ตอนที่ 1
“คุณอาน่าหม่ำ”
“ฟ้าไม่ยอมนะคะคุณแม่… ยังไงฟ้าก็ไม่ไปเด็ดขาด คุณพ่อใจร้าย ฮือๆ… ”
หญิงสาวใบหน้าสะสวยไม่แพ้นางเอกละครแถวหน้าของเมืองไทย มีชื่อว่า ‘ฟ้าใส’ ร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาในห้องนอนของนางวงศ์เดือนผู้เป็นมารดาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ภายหลังจากโดนนายบุญชัยซึ่งเป็นบิดาบังเกิดเกล้าบังคับว่าจะเอาตัวไปกักบริเวณไว้ที่สวนปาล์มของเพื่อนรักซึ่งอยู่ทางภาคใต้
“ใจเย็นๆ… ไม่ต้องร้องไห้นะลูก แม่เชื่อว่าคุณพ่อมีเหตุผลที่ทำอย่างนี้”
นางวงศ์เดือนรู้ว่าสามีเอือมระอาพฤติกรรมของลูกสาวที่ชอบออกเที่ยวกลางคืนเป็นประจำ คบหาเพื่อนฝูงในแวดวงไฮโซที่วันๆ เอาแต่พากันออกเที่ยวเตร่ เกเรไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย กินเที่ยวกันอย่างอิสระเสรี ทำตัวเป็นคุณหนูผลาญเงินไปวันๆ
“ไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่… ฟ้าสัญญาว่าจากนี้ไปจะเข้าไปช่วยงานในบริษัทของคุณพ่อทุกวัน จะไม่ทำตัวเกเรอีกแล้วค่ะ”
หญิงสาวทำหน้าสำนึกผิดขึ้นมาทันที รีบต่อรองด้วยการให้สัญญาออกไปก่อน ทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า
นางวงศ์เดือนมองหน้าลูกสาวด้วยแววตาเห็นใจ แต่อีกใจก็เห็นพ้องกับสามีของหล่อนว่าครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะเอาลูกสาวคนนี้ไปดัดสันดานเสียบ้าง เพราะว่าที่ผ่านๆ มาครอบครัวอุตส่าห์ส่งเสียให้ไปร่ำเรียนจนจบปริญญาตรีมาจากเมืองนอก แต่ทุกวันนี้ฟ้าใสก็ยังไม่ยอมทำการทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน กลับมาจากต่างประเทศก็คบหากับกลุ่มเพื่อนฝูงในแวดวงไฮโซจนติดเพื่อนงอมแงม
บางครั้งนางวงศ์เดือนเองก็รู้สึกกลุ้มใจไม่น้อยไปกว่าสามี เกือบปีมาแล้วที่หล่อนเฝ้ามองดูลูกสาวใช้ชีวิตอย่างไม่มีทิศทาง ได้แต่นึกเสียดายที่เห็นว่าเวลาในแต่ละวันของฟ้าใสหมดเปลืองไปอย่างไร้ค่า กับการเที่ยวเตร่ ติดนิสัยช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมถึงขั้นว่าทุกวันนี้ตู้เสื้อผ้าและตู้ใส่รองเท้าแทบไม่พอให้เก็บ บัตรเครดิตที่ผู้เป็นบิดาทำให้ก็รูดปรื้ดจนไม่คิดหน้าคิดหลัง
นางวงศ์เดือนย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง
‘ถ้าเราขืนตามใจปล่อยให้ยัยฟ้าเป็นแบบนี้… สักวันคงแย่แน่ๆ’
คำพูดของสามียังกึกก้องอยู่ในหู ด้วยนายบุญชัยรู้สึกกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก หลังจากกลิ่นบุหรี่ในห้องนอนของลูกสาวลอยมากระทบจมูกเข้าอย่างจัง ขณะเดินผ่านโดยบังเอิญในเช้าวันหนึ่ง เมื่อเคาะประตูเข้าไปถามก็พบว่ามีบุหรี่ซองหนึ่งซ่อนเอาไว้ในตู้เก็บของภายในห้องของฟ้าใส
‘ไม่ใช่ของฟ้าค่ะคุณพ่อ… ’
คนเป็นลูกสาวเถียงไม่หยุด เมื่อโดนบิดาจับได้ว่าแอบสูบบุหรี่
‘ไม่ใช่ของลูกแล้วมันมาอยู่ในห้องได้ยังไง… เห็นหลักฐานชัดเจนอย่างนี้ยังจะมาเถียง’
นายบุญชัยเสียงเข้มขึ้นทันที เมื่อจำเลยปากแข็งทำท่าว่าจะไม่ยอมรับผิด
‘ของเพื่อนน่ะค่ะคุณพ่อ… เมื่อคืนตอนอยู่ในผับมันเอามาฝากไว้’
ฟ้าใสไม่ได้โกหก เมื่อคืนเพื่อนหญิงคนหนึ่งเอามาฝากไว้จริงๆ แล้วเมื่อเช้าเธอเกิดครึ้มอกครึ้มใจคว้าขึ้นมาลองสูบเล่นๆ จนกลิ่นบุหรี่ลอยออกไปกระทบจมูกบิดาที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญ
‘เอาทิ้งก็ได้ค่ะ’
ฟ้าใสหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาแล้วขว้างออกไปจากหน้าต่างห้องนอนด้วยสีหน้ากระเง้ากระงอด ราวกับว่าเรื่องราวควรจะจบลงเพียงเท่านี้… แต่ไม่ใช่
นายบุญชัยถึงกับต้องส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับการกระทำของลูกสาว ฟ้าใสคงไม่รู้หรอกว่าในหัวอกของคนเป็นพ่อนั้นไม่ได้ห่วงแค่บุหรี่ซองนี้ หากแต่ยังมองเลยไปถึงเรื่องยาเสพติดว่าฟ้าใสอาจจะพลาดพลั้งไปติดยาไอซ์ยาอีเข้าสักวัน เพราะว่าเพื่อนบางคนที่คบหากันอยู่ในตอนนี้เคยมีประวัติต้องดคียาเสพติดจนเป็นข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์
‘ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง… ปล่อยไว้แบบนี้ยัยฟ้าเสียคนแน่ๆ คุณมีความเห็นว่ายังไงบ้าง’
สามีขอความเห็น หลังจากระบายความกลัดกลุ้มให้นางวงศ์เดือนได้ฟัง
‘ตามใจคุณพี่เถอะค่ะ’
แม้จะรักและตามใจลูกสาวคนเดียวมาตลอด แต่ครั้งนี้นางวงศ์เดือนไม่ขัด เมื่อนึกอนาคตในภายภาคหน้าของฟ้าใส ก่อนที่ลูกสาวคนเดียวซึ่งตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะให้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจพันล้านของวงศ์ตระกูลจะเสียผู้เสียคนมากไปกว่านี้
“ฮือๆ… คุณแม่ช่วยฟ้าด้วยนะคะ”
หญิงสาวเขย่าแขนของมารดาด้วยความลืมตัวไม่ต่างจากครั้งที่ตัวเองเป็นเด็กๆ
“คุณพ่อกำลังโกรธจัด… แม่ว่าน้ำเชี่ยวอย่างเพิ่งขวางเรือ ยอมๆ ไปก่อน สักพักถ้าคุณพ่อหายโกรธแล้วค่อยกลับมาอยู่บ้าน