่อนจะเล็งไปยังนกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้

“แกว่าฉันจะยิงถูกไหมไอ้พัน” อัสนีเล็งแต่ยังไม่ยิง หันไปเอ่ยถามน้องเล็กสุดของก๊วน

“เฮียยิงแม่น ต้องยิงถูกแน่ ๆ แต่สงสารมันเหมือนกันนะเฮีย” คนขี้สงสารเอ่ยบอก อัสนีชะงัก แต่ก็กลับไปเล็งใหม่

“เดี๋ยวเฮียไปวางเบ็ดก่อน” โยธินวางเบ็ดตรงแม่น้ำด้านหน้า แถวนี้ปลาชุมยังไงก็ได้ปลาแน่นอน

“อ้าวไอ้เอส เป็นอะไร ทำไมไม่ยิง มันบินไปโน่นแล้ว” โยธินเลิกคิ้วเอ่ยถามขณะวางเบ็ดเรียบร้อยแล้ว

“เฮียว่าน้องจะตื่นหรือยัง” อัสนีเอ่ยถามโยธิน สีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย ใจคิดถึงแต่น้องน้อยที่นอนหลับอยู่ในเปล

“ให้ไอ้พันมันวิ่งไปดูสิ” โยธินหัวเราะ เห็นท่าทางเป็นห่วงน้องของอัสนีแล้วนึกเอ็นดูไม่น้อย

“ไอ้พันแกวิ่งไปดูหน่อยซิ ว่าหนูมิตื่นหรือยัง”

“เราเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี่เองนะเฮีย” พายุบ่นแล้วเกาหัวไปมา

“บอกให้ไปก็ไปสิ” พอได้ยินประโยคนั้น ถึงจะบ่นก็จำต้องวิ่งกลับไปดู ปรากฎว่ามิรินยังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปล

“ว่าไงวะ” อัสนีเอ่ยถามคนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“ยังเลยเฮีย”

“อือ...” อัสนีรับคำ เดินไปจัดการก่อกองไฟต่อ วันนี้จะย่างนกและปลากินที่หามาได้ เป็นอาหารในมื้อกลางวัน เพราะตกปลาและยิงนกได้อีกหลายตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel