คุณอาน่าหม่ำ

26.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
23
บท
33.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“อ๊อยย... ” ร่างสั่นสะท้านร้องครางออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ซ่านเสียวจนหยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงมาอาบเนินแก้มเรื่อละมุนไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว “ไม่ไหวแล้วค่ะคุณอา... ฟ้าใจจะขาดอยู่แล้ว” ความหวิววาบกำลังแล่นลึกเข้าไปในกายสาว “ได้เลยจ้ะสาวน้อยของอา” นายหัวหยัดร่างสูงใหญ่ขึ้นจากท่านั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างง่ามขาอ้ากว้าง เสี้ยวอึดใจต่อมาหญิงสาวก็รู้สึกอึดอัด เมื่อเรือนกายใหญ่โตและเปลือยเปล่าเบียดแทรกลงมาตรงกลางระหว่างเข่าทั้งสองข้างที่ตั้งชันเปิดรับลำตัวของเขา “อาจะค่อยๆ นะจ๊ะคนดี” ได้ยินที่บอกปลายเท้าทั้งสองข้างของหญิงสาวก็กระหวัดรัดรอบบั้นเอวหนา ปลายเท้าทั้งสองข้างขัดกันเอาไว้ตรงบั้นท้ายของคนตัวโต มือเรียวโอบรั้งหลังไหล่ เร่งเร้าให้เขาชำแรกแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในความคับแคบของเธอ “อืยยย…” หญิงสาวพริ้มตา ใบหน้าบิดเบ้ไปชั่วครู่ จิตใจจดจ่ออยู่กับความใหญ่โตอันน่าอึดอัด ความเป็นชายชาตรีของคุณอาซึ่งไม่ธรรมดานั้นสร้างความเจ็บแปลบจนไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปได้ในครั้งแรก “ของฟ้าคับแน่นเหลือเกิน... นี่เป็นครั้งแรกใช่ไหม?”

นิยายรักนิยายปัจจุบันประธานพลิกชีวิตนางเอกเก่งรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัย

ตอนที่ 1

“คุณอาน่าหม่ำ”

“ฟ้าไม่ยอมนะคะคุณแม่… ยังไงฟ้าก็ไม่ไปเด็ดขาด คุณพ่อใจร้าย ฮือๆ… ”

หญิงสาวใบหน้าสะสวยไม่แพ้นางเอกละครแถวหน้าของเมืองไทย มีชื่อว่า ‘ฟ้าใส’ ร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาในห้องนอนของนางวงศ์เดือนผู้เป็นมารดาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ภายหลังจากโดนนายบุญชัยซึ่งเป็นบิดาบังเกิดเกล้าบังคับว่าจะเอาตัวไปกักบริเวณไว้ที่สวนปาล์มของเพื่อนรักซึ่งอยู่ทางภาคใต้

“ใจเย็นๆ… ไม่ต้องร้องไห้นะลูก แม่เชื่อว่าคุณพ่อมีเหตุผลที่ทำอย่างนี้”

นางวงศ์เดือนรู้ว่าสามีเอือมระอาพฤติกรรมของลูกสาวที่ชอบออกเที่ยวกลางคืนเป็นประจำ คบหาเพื่อนฝูงในแวดวงไฮโซที่วันๆ เอาแต่พากันออกเที่ยวเตร่ เกเรไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย กินเที่ยวกันอย่างอิสระเสรี ทำตัวเป็นคุณหนูผลาญเงินไปวันๆ

“ไม่ไปได้ไหมคะคุณแม่… ฟ้าสัญญาว่าจากนี้ไปจะเข้าไปช่วยงานในบริษัทของคุณพ่อทุกวัน จะไม่ทำตัวเกเรอีกแล้วค่ะ”

หญิงสาวทำหน้าสำนึกผิดขึ้นมาทันที รีบต่อรองด้วยการให้สัญญาออกไปก่อน ทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า

นางวงศ์เดือนมองหน้าลูกสาวด้วยแววตาเห็นใจ แต่อีกใจก็เห็นพ้องกับสามีของหล่อนว่าครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะเอาลูกสาวคนนี้ไปดัดสันดานเสียบ้าง เพราะว่าที่ผ่านๆ มาครอบครัวอุตส่าห์ส่งเสียให้ไปร่ำเรียนจนจบปริญญาตรีมาจากเมืองนอก แต่ทุกวันนี้ฟ้าใสก็ยังไม่ยอมทำการทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน กลับมาจากต่างประเทศก็คบหากับกลุ่มเพื่อนฝูงในแวดวงไฮโซจนติดเพื่อนงอมแงม

