บทย่อ
ภานุวิชญ์หนุ่มหล่อเจ้าสำอาง เพลย์บอยหนุ่ม สุดหล่อ เพียงแค่เขาโปรยปรายเสน่ห์ใส่ สาวๆ ต้องสยบ แม้กระทั่ง 'งาบ' เลขานุการของตัวเอง ทุกนางเขาต้องเลือก ต้องเฟ้น! เจ้าหล่อนต้องสวยสะบึม เอ็กซ์ อึ๋ม และยอมตามใจเจ้านายอย่างเขา แต่แล้วฟ้าแกล้งใช่ไหม? ให้เขาต้องมาเจอ หล่อน... สุดที่รัก สาวแว่นหนา ผมฟู หน้าตาคล้ายการ์ตูน มีความมุ่งมั่นในการทำงานเต็มร้อย เมื่อสาวบ้างานต้องโคจรมาเจอเจ้านายรูปหล่อ สุดจะมั่น ในความหล่อของตัวเอง เธอกลับไม่หลงในเสน่ห์หล่อเหลาของเขา กลับมองว่าเขาแสนจะไม่เอาอ่าว เป็นผู้ชายที่แย่ที่สุด! น้ำมันไม่เข้ากับน้ำฉันใด น่าจะเหมือนกับเธอและเขาแท้ๆ แต่ไหงใจของเขามันกลับชะแว้บไปใกล้กับแม่สาวผมฟู ที่แสนจะเกลียดขี้หน้า เฮ้อ...ทำยังไงได้ในเมื่อมันเป็นลิขิตของฟ้า แถมหัวใจบ้าๆ ก็ดันไปรักเธอเสียแล้ว “ไม่ต้องไปบอกพ่อกับแม่คุณหรอก ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ” “เอ๊ะ?” สุดที่รักใจเต้นเป็นตีกลองแล้วตอนนี้ นี่เขาจะมาไม้ไหนอีกนะ ก็เขาไม่ได้มีอะไรกับหล่อนนี่นา ภานุวิชญ์จะได้ยินไหมนะ ว่าหัวใจหล่อนเต้นดังมากขนาดไหน ก็ใกล้กันขนาดนี้ “ปล่อยให้งานนี้ผ่านไปเถอะ ผมอยากแต่งงานกับคุณจริงๆ นะสุดที่รัก” เขาคลายกอดเพื่อจะได้มองหน้าหล่อนให้ถนัดๆ ส่วนสุดที่รักมองคนที่กอดหล่อนตาค้างอย่างตกใจ “อะไรนะ?”
บทที่ 1
“เฮ้อ...ฉันบอกแกแล้วนี่รัก...ว่าอย่า...อย่า...แกเคยเชื่อไหม...แล้วเป็นไงล่ะ...ถูกไล่ออกจนได้”
“อย่าบ่นมากเลยน่า”
คนที่กำลังโดนเพื่อนรักบ่นย่นจมูก พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ อีกฝ่ายยังไม่วายทำหน้างอ แล้วมองหน้าของเพื่อนสนิท ที่คบกันมายาวนานตั้งแต่ห้าขวบจนถึงปัจจุบัน
สาวหน้าหมวย นัยน์ตาเล็กรี แถมยังตาชั้นเดียว หล่อนใส่แว่นกรอบหนาสีขาว เพราะสายตาสั้นเอามากๆ จมูกโด่งรั้น บ่งบอกถึงนิสัยได้ดี ว่ารั้นขนาดไหน ผมสีน้ำตาลเข้มหยิกฟู เป็นส่วนที่เจ้าตัวไม่ชอบมากที่สุด เพราะทำอะไรกับมันไม่ได้ นอกจากปล่อยให้มันฟูอยู่อย่างนั้น ส่วนที่เจ้าตัวภูมิใจว่าสวยที่สุด บนใบหน้ารูปไข่ ก็คือริมฝีปากบางสีชมพูเรื่อ ตอนนี้สองสาวกำลังยืนรอรถประจำทาง เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่เช่าอยู่ด้วยกัน
