Chapter 4 สังเวยพรหมจรรย์ 4
ภาพแห่งความทรงจำฉายชัดแม้จะผ่านมานับร้อยปีแล้วก็ตาม...
ท่านเคานต์กาแอล ยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น เขาได้ครอบครองคฤหาสน์และที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ มีบริวารมากมายรายล้อมคอยดูแลประหนึ่งราชา ทว่าเขากลับเดินทางผิดหลงมัวเมาในกามตัณหา นำมาซึ่งโทษและคำสาปแช่งที่มิอาจลบล้างตราบนานเท่านาน
‘ท่านเคานต์เกิดเรื่องแล้วขอรับ ชาวบ้านลือกันว่ามีนางแม่มดร้ายมาอาศัยอยู่ชายป่าไม่ไกลจากคฤหาสน์ขอรับ’
ท่านเคานต์กาแอลค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากหน้าอกทรงโตของผู้หญิง ก่อนจะยกแก้วสุราสีอำพันขึ้นดื่มแล้วหัวเราะชอบใจด้วยฤทธิ์น้ำเมา เขาเป็นชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลสดใส ผมสีบรอนด์ทองรับกับโครงหน้าแข็งแกร่งสมชายชาตรี กาแอลเป็นท่านเคานต์ที่ถูกเล่าลือไปไกลว่ามีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ
ครั้งหนึ่งพระราชินีถึงกับเรียกตัวเข้าเฝ้า เพราะทรงอยากรู้ว่าเคานต์กาแอลมีหน้าตาหล่อเหลาสมดั่งคำร่ำลือจริงหรือไม่ ซึ่งเคานต์กาแอลก็ไม่ได้ทำให้พระราชินีทรงผิดหวัง มิหนำซ้ำพระราชินียังทรงมีพระกรุณาพระราชทานเงินทองและสาวสวยให้แก่เคานต์กาแอลอีกด้วย
แล้วหญิงข้างกายที่เขากำลังกกกอดพลอดรักอยู่ในขณะนี้ ก็คือหนึ่งในของพระราชทานนั่นเอง เธอมีนามว่าวาเนสซา...
“ข้าจะทำอย่างไรกับนังแม่มดร้ายดี”
เคานต์กาแอลพูดพลางเอนตัวไปมาขณะที่มือซ้ายโอบตระกองกอดแม่สาวทรงโต ล้วงลึกเข้าไปเคล้นคลึงหน้าอกอย่างมันมือ ส่วนมือขวาถือแก้วสุราไว้ไม่ยอมปล่อยราวกับว่ามันคืออาหารเลิศรสที่ช่วยต่อลมหายใจเสียกระนั้น
“เผามันทิ้งเลยดีมั้ยคะท่านเคานต์ นางแม่มดร้ายน่ากลัวจะตายไป ปล่อยเอาไว้ก็เกรงว่าจะนำภัยมาสู่ท่าน”
หญิงสาวกระซิบกระซาบก่อนจะบดเบียดหน้าอกชูชันเข้าหาเคานต์หนุ่มอย่างยั่วเย้า ขยิบตาเชิญชวนให้ร่วมหลับนอนกับเจ้าหล่อน เริงสวาทกันให้ถึงพริกถึงขิงเฉกเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมาแทนที่จะมานั่งรับฟังเรื่องไร้สาระ
“เผามันทิ้งซะ!”
สติที่ขาดหายเพราะฤทธิ์สุราทำให้ท่านเคานต์กาแอลประกาศคำสั่งที่แสนโหดร้ายออกไป ก่อนที่ชายหนุ่มจะกวาดอาหารเลิศรสบนโต๊ะทิ้งแล้วอุ้มหญิงสาวขึ้นวางแทนอาหาร
“ข้าจะดื่มกินเจ้าทั้งคืน”
ชายหนุ่มถลกกระโปรงขึ้นไปกองบนหน้าขาแล้วแทรกแก่นกายเข้าไปกระแทกกระทั้นจนหญิงสาวครางเสียงดังลั่น
“ท่านเคานต์ที่รัก กระแทกเข้ามาแรงๆ เลยค่ะ อาห์...รู้สึกดีจัง”
วาเนสซาอ้าขากว้างโอบรัดรอบเอวสอบด้วยความยินดี เธอรักการเริงสวาท เรียกได้ว่าเสพติดมันเลยก็ว่าได้ ครั้งที่เธอยังเป็นสาวรับใช้อยู่ในวังเธอก็เริงสังวาสกับเหล่าทหารกลัดมันไม่เว้นหน้า เมื่อต้องมาเป็นของกำนัลแด่เคานต์กาแอลก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เพราะนอกจากหน้าตาเขาจะหล่อเหลาชวนหลงใหล ลีลาเขายังร้อนแรงสมกับเป็นนักรักชั้นเลิศ
เธอจึงผูกขาดเขาไว้กับเธอด้วยสารพัดวิธี ไม่คิดแบ่งปันเขาให้กับหญิงคนอื่นๆ ในคฤหาสน์เป็นอันขาด!
“อาห์”
วาเนสซ่าหยัดกายลุกขึ้นแล้วผลักให้เคานต์กาแอลนอนหงาย เธอขึ้นนั่งคร่อมแก่นกายแข็งแรงของเขา แล้วควบขี่ด้วยจังหวะเร็วแรง สองมือบีบหน้าอกอิ่มของตนเองจนแดงเป็นปื้น กระแทกสะโพกลงบนแก่นกายแข็งแกร่งแล้วบดขยี้หมุนวนรัวเร็ว
“วาเนสซา วาเนสซา...” เคานต์กาแอลแอ่นสะโพกรับแรงกระแทกของหญิงสาว
เสียงโต๊ะดังเอี๊ยดอ๊าด พร้อมกับเสียงครางและเสียงหอบหายใจแรงยังความคุ้นชินให้กับสาวใช้จนเห็นเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ทหารออกไปทำตามคำสั่ง ท่านเคานต์กาแอลก็เริงสวาทอยู่กับหญิงสาวโดยไม่รู้เลยว่ามีสาวใช้คนหนึ่งแอบยืนมองอยู่ข้างหน้าต่างด้วยดวงตาปวดร้าว