บางครั้งนางวงศ์เดือนเองก็รู้สึกกลุ้มใจไม่น้อยไปกว่าสามี เกือบปีมาแล้วที่หล่อนเฝ้ามองดูลูกสาวใช้ชีวิตอย่างไม่มีทิศทาง ได้แต่นึกเสียดายที่เห็นว่าเวลาในแต่ละวันของฟ้าใสหมดเปลืองไปอย่างไร้ค่า กับการเที่ยวเตร่ ติดนิสัยช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมถึงขั้นว่าทุกวันนี้ตู้เสื้อผ้าและตู้ใส่รองเท้าแทบไม่พอให้เก็บ บัตรเครดิตที่ผู้เป็นบิดาทำให้ก็รูดปรื้ดจนไม่คิดหน้าคิดหลัง

นางวงศ์เดือนย้อนระลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง

‘ถ้าเราขืนตามใจปล่อยให้ยัยฟ้าเป็นแบบนี้… สักวันคงแย่แน่ๆ’

คำพูดของสามียังกึกก้องอยู่ในหู ด้วยนายบุญชัยรู้สึกกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก หลังจากกลิ่นบุหรี่ในห้องนอนของลูกสาวลอยมากระทบจมูกเข้าอย่างจัง ขณะเดินผ่านโดยบังเอิญในเช้าวันหนึ่ง เมื่อเคาะประตูเข้าไปถามก็พบว่ามีบุหรี่ซองหนึ่งซ่อนเอาไว้ในตู้เก็บของภายในห้องของฟ้าใส

‘ไม่ใช่ของฟ้าค่ะคุณพ่อ… ’

คนเป็นลูกสาวเถียงไม่หยุด เมื่อโดนบิดาจับได้ว่าแอบสูบบุหรี่

‘ไม่ใช่ของลูกแล้วมันมาอยู่ในห้องได้ยังไง… เห็นหลักฐานชัดเจนอย่างนี้ยังจะมาเถียง’

นายบุญชัยเสียงเข้มขึ้นทันที เมื่อจำเลยปากแข็งทำท่าว่าจะไม่ยอมรับผิด

‘ของเพื่อนน่ะค่ะคุณพ่อ… เมื่อคืนตอนอยู่ในผับมันเอามาฝากไว้’

ฟ้าใสไม่ได้โกหก เมื่อคืนเพื่อนหญิงคนหนึ่งเอามาฝากไว้จริงๆ แล้วเมื่อเช้าเธอเกิดครึ้มอกครึ้มใจคว้าขึ้นมาลองสูบเล่นๆ จนกลิ่นบุหรี่ลอยออกไปกระทบจมูกบิดาที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญ

‘เอาทิ้งก็ได้ค่ะ’

ฟ้าใสหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาแล้วขว้างออกไปจากหน้าต่างห้องนอนด้วยสีหน้ากระเง้ากระงอด ราวกับว่าเรื่องราวควรจะจบลงเพียงเท่านี้… แต่ไม่ใช่

นายบุญชัยถึงกับต้องส่ายหน้าด้วยความเอือมระอากับการกระทำของลูกสาว ฟ้าใสคงไม่รู้หรอกว่าในหัวอกของคนเป็นพ่อนั้นไม่ได้ห่วงแค่บุหรี่ซองนี้ หากแต่ยังมองเลยไปถึงเรื่องยาเสพติดว่าฟ้าใสอาจจะพลาดพลั้งไปติดยาไอซ์ยาอีเข้าสักวัน เพราะว่าเพื่อนบางคนที่คบหากันอยู่ในตอนนี้เคยมีประวัติต้องดคียาเสพติดจนเป็นข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์

‘ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง… ปล่อยไว้แบบนี้ยัยฟ้าเสียคนแน่ๆ คุณมีความเห็นว่ายังไงบ้าง’

สามีขอความเห็น หลังจากระบายความกลัดกลุ้มให้นางวงศ์เดือนได้ฟัง

‘ตามใจคุณพี่เถอะค่ะ’

แม้จะรักและตามใจลูกสาวคนเดียวมาตลอด แต่ครั้งนี้นางวงศ์เดือนไม่ขัด เมื่อนึกอนาคตในภายภาคหน้าของฟ้าใส ก่อนที่ลูกสาวคนเดียวซึ่งตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะให้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจพันล้านของวงศ์ตระกูลจะเสียผู้เสียคนมากไปกว่านี้

“ฮือๆ… คุณแม่ช่วยฟ้าด้วยนะคะ”

หญิงสาวเขย่าแขนของมารดาด้วยความลืมตัวไม่ต่างจากครั้งที่ตัวเองเป็นเด็กๆ

“คุณพ่อกำลังโกรธจัด… แม่ว่าน้ำเชี่ยวอย่างเพิ่งขวางเรือ ยอมๆ ไปก่อน สักพักถ้าคุณพ่อหายโกรธแล้วค่อยกลับมาอยู่บ้าน