สุดที่รักทำหน้างอ หลังจากฟังคำบ่นจากฤดีมาศเกือบจะเป็นรอบที่สิบแล้ว ตั้งแต่เดินออกจากบริษัทด้วยกันมา หล่อนถูกไล่ออกจากงานอีกแล้ว เพราะไปขัดขาเจ้านายเข้า เมื่อเห็นว่าเขามีพฤติกรรมแปลกๆ เลยพยายามจะจ้องจับสังเกต และพบกว่าเขายักยอกเงินบริษัทเข้าจริงๆ เมื่ออดรนทนไม่ไหว เลยมาปรึกษาฤดีมาศ เธอบอกให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ไปเสียอย่าไปยุ่ง มันไม่ใช่เรื่องของเรา สุดที่รักไม่เชื่อคำเตือนของเพื่อน เนื่องจากเจ้าหล่อนเป็นคนที่รักความถูกต้องมากที่สุด ผลสุดท้ายเจ้าของบริษัท ก็เลือกที่จะเชื่อญาติมากกว่าพนักงานอย่างสุดที่รัก เงินเดือนสามเดือนที่รับมายังอุ่นอยู่ในกระเป๋าถือ หญิงสาวเม้มปาก ก่อนจะพูดโต้ขึ้นมาเบาๆ
“น่า...แล้วคุณราตรีก็จะเห็นเองแหละว่า คุณรุ่งโรจน์น้องชายแกน่ะ โกงแกจริงๆ งบที่เบิกไปบานเบอะ เขาให้ฉันเอาไปฝากเข้าบัญชีเขา ทั้งที่ทำให้ทำใบเบิกว่าเป็นงบเอนเตอร์เทนแขกจากเมืองนอก ใครจะมาเอนเตอร์เทนแขกทุกคืน คืนละเกือบหมื่น แถมงบไปดูงานที่ต่างจังหวัดเขาก็ไม่ได้ไปนะ งบที่พาพนักงานไปเที่ยวเบิกไปสองแสนก็ใช้แค่ไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือก็ให้ฉันโอนเข้าบัญชีเขาทั้งนั้น”
“แล้วงานนี้ใครเดือดร้อนล่ะ เขาจ้างแกมาเป็นเลขาคุณรุ่งโรจน์นะ ไม่ใช่มาเป็นผู้ตรวจสอบการใช้เงิน คราวนี้ใครซวย”
ฤดีมาศค้อนเพื่อน เพราะตัวเองก็เกือบถูกหางเลขไปด้วย เธอเป็นคนแนะนำสุดที่รักให้มาทำงานนี้ ตอนนี้รุ่งโรจน์ก็เริ่มเพ่งเล็งตนเองเหมือนกัน
“แกทั้งนั้นเลยไอ้รัก เขาเป็นญาติกัน เงินคุณราตรีก็เหมือนเงินคุณรุ่งโรจน์น่ะแหละ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ย่อมจะฟังกันมากกว่าพนักงานอยู่แล้ว บอกไม่เคยเชื่อเลยแกนี่”
“เออ...แกอย่าบ่นฉันมากเลย มันจะยากอะไรว้า ก็แค่หางานใหม่” สุดที่รักตัดบท
“บอกแล้วว่าอายุ 25 แกจะมีเคราะห์ มีเคราะห์จริงๆ ด้วย เห็นไหม พ้นวันเกิดแกแค่สองวันเอง แจ็ค
พอตแตกเลย เคยเตือนแกแล้วว่า 25 มันเบญจเพสต้องระวังตัวให้มากๆ แกก็หาว่าพวกฉันเหลวไหล” ฤดีมาศยังบ่นไม่เลิก
“แล้วทีแกล่ะ ไม่เห็นจะมีเคราะห์อะไรเลย”
สุดที่รักเริ่มแย้งเพื่อน หล่อนไม่ค่อยเชื่อเรื่องโชคลางสักเท่าไหร่นัก คนจะซวยมันก็ซวยได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามทีเถอะ สุดที่รักคิดในใจ
“แหม! ก็เขาบอกว่าเบญจเพสจะมีเคราะห์ ฉันกับโชคไปสะเดาะเคราะห์กันแล้วนี่นา ตั้งหลายวัดแนะ ก็เลยไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเรา”
