ตอนที่ 2
นวลพรรณร้องถาม เมื่อเห็นลูกสาวจอดรถจักรยานปึงปังแล้วเดินหน้ามุ่ยเข้ามาในบ้าน
“ก็อีตาดำบ้าอำนาจสิคะแม่”
สาวน้อยทำปากยื่นไปยังเจ้าของฟาร์มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ศาลาริมน้ำ ป่านนี้คงกำลังสำลักกาแฟแล้วกระมัง
“อีตาดำนี่ใครกัน?”
นวลพรรณทำหน้าสงสัย
“ก็พ่อเลี้ยงก้องภพนั่นแหละ”
“ต๊าย! อย่าไปพูดให้ใครได้ยินนะ ห้ามว่าพ่อเลี้ยงแบบนั้นเด็ดขาด แต่อันที่จริงพ่อเลี้ยงก็ออกเข้มๆ ไม่ถึงกับดำ แม่ว่าผิวทองแดงคร้ามแดดดูแมนดีนะ”
“แม่ชอบพ่อเลี้ยงหรอคะ”
“ปะ... เปล่า แค่แสดงความเห็นน่ะ”
นวลพรรณรีบแก้ หากแต่ดูเหมือนว่าคนเป็นลูกสาวจะไม่เชื่อ เพราะแอบสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่มารดาของเธอเอ่ยถึงพ่อเลี้ยง แววชื่นชมในดวงตามักจะวาวประกายขึ้นมาอย่างมิอาจปิดซ่อน
“หนูรู้ว่าแม่แอบชอบอีตาดำใช่ไหมคะ”
“บ้า... พูดอะไรออกมายัยบัว แม่ขอทีเถอะ ได้โปรดอย่าเรียกพ่อเลี้ยงแบบนั้น ห้ามแสดงอารมณ์ไม่สุภาพกับพ่อเลี้ยงเด็ดขาด... พ่อเลี้ยงก้องภพคือผู้มีพระคุณของเรา แม่เคยสอนแล้วใช่ไหม”
นวลพรรณมักจะเรียกก้องภพว่า ‘พ่อเลี้ยง’ เหมือนอย่างที่คนงานในฟาร์มเรียกเขาจนติดปาก
“ก็คุณอาไม่น่ารักเลยค่ะคุณแม่... อะไรที่หนูอยากทำดูเหมือนจะผิดไปหมดในสายตาของคุณอา”
สุ้มเสียงของหญิงสาวบอกความน้อยใจ
“แล้วหนูไปทำเรื่องอะไรให้คุณอาไม่พอใจล่ะลูก”
คิ้วของนวลพรรณชิดเข้าหากัน
“ก็เรื่องที่หนูอยากหารายได้พิเศษนั่นแหละค่ะ”
ใบหน้าสะสวยยังไม่วายจากอาการกระเง้ากระงอด ยิ่งนึกถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงขึ้นมาทีไรก็ยิ่งโกรธจนระงับเอาไว้ไม่อยู่
“อันที่จริงแม่เห็นด้วยกับพ่อเลี้ยงนะ... แม่ไม่อยากให้หนูต้องไปเป็นพริตตี้นุ่งน้อยห่มน้อยยืนตากสายตาให้ผู้ชายทั้งงานรุมถ่ายภาพ”
ที่นวลพรรณรู้ดีก็เพราะว่าอาชีพพวกนี้หล่อนเคยทำมาก่อนเมื่อในอดีต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะไม่สนับสนุนความคิดของลูกสาวในเรื่องนี้
“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปถึงไหนแล้วคะแม่ พอกัน... คุณแม่กับคุณอาหัวโบราณพอๆ กัน แบบนี้ถ้าคุณแม่กับคุณอาแต่งงานกันคงสมกันดีนะคะ”
“ยัยบัว... อย่าพูดอย่างนี้ให้ใครได้ยินเด็ดขาด”
นวลพรรณรีบทำเสียงเข้มปรามลูกสาว
“ทำไมล่ะคะคุณแม่... ตอนนี้คุณอาสามสิบเจ็ด คุณแม่ก็สามสิบหก... ดูไปก็สมกันดีนะคะ”
ใบบัวยังไม่หยุดทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชัก นวลพรรณจำต้องส่ายหน้า เพราะว่าหล่อนตระหนักอยู่เสมอในฐานะอันต่ำต้อยของตัวเอง
ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่า ‘ค่า’ ของแม่ม่ายอย่างหล่อนนั้นต่ำต้อยนักในสายตาของพ่อเลี้ยงก้องภพ แล้วความเจ็บแค้นอีกอย่างที่ยังคงฝังใจพ่อเลี้ยงก้องภพตลอดมาก็คือเรื่องที่หล่อนทิ้งก้องภูผู้เป็นพี่ชายของเขาไปแต่งงานกับชายอื่น ทำให้ก้องภูเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะความเสียใจ
