บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 บอกให้พาผู้ชายมาด้วย

“รีบหรือครับ” คริสถามเพื่อนยิ้ม ๆ

“ก็บอกเค้าว่ามาเข้าห้องน้ำ มานานก็สงสัยสิวะ” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ กระดกเหล้าในแก้วทีเดียวหมด

“คิวยาวแบบนี้ แสดงว่ามึงก็จะไม่มาดูร้านช่วยกูอีกน่ะสิ ไอ้เจก็คนแล้วนะ” คริสแกล้งโอดครวญยื้อเวลาเพื่อน

“ร้านมึง ก็ทำไปสิครับไม่ทำก็ขายแล้วไปเกาะเมียแดกครับจะยากอะไร ไปแล้ว เจอกัน” ว่าพร้อมกับตบบ่าเพื่อนเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเปิดประตูเดินออกจากห้องเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แล้วเดินกลับมาที่ห้องติดกันอีกครั้ง ตอนนี้ได้ยินเสียงคนที่ลากตัวเองมาพูดและหัวเราะกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน

“เฮ้! คิดว่าเดินกลับร้านไปแล้วซะอีก” แองจี้หันมาทักชายหนุ่มที่เห็นเขาประตูเปิดเข้ามา ซึ่งตอนนี้จากสภาพเธอและเพื่อนว่าที่เจ้าสาวของเธอเหมือนจะเมาหนักกว่าเพื่อนอีก 2 คนของเธอมาก

“ไม่ต้องตกใจนะธี มันก็เป็นแบบนี้แหละ นางไม่ค่อยดื่มหรอก วัน ๆ มันทำแต่งาน นี่แค่ 2-3 แก้วก็ไปแล้ว” เอลซี่ว่ากับชายหนุ่มที่บอกเธอว่าชื่อธียิ้ม ๆ

“อ๋อ...ครับ พอดีผมไปคุยธุระกับเพื่อนเลยนานไปหน่อย” ชายหนุ่มว่าพรางนั่งลงที่เดิม แล้วมองแองจี้ที่ตอนนี้กำลังลุกขึ้นเต้นโยกย้ายตามจังหวะเพลงกับต้นข้าวอย่างสนุกสนาน โดยมีทีมคอยดูแลอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น

“เอ้อ...ลืมแนะนำ นี่พี่บอยค่ะแฟนเอลเอง ส่วนนี่พี่พอลแฟนอ้อน แล้วก็ลูกอ้อนหรือจะเรียกมันว่าอ้อนเฉย ๆ ก็ได้ ส่วนที่เต้นอยู่นั้นต้นข้าวว่าที่เจ้าสาวกับน้องทีมน้องรหัสมัน” เอลซี่แนะนำเพื่อน ๆ และแฟนเพื่อนยิ้ม ๆ แล้วรับแก้วจากพนักงานยื่นให้

“ขอบคุณครับ”

“แล้วนี่ถามได้มั้ยคะ คุณธีอายุเท่าไหร่ พวกเราจะได้เรียกถูก” วาซี่แกล้งถามขึ้นพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

“สำคัญมั้ยล่ะครับ ถ้าผมบอกว่าแก่มากแล้วจะไม่คุยกับผมเลยหรือไง” ชายหนุ่มว่าพรางหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ *ถ้าบอกว่าเพื่อนจะแต่งงานแล้วก็คงจบมหาลัยกันหมดแล้วล่ะมั้ง เห็นหน้ากูนึกว่าเด็กมหาลัยซะอีก...* ชายหนุ่มคิดในใจ อย่างโล่งอกถึงร้านนี้จะเป็นร้านเพื่อนแต่หน้าร้านก็ติดป้ายสำหรับบุคคลอายุ 20 ปีขึ้นไป และถ้าเธอคนนี้อายุไม่ถึง 20 เขาย่อมมีความผิดที่พาผู้เยาว์เข้ามาในร้าน และร้านเพื่อนก็ต้องผิดถ้ามีการตรวจสอบ

“ไม่ใช่ค่ะ แต่น้องทีมบอกว่าไม่เคยหน้าคุณ เราเลยคิดว่าคุณอาจไม่ใช่โฮสต์ตามที่รักมันเข้าใจแล้วลากมาน่ะค่ะ เราแค่แกล้งมันเล่นไม่คิดว่ามันจะไปหาลากใครมาจริง ๆ” เอลซี่ว่าพรางยิ้มแห้ง ๆ

“หึ! ชื่อเขาน่ารักดีนะครับ ผมได้ยินคุณเรียกเขาว่าที่รักตอนเข้ามา” ชายหนุ่มยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยไปอีกทาง

“ค่ะ พอดีในห้องเรามีชื่อซ้ำเยอะเราเลยเรียกชื่อจริงมันค่ะ แล้วตกลงคุณธีไม่ใช่โฮสต์ใช่มั้ยคะ”

“เมื่อก่อนอาจไม่ใช่แต่คืนนี้ผมอาจใช่ก็ได้นะครับ ถ้ารายได้จะดีขนาดนั้น ก็ดีกว่าผมนั่งรอทำงานอยู่เป็นเดือนในเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดของไทยไม่ใช่หรือครับ” ชายหนุ่มพูดขำ ๆ พร้อมกับปรายตามองคนที่ลากเขามา แล้วยิ้มส่ายหน้าน้อย ๆ กับความคิดของแองจี้ที่คิดว่าคนที่ที่ยืนอยู่ใกล้ร้านจะเป็นโฮสต์หมดถึงได้ลากเขามาที่นี่

