บทที่ 2
“เอ่อ...อา อาก็คิดถึงกุ๊กเหมือนกันจ้ะ”
โจนาธานพูดเสียงติดขัด ลมหายใจของเขาแทบจะสะดุดเมื่อเห็นนวลหน้างามในระยะใกล้ ณัฏฐลักษณ์โตเป็นสาวแล้ว และที่สำคัญสวยมากด้วย สวยจนเขาคิดเตลิดไปไกล
“กุ๊กคนนี้เป็นใครคะจอน?” โมนิก้าเอ่ยถาม หลังจากมองดูความสนิทสนมของทั้งคู่อยู่นาน ดวงตากลมโตของณัฏฐลักษณ์หันไปมองต้นเสียง ก่อนจะหันมามองหน้าอาหนุ่ม จากนั้นก็คลายอ้อมกอดแล้วถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว
“เป็นหลานฉันเอง” โจนาธานตอบคำถามของนางแบบสาวที่ตามตื๊อจะมากับเขาด้วย อ้างว่าขากลับจะได้ไปส่งเธอที่อพาร์ทเม้นท์เพราะเป็นทางผ่านพอดี ความที่รีบร้อนทำให้เขาจำยอมให้โมนิก้ามาด้วย
“หลาน” โมนิก้าทวนคำเสียงสูง “คุณมีหลานตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
“ก็มีตอนที่พี่แมทตายนั่นแหละ”
เขาตอบแบบขอไปที คิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้โมนิก้าได้เข้าใจมากกว่านี้ โมนิก้ามองหญิงสาวชาวไทยหน้าตาสวยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ซึ่งคนที่ถูกมองก็ดูเหมือนจะรู้ตัว หลบสายตาพิฆาตของสาวต่างชาติทันที
“กลับกันเถอะคะจอน นิก้าเหนียวตัวจะแย่แล้วอยากกลับบ้านไปอาบน้ำ เมื่อกี้ตอนลุกจากเตียงของคุณ นิก้ายังไม่ได้อาบน้ำเลย”
นางแบบสาวตั้งใจพูดให้สาวไทยได้ยิน เหมือนจะประกาศให้คนได้ยินรู้ว่า ตนมีความสัมพันธ์แบบไหนกับโจนาธาน ณัฏฐลักษณ์เงยหน้ามองคุณอาหนุ่มด้วยสายตาที่ทำให้เขารู้สึกประหนึ่งโลกแคบลงจนเกิดความอึดอัด
“พูดบ้าอะไรของเธอนิก้า เตียงเติงที่ไหนกัน เมื่อกี้เธอไม่ได้อยู่บนเตียงฉันเสียหน่อย”
โจนาธานพูดแก้ตัว หวังจะให้บรรยากาศชวนอึดอัดนั้นบรรเทา แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้ความรู้สึกนั้นมันโถมทับมากขึ้น
“ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะคะ ก็เมื่อกี้เราอยู่บนเตียงด้วยกัน ถ้าลูกน้องของคุณไม่ขึ้นมาตาม คุณก็คงมารับหลานสาวของคุณไม่ทัน เพราะคุณลืมว่าหลานของคุณจะมาวันนี้” นางแบบสาวเผลอตัวแหวใส่ชายหนุ่มรูปหล่อทันที และคำพูดของเธอก็ทำให้คนที่ถูกลืมถึงกับน้ำตาคลอเบ้า
“คุณอาลืมกุ๊กหรือคะ คุณอาลืมว่ากุ๊กจะมาหาคุณอาวันนี้”
ณัฏฐลักษณ์พูดเสียงตัดพ้อ น้ำตาหยดไหลด้วยความน้อยใจ โจนาธานรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจกับคำพูดของหลานสาวนอกสายเลือด แล้วยิ่งเห็นน้ำตาของเธอด้วยแล้ว เขารู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย
“เอ่อ...คุณอาไม่ได้ลืมนะคะ คุณอาแค่...แค่” เขาไม่รู้จะแก้ตัวยังไง พูดไม่ออก ติดขัด
“แค่กำลังสนุกกับฉันบนเตียงอยู่ก็แค่นั้นแหละ” โมนิก้าเอ่ยเสริม ยื้มเยาะเมื่อเห็นสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม หน้าซีด ปากคอสั่น
“อาไม่ดะ...” โจนาธานยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงของณัฏฐลักษณ์แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“กุ๊กเหนื่อยจังคะ เราจะไปกันได้หรือยังคะคุณอา”
“นั่นสิคะ จะไปกันได้หรือยัง ยืนอยู่ตั้งนานสองนานแล้วไม่เขยื้อนไปไหนสักที” โมนิก้าบ่นอุบ ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่คนที่ไม่พอใจยิ่งกว่าเธอคือ โจนาธานที่เริ่มทนไม่ไหวกับกิริยาของนางแบบสาว
“งั้นเราไปกันเลยนะคะ กุ๊กจะได้พักผ่อน อาเตรียมห้องสวยๆ ไว้ให้กุ๊กด้วยนะ”
น้ำเสียงของเขานุ่มแสนนุ่มและอ่อนโยน สร้างความหมั่นไส้ให้โมนิก้าไม่น้อย แต่เธอก็ทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากฮึดฮัดเดินตามโจนาธานกับหลานสาวไปยังรถคันโก้ที่จอดอยู่นอกอาคารโดยสาร
และเมื่อทั้งหมดเดินมาถึงรถยนต์คันดังกล่าว บานประตูรถที่ไซลัสเปิดรอเจ้านายของตนก็ถูกปิดลงปังใหญ่ จากมือของเจ้าของรถ
“ปิดประตูทำไมคะจอน” โมนิก้าที่กำลังจะเข้าไปนั่งในรถเอ่ยถามทันควัน ที่จู่ๆ เขาก็ปิดประตูรถเอาดื้อๆ โจนาธานไม่พูดอะไร ล้วงหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ยัดใส่มือนางแบบสาวจำนวนหนึ่ง
“ค่ารถของเธอ เรียกแท็กซี่กลับเองก็แล้วกัน” เขาพูดกับโมนิก้าเสียงห้วน ก่อนจะหันไปพูดกับณัฏฐลักษณ์ด้วยน้ำเสียงที่ต่างราวฟ้ากับดิน “น้องกุ๊กคะ ขึ้นรถเถอะค่ะ จะได้รีบไปพักผ่อนที่บ้านของคุณอา”
พูดจบเขาก็เปิดประตูรถให้หญิงสาวหน้าตาน่ารักแต่หน้าเรียบตึงเข้าไปนั่งในรถ ก่อนที่เขาจะเข้าไปนั่งเบาะเดียวกับเธอ แล้วปิดประตูรถทันที ไม่สนใจหญิงสาวอีกคนที่กระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความขัดใจ ส่งเสียงโวยวายดังลั่น
“คุณจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะคะจอน ฉันไม่ยอมนะ เปิดประตูสิ ปัง ปัง ปัง เปิดประตู”
คนที่อยู่นอกรถโวยวายไม่อายใคร ใช้ฝ่ามือทุบกระจกรถยนต์หลายครั้ง แต่ทว่าประตูบานนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก หนำซ้ำรถของโจนาธานยังเคลื่อนตัวออกไปอย่างไม่สนใจนางแบบสาวที่ยังคงส่งเสียงตามรถไม่หยุด กระทืบเท้าหลายครั้งอย่างขัดใจ ความเจ็บใจแทรกเข้ามาในอกของสาวจอมริษยาที่อาฆาตแค้น ณัฏฐลักษณ์สาวน้อยชาวไทยเต็มอก