บทที่ 6
สุดที่รักปฏิเสธ ถึงตอนนี้จะกรอบ แต่หล่อนก็ไม่ได้หวังผลอะไร จึงไม่อยากรับสินน้ำใจที่ภัทรหยิบยื่นให้ ภัทรยิ่งชอบสาวน้อยตรงหน้ามากขึ้น รู้สึกถูกชะตากับหล่อนอย่างบอกไม่ถูก
“อืม หนูกำลังหางานทำอยู่หรือเปล่า? พอดีฉันเห็นเอกสารที่หนูทำตกไว้นะ”
“ค่ะ”
สุดที่รักตอบตรงๆ หล่อนไม่อายที่ตกงานหรอก ภัทรยื่นมือมาตรงหน้าแล้วเอ่ยยิ้มๆ
“ขอดูเอกสารหนูหน่อยสิ ที่นี่ต้องการพนักงานที่เป็นคนดีและซื่อสัตย์อย่างหนู ตามฉันไปคุยที่ห้องหน่อย” สุดที่รักส่งเอกสารให้เขาอย่างงงๆ
ใครว่าทำดีไม่ได้ดี สุดที่รักกำลังจะได้ผลของการทำดีอยู่ตรงนี้แล้วแหละน่า หล่อนยิ้มกว้างให้กับชายสูงวัยตรงหน้า เขาทำให้หล่อนรู้สึกอบอุ่นและนับถือ สุดที่รักเดินตามเขา เมื่อภัทรชวนหล่อนเข้าไปคุยในห้องทำงานส่วนตัว
ภัทรเชิญหล่อนนั่งและรับเอกสารมาอ่าน ส่วนสุดที่รักกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่ดูโอ่โถง แต่ก็ตกแต่งไว้เรียบๆ ไม่ได้รกไปด้วยของประดับราคาแพง มีเพียงรูปของเขาและภาพชายหนุ่มอีกคนเท่านั้น ประดับอยู่ในกรอบทองงดงามคงจะราคาแพงที่สุดแล้วในห้อง สุดที่รักมองภาพชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในภาพ
สงสัยจะเป็นลูกชายเขาแน่ๆ แต่หน้าตาดีชะมัด ไปเป็นดาราได้สบายเลย แต่ท่าทางขี้เก็กน่าดู
เธอคิดในใจ
สุดที่รัก ชื่อของหล่อนที่ปรากฏอยู่บนเอกสาร ทำเอาภัทรแอบอมยิ้มไม่ได้ ใครตั้งชื่อให้กันนี่แม่คุณ เข้าใจตั้งดีจริงๆ และเมื่ออ่านนามสกุลหล่อน ภัทรก็ต้องขมวดคิ้ว และยิ่งชื่อของบิดามารดาด้วยแล้ว ภัทรก็ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
“หนูนามสกุลแสนไพศาลเหรอจ๊ะ แล้วมีพ่อชื่อชล แม่ชื่อสายทิพย์ใช่ไหม?” ภัทรถามสุดที่รัก แต่เหมือนจะย้ำกับตัวเองมากกว่า
“ค่ะ”
“พ่อหนูเสียไปนานหรือยัง”
ภัทรถามน้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาตรงขอบตา สุดที่รักมองเขาอย่างงงๆ เขาทำเหมือนกับรู้จักพ่อของหล่อนดีอย่างนั้นแหละ
“เมื่อสามปีก่อนน่ะค่ะ รถที่พ่อขับประสบอุบัติเหตุ”
“โธ่เอ๋ย...ชล”
ภัทรครวญ แล้วก็คว้ามือหล่อนมาจับไว้แน่น สุดที่รักตกใจกับท่าทางของเขามาก
“หนูเป็นลูกสาวของเพื่อนรักฉันนี่เอง มิน่าละ ถึงถูกชะตากับหนูมากๆ เมื่อเห็นหน้าครั้งแรก ทิพย์เป็นอย่างไรบ้าง ฉันไม่ได้ติดต่อกับพ่อและแม่หนูนานมาก เกือบยี่สิบปีแล้ว”
“คุณลุงเป็นเพื่อนของพ่อเหรอคะ”
หญิงสาวถามอย่างตื่นเต้น ที่ได้รู้จักกับเพื่อนเก่าของผู้เป็นบิดาโดยบังเอิญแบบนี้
“จ้ะ เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”
ภัทรเริ่มเล่า เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา สุดที่รักดูแล้วคิดว่าเขาคงจะสนิทกับพ่อหล่อนมากจริงๆ น่ะแหละ เพราะพอรู้แล้วถึงขั้นร้องไห้เลย แต่พ่อก็ไม่เคยเล่าว่ามีเพื่อนเป็นเศรษฐีมีกิจการใหญ่โตแบบนี้ เพื่อนสนิทของพ่อมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น เพราะชลเป็นคนเงียบๆ เหล้าก็ไม่แตะ เมื่อขับแท็กซี่เสร็จจะตรงเข้าบ้านเลย แทบไม่น่าเป็นไปได้ ว่าพ่อของหล่อนเป็นเพื่อนกับคนตรงหน้า ที่ดูแล้วแตกต่างกันมากๆ
“เมื่อก่อนฉันเป็นเด็กวัด เป็นเด็กกำพร้าเหมือนชลนั่นแหละ เราเป็นคนสมุทรสาคร มีโชคดีอยู่บ้างที่หลวงตาส่งเสียให้เรียนจนจบป.4 ฉันกับทำงานอยู่ด้วยกันหลายปี มาแยกกันตอนที่ชลเขาได้กับสายทิพย์ เขามาหางานทำที่ปทุม เพราะสายทิพย์เขาเป็นคนที่นั่น ก็เลยไม่ได้ติดต่อกันเลย ส่วนฉันไปทำงานขับรถสิบล้อ แล้วก็ได้แต่งงานกับวดี เลยช่วยกันทำกิจการรถสิบล้อรับจ้างจนเริ่มมีเงิน ฉันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าทางการเกษตรแล้วมันก็ดีมากๆ จนร่ำรวยขึ้นมาเนี่ยแหละ คิดถึงพ่อหนูอยู่เหมือนกัน เพราะเราโตด้วยกันลำบากด้วยกันมา ว่าจะตามหาเขาแล้วชวนมาทำงานด้วยกัน แต่ไม่นึกว่าชลจะอายุสั้น โชคดีจริงๆ ที่วันนี้เจอหนู”
ภัทรเล่าถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างเขาและเพื่อนรัก ก่อนจะยิ้มมองหญิงสาวตรงหน้าทั้งน้ำตา ขณะที่สุดที่รักมองเขาอย่างทึ่งๆ กับเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง อย่างนี้แสดงว่าภัทรต้องเป็นคนที่เก่งมาก เลยทีเดียว เพราะสร้างตัวมาจากศูนย์ แต่สามารถมีกิจการได้ใหญ่โตมั่นคงขนาดนี้
“หนูก็โชคดีเหมือนกันล่ะค่ะ ที่เจอกับคุณลุง”
“เป็นอันว่า ฉันต้องรับหนูเข้าทำงานให้ได้ อย่างไม่มีข้อแม้” ภัทรพูด
“หนูคงไม่รังเกียจนะ ถ้าฉันจะใช้อำนาจรับหนูเข้าทำงานแบบนี้ ชลทำดีกับฉันไว้มาก ฉันอยากตอบแทนเพื่อนรัก โดยการให้งานหนูทำ”
ใครจะรังเกียจเล่า สุดที่รักบอกตัวเองในใจ แล้วภัทรก็ดูเป็นคนดีที่อบอุ่นมากๆ อีกด้วย หล่อนยิ้มหวานให้เขา แล้วพนมมือไหว้ขอบคุณ
“ขอบคุณมากค่ะ”
“แล้วหนูทำอะไรมาบ้างละ อืม....”
ภัทรเริ่มคิดว่าเขากำลังต้องการพนักงานในตำแหน่งอะไร ที่จะให้เงินเดือนสูงๆ ได้
“ถ้างานเลขาหนูเคยทำมาหรือเปล่า หรือการตลาดได้ไหม พอดีสองตำแหน่งนี้มีคนว่างอยู่พอดี
“หนูเรียนจบมาด้านเลขานุการน่ะค่ะ”
“งั้นก็ดีเลย” ภัทรยิ้ม
เขามองไปทั่วใบหน้ารูปไข่ของหล่อน สุดที่รักไม่ได้มีหน้าตาสวยสะดุดตาเย้ายวนเพศตรงข้าม มาดของหล่อนก็ดูเรียบร้อย เหมาะมากที่สุด ที่จะให้อยู่กับลูกชายเจ้าชู้ของเขา โดยไม่ต้องกลัวว่าเจ้านุมันจะหัวงูใส่สุดที่รัก เพราะลูกชายเขาชอบสาวหน้าตาสวย หุ่นเย้ายวน มากกว่าสาวหน้าตาเรียบๆ หุ่นเรียบๆ เหมือนกับสุดที่รัก
“หนูทำงานตำแหน่งเลขาของลูกชายฉันก็แล้วกัน ฉันให้เงินเดือนสองหมื่นห้า” สุดที่รักตาโต
โห...สองหมื่นห้า รับรองว่าหล่อนต้องทำงานให้เขาแบบสู้ตายแน่ๆ งานดี ๆ เงินเยอะ ๆ แบบนี้หาได้ที่ไหนอีกละเนี่ย
“พร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะ”
“ได้ทันทีเลยค่ะ”
สุดที่รักรีบรับคำเสียงหนักแน่น ภัทรยิ้ม เขาชวนหล่อนคุยเรื่องพ่อและแม่อีกนานกว่าจะปล่อยให้หล่อนกลับบ้าน และให้คนขับรถมาส่งถึงหน้าปากซอยเลยด้วย วันนี้โชคดีเป็นของหล่อนแล้ว สุดที่รักฮัมเพลงขณะ เดินตัวลอยเข้าไปในซอย อย่างมีความสุข