“ใช่” สุดที่รักเริ่มยิ้มออกบ้าง ก่อนจะแซวฤดีมาศ ที่เพิ่งจะแต่งงานกับเด่นลาภหมาดๆ
“ก็เลยได้ลาภเป็นสามีเลยใช่ไหมล่ะ แล้วที่มันพาแกเข้าวัดตะเวนทำบุญนะ ไอ้โชคมันแก้บนเรื่องถูกหวยไม่ใช่เหรอ”
“น่า...มันก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ”
ฤดีมาศหัวเราะ เด่นลาภสามีหล่อนพาไปแก้บนจริงๆ แต่เขาก็บอกว่าถือโอกาศสะเดาะเคราะห์ไปด้วย ทำทีเดียวได้สองต่อไปเลย
“เย็นนี้หาอะไรกินแก้เซ็งที่ตกงานดีกว่า ฉันจะเลี้ยงสุกี้พวกแก”
สุดที่รักว่า หล่อนควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า โทรศัพท์หาเพื่อนรักอีกคน เมื่อต่อสายได้หล่อนก็กรอกเสียงลงไปทันที
“ไอ้โชค เย็นนี้เจอกันที่ร้านสุกี้นะ ร้านเดิม ฉันฉลองที่ตกงาน เออน่า... แกอย่ามาพูดมากเหมือนมายด์มันเลย หูชาไปหมดแล้ว พอๆ จะไปไหมกินฟรีน่ะ”
หล่อนเอ็ดปลายสายเสียเลย เพราะโดนบ่นเข้าอีกหน เมื่อวางสายไปแล้ว หล่อนก็หันมาหาฤดีมาศ
“ฉันรายงานสามีแกแล้ว เรานั่งแท็กซี่ไปกันดีกว่าเร็วดี เดี๋ยวโชคมันตามไป”
“แกเก็บเงินไว้ดีกว่า ไม่ต้องหรอกน่า”
ฤดีมาศเตือน เพราะรู้ว่าสุดที่รักต้องใช้เงินมากขนาดไหนในแต่ละเดือน สุดที่รักมีความฝันที่จะปลูกบ้านให้มารดา ซึ่งไปดูแลย่าอยู่ที่ปทุมธานีสักหลัง เพราะสุดที่รักและครอบครัวไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง ได้แต่เช่าเขาอยู่มาตั้งแต่จำความได้ การมีบ้านให้กับครอบครัวเลยเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของหล่อน แต่มาตกงานเสียอย่างนี้แล้ว สุดที่รักก็คงจะลำบาก เพราะต้องส่งเงินให้ท่านทุกเดือนด้วย
“ไม่เป็นไรหรอก มีก็กินไม่มีก็อด จะกลัวอะไรเรามีเจ้าพ่อหวยเป็นเพื่อนเสียอย่าง”
สุดที่รักพาดพิงถึงเด่นลาภ สามีของฤดีมาศที่ชอบเล่นหวยมากๆ แถมเก็งแม่นเกือบทุกงวด จนเจ้ามือหวยเถื่อนทั้งหลายไม่ค่อยอยากจะรับแทงแล้วสักเท่าไหร่
“โชคฝันไม่แม่นทุกงวดหรอกน่า” ฤดีมาศออกตัวแทนสามี
“อย่าไปเลยนะ เกรงใจแก เสียดายเงิน”
“เออ...บอกว่าจะเลี้ยงก็เลี้ยงไอ้นี่! แกกินๆ ไปเถอะ ทำดีแล้วไม่ได้ดี ก็หาอะไรกินให้มันแก้เสียความรู้สึก นั่นแท็กซี่มาแล้ว”
สุดที่รักรีบคว้าแขนเพื่อน เมื่อแท็กซี่มาจอดสนิทตรงหน้า ที่ต้องยอมไปด้วยแต่โดยดี เมื่อสุดที่รักเริ่มเสียงดังเข้าให้แล้ว