“แสดงว่าไม่ใช่โฮสต์ที่ร้านชัวร์” ลูกอ้อนว่าขึ้นแล้วมองสบตากับวาซี่

“ครับ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่” ทอยว่าไปตามน้ำ

“อนาคตใช่แน่ ๆ หรืออาจจะใช่” เอลซี่ต่อให้อีกประโยค

“ก็รายได้มันดี มันก็น่าสนใจไม่ใช่หรือครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดแล้วถือแก้วของแองจี้ลุกเดินไปหาเธอ ป้อนเธออย่างเอาใจและเต้นอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานจนผับใกล้ปิดและถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับ

“ที่รัก มึงกลับยังไงเนี่ย” ลูกอ้อนถามเพื่อนสาวที่ดูเหมือนจะเมามากกว่าใคร ๆ ในคืนนี้

“กูเอารถมา แต่ว่าต้องกลับไปส่งนายนี่ที่ร้านก่อน ยังไม่ได้จ่ายเงินที่ร้านเลย” หญิงสาวตอบเพื่อนแล้วหันไปชี้หน้าทอย

“ผมยังไม่ได้สมัครงานที่นั่น คุณไม่ต้องส่งผมกลับร้านหรอกครับ ผมขอติดรถไปลงที่หน้าโรงแรม Sk หน่อยแล้วกัน” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ

“Sk อ๋อ ทางเดียวกันวันนี้ฉันนอนคอนโด เดี๋ยวแวะไปส่งให้” หญิงสาวตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่เพื่อนเธอที่ไม่เมามากอย่างเอลซี่และลูกอ้อนต่างหันมองหน้ากันตา เพราะโรงแรมที่ชายหนุ่มพูดถึงนั้นเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาว ค่าเข้าพักแบบห้องธรรมดาที่ราคาถูกที่สุดเริ่มต้นที่หลักหมื่น ส่วนห้องสูทหรือห้องชุดนั้นคืนละเป็นแสนถึงหลายแสน ซึ่งถ้าชายหนุ่มบอกว่าตกงานอยู่ เขาก็ไม่น่าจะหาที่นอนแพงขนาดนั้น

“เอ่อ...คุณพักที่นั่น?” ลูกอ้อนถามขึ้น

“ครับ ผมเพิ่งเช็คอินเมื่อเช้านี้เอง ก็ไม่รู้จะนอนไหนนี่ ผมรู้จักโรงแรมในไทยไม่กี่ที่หรอก” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ซึ่งจริง ๆ เขาแทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ต้องมาเช็คอินที่นั่นเป็นเพราะมันใกล้ร้านของเพื่อนและเป็นโรงแรมของเพื่อนพ่อ ซึ่งพอเขาบอกท่านว่าจะมาหาเพื่อนแถวนี้ท่านก็บอกให้มาเช็คอินที่นั่นโดยบอกแค่ชื่อเท่านั้น เพราะท่านบอกเพื่อนจัดการให้เรียบร้อยแล้วก่อนที่เขาจะมาถึง

“แต่ที่นั่นมันแพงมากเลยนะคะ” เอลซี่ว่าขึ้น

“คงไม่แพงมั้งครับ ยังไงคืนนี้ก็มีคนจ่ายค่าตัวผมอยู่แล้วนี่” ทอยว่าพรางยิ้มที่มุมปาก

“เออ...จริง งั้นจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าฉันจะบอกว่าเพื่อนฉันพักที่คอนโด m คุณขับรถไปจอดให้มันที่นั่นแล้วคุณค่อยขึ้นแท็กซี่ย้อนกลับมาได้มั้ย” ลูกอ้อนหันไปบอกชายหนุ่มเพราะห่วงเพื่อนที่ท่าทางจะเมามากกว่าคนอื่น

“เฮ้ย! ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวเราไปส่งเอง ไม่ไกลแล้วจะได้จ่ายเงินให้นายนี่ด้วย ไม่ต้องห่วง Sk เรารู้จัก” แองจี้ว่าขึ้นพร้อมกับพยักหน้าเรียกชายหนุ่ม ซึ่งคำว่ารู้จักของเธอคือรู้จักเจ้าของซึ่งเป็นประธานฝ่ายบริหารและเพื่อนรักที่เป็นรองประธานที่นั่น เพราะเป็นเพื่อนรักของพ่อเธอ แต่คนที่ได้ยินกลับเข้าใจว่าเธอรู้จักสถานที่โรงแรมเพราะเป็นโรงแรมดังที่สุดในย่าน “นายมาขับรถแล้วกัน เดี๋ยวถึง Sk แล้วฉันจะขับต่อไปเอง” ว่าพรางยื่นกุญแจรถให้ทอยส่วนตัวเองเดินอ้อมไปทางด้านข้างคนขับก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งรอด้านใน

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ทอยลาเพื่อนหญิงสาวพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะเปิดประตูด้านคนขับเข้าไปนั่งแล้วขับออกไปทันที

“แก ฉันว่าทะแม่ง ๆ ว่ะ เทสสูง การพูด การวางตัว กลิ่นน้ำหอม โรงแรมที่พัก ดูยังไงก็ไม่ใช่โฮสต์ว่ะมึง ดีไม่ดีนะอาจเป็นตำรวจหรือข้าราชการ หรือประธานบริษัทเลยนะ” เอลซี่วิเคราะห์พร้อมกับมองหน้าเพื่อน ๆ เชิงปรึกษา

“โอ๊ย! อ่านนิยายไทยมากไปค่ะมึง เพ้อฝัน เขาก็บอกอยู่ว่าไม่ค่อยรู้จักโรงแรมที่