“คุณแม่ไม่ชอบคุณอาหรือคะ... ดูๆ ไปคุณอาก็หล่อนะคะ ถึงจะดำไปหน่อย... แต่หุ่นก็แม๊นแมนนะคะ นี่ถ้าหนูเป็นคุณแม่หนูคงจีบคุณอาไปแล้วละค่ะ”
ใบบัวยังไม่หยุดจ้อ ที่เธอแสดงความเห็นออกมาเช่นนั้นเพราะว่ามารดาของเธอกับพ่อเลี้ยงก้องภพอายุใกล้เคียงกัน
“ยัยบัว... ถ้ายังไม่หยุดพูดเรื่องนี้แม่จะฟาดด้วยไม้ขนไก่นี่แหละ”
นวลพรรณเอาจริง หล่อนทำท่าง้างไม้กวาดขนไก่ที่ถืออยู่ในมือ
“โอ๊ย... อย่านะคะ หยุดแล้วค่ะหยุด”
ใบบัวรีบเผ่นไปเสียก่อนที่จะโดนตี นวลพรรณได้แต่มองตามแล้วส่ายหน้าเนือยๆ แม้ว่าทุกวันนี้ใบบัวจะเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง แต่บางครั้งกิริยาท่าทางก็ไม่ต่างจากเด็กๆ
ร่างบอบบางของลูกสาวลับไปจากสายตาแล้วก็จริง หากแต่คำพูดของใบบัวเมื่อครู่ยังคงกึกก้องอยู่ในหูของนวลพรรณ
‘คุณแม่ไม่ชอบคุณอาหรือคะ?’
นวลพรรณยอมรับว่าก้องภพเป็นผู้ชายมีเสน่ห์ ผู้หญิงคนไหนบ้างล่ะที่ไม่ชอบเขา หล่อนเองก็คนหนึ่งละที่แอบหลงเสน่ห์ก้องภพตั้งแต่แรกเห็น
นวลพรรณทำได้เพียงแอบรักก้องภพอยู่ในใจ เฝ้ามองดูด้วยสายตาชื่นชมอยู่เงียบๆ หากไม่กล้าอาจเอื้อมเผยความในใจออกไปให้เขารู้ ด้วยเข้าใจว่าก้องภพต้อง ‘เกลียด’ หล่อนอย่างแน่นอน กับสิ่งที่หล่อนเคยทำไว้กับพี่ชายของเขาเมื่อในอดีต ความรู้สึกผิดนี้เองได้กลายมาเป็นเหมือนกำแพงที่ขวางกั้นตรงกลางระหว่างหล่อนกับเขา
นวลพรรณแอบทอดสายตาไปยังร่างสูงใหญ่ของพ่อเลี้ยงเจ้าของฟาร์มที่ยังคงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในท่าเดิมโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากำลังถูกแอบมอง
“พ่อเลี้ยงคะ... สายแล้วนะคะ นวลสั่งให้เด็กเตรียมกับข้าวขึ้นโต๊ะเอาไว้แล้วนะคะ”
เสียงหวานอิดเอื้อนบอกก้องภพ
“แล้วเธอกินหรือยัง?”
พ่อเลี้ยงถามกลับมาทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่หน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ได้เหลียวมามองคนถามเลยสักนิด
“ยังค่ะ... ”
“อ้าว... ทำไมยังไม่กินล่ะ”
เขาเหลือบมองหน้าหล่อนแวบหนึ่ง
“นวลรอทานข้าวพร้อมพ่อเลี้ยงคะ”
“รอทำไม... ปากไม่ได้ติดกันสักหน่อย หิวก็กินไปก่อน ไม่เห็นต้องรอเลยนี่นา”
นวลพรรณทำหน้าเจื่อน หลังจากได้ยินที่พ่อเลี้ยงบอก
“วันนี้ผมไม่อยากกินข้าว ขอขนมปังปิ้งสองแผ่นก็พอ... ”
เขาไขว่ห้าง พลิกหนังสือพิมพ์ไปมา
“ค่ะ... พ่อเลี้ยงรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวนวลจะรีบไปทำมาให้เดี๋ยวนี้ละค่ะ”
นวลพรรณรับคำแล้วรีบเดินออกมาจากศาลาริมน้ำ พอกลับมาถึงครัวก็กระวีกระวาดให้คนใช้จัดการปิ้งขนมปังตามที่พ่อเลี้ยงสั่ง