2 การมาถึงของเธอ
หลังจากตัดสาย ประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามาแทบจะในทันที ร่างสูงใหญ่ของฮิวโก้ มือขวาคนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่ง บอดี้การ์ดหยุดยืนข้างประตู ค้อมหัวลงเล็กน้อย แล้วร่างบางที่แสนจะเย้ายวนก็เดินแทรกเข้ามา ด้วยท่วงท่าที่ต่อให้เป็นพระอิฐพระปูนก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหลียวหลังมอง แล้วคนที่เต็มไปด้วยบาปอย่างเอ็ดเวิร์ดจะไปเหลืออะไร
จัสมินเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง หัวใจเธอกระหน่ำเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและดีใจที่ได้พบกับบุคคลที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนี้อีกครั้ง
เอ็ดเวิร์ด นอร์แมน ในวัยสี่สิบสองปี ยังคงหล่อเหลาเปี่ยมเสน่ห์ชวนให้หลงใหลเหมือนเดิม หรืออาจจะยิ่งกว่าเดิม เธอพยายามระงับอารมณ์อันมากล้นของตัวเองแล้วเอ่ยทักทายเขา
“สวัสดีค่ะอาเอ็ด” เสียงหวานใสดังขึ้น เรียกสติที่เกือบหลุดลอยของเจ้าของห้องกลับมา
เอ็ดเวิร์ดมองลูกสาวเพื่อนซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอเปล่งประกายจนเขาต้องกะพริบตาช้า ๆ และต้องเลี่ยงที่จะสบตาโดยตรง การสบดวงตาแสนสวยโดยตรงนั้นอันตรายสำหรับเขายิ่งกว่ามองพระอาทิตย์ด้วยตาเปล่าเสียอีก แต่พอหลุบตาลง ก็ต้องเจอกับลำคอระหงและเนินอกที่เปิดเปลือยจากเดรสสายเดี่ยวที่เธอสวมอยู่ หญิงสาวคงรู้ดีว่าชุดแบบนี้จะทำให้เธอดูเซ็กซี่และเย้ายวนจนหัวใจหนุ่มใหญ่สั่นไหว เอ็ดเวิร์ดเริ่มเห็นความหายนะที่กำลังจะมาเยือนอยู่ตรงหน้า เขาตัดสินใจอย่างหนักแน่นได้ทันทีเลยว่าจะต้องอยู่ห่างจากเธอให้มากที่สุด
เด็กสาว ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าตอนนี้จัสมินโตเป็นสาวไปทั้งเนื้อทั้งตัว เป็นตัวอันตรายสำหรับเขาอย่างยิ่ง
“อาเอ็ด” จัสมินยิ้มกว้างเรียกเขาอีกครั้ง
“จัสมิน” เขาเอ่ยทักทายตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้นิ่งที่สุด แล้วมองเลยไปยังด้านหลังที่ผู้ช่วยของเขายืนอย่างสงบนิ่งอยู่
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย” เขาเอ่ยถาม
“ครับคุณเอ็ดเวิร์ด” ฮิวโก้ตอบกลับสั้นกระชับและไร้อารมณ์
“จัสมิน เอ่อ…การเดินทางเป็นยังไงบ้าง”
“ราบรื่นดีค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร”
“ฉันเตรียมห้องพักที่นอร์แมนสวีทไว้ให้เธอ คิดว่าเธอคงอยากจะพักผ่อนหลังจากการเดินทาง” เขาหมายถึงกิจการโรงแรมระดับห้าดาวในเครือนอร์แมนที่ตั้งอยู่บนถนนถัดไป
“ขอบคุณค่ะ แต่จัสว่าจะพักที่อพารต์เมนต์จัสมากกว่า คุณพ่อสั่งคนให้ทำความสะอาดไว้แล้ว” การปฏิเสธของเธอไม่ถือเป็นการเสียมารยาทอะไร เพราะเขาเองก็คิดว่าเอริคคงไม่ยอมปล่อยให้ลูกสาวพักตามลำพังที่โรงแรม เขาแค่จัดเตรียมเผื่อไว้ก็เท่านั้น ถือเป็นมารยาททางหนึ่งด้วย
“เอาอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันจะให้ฮิวโก้ไปส่งเธอแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างบทสนทนาที่เอ็ดเวิร์ดคิดว่าช่างน่าอึดอัดเสียเหลือเกิน เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแม้จะเป็นตอนเจรจาธุรกิจสำคัญ แต่กับเด็กสาวตรงหน้าที่จ้องเขาตาแป๋วนี่ เขากลับรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่คอยรบกวนจิตใจเขาอยู่
“เมื่อกี้เอริคโทรมาถามถึงเธอ คงติดต่อเธอไม่ได้ในระหว่างเดินทาง อย่าลืมโทรหาเอริคด้วยล่ะว่าเธอมาถึงแล้ว” เขาหยิบยกเรื่องมาพูดเพื่อทำลายบรรยากาศแปลก ๆ
“ค่ะ” เธอส่งยิ้มให้เขา แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง
เอ็ดเวิร์ดนิ่งอย่างใช้ความคิด หรือเขาจะทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหน บางทีเขาเองก็ไม่ได้ดูเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงตอบกลับในทำนองเดียวกัน ความจริงเอริครับรองเขาดีมากทุกครั้งที่เขาไปแอลเอ บางครั้งถึงกับเคลียร์งานทุกอย่างเพื่อพาเขาไปดินเนอร์ แล้วนี่ลูกของคนที่ดีกับเขาขนาดนี้เดินทางระหกระเหินข้ามเมืองมาเหนื่อย ๆ เขาอาจจะต้องแสดงไมตรีจิตตามมารยาทอีกครั้ง
เขามองสาวสวยที่ส่งยิ้มให้แล้วตัดสินใจบางอย่างขึ้นมาได้
“จัสมิน”
“คะ ?”
“ฉันจะพาเธอไปดินเนอร์คืนนี้ เอาเป็นว่าเจอกันที่ล็อบบี้ตอนหนึ่งทุ่ม โอเคไหม”
“ค่ะ” จัสมินยิ้มกว้างกว่าเดิม ส่งให้ใบหน้ายิ่งเปล่งประกาย เธอดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ถึงกับไม่แยแส
เอ็ดเวิร์ดฝืนยิ้มตอบ คิดว่าแค่ดินเนอร์มื้อเดียวคงจะเพียงพอแล้วสำหรับการต้อนรับเด็กสาว และเขาคงจะไม่โดนตำหนิเรื่องมารยาทและการไร้น้ำใจ ทั้งที่ความจริงเขาแค่อยากจะเว้นระยะห่างก็เท่านั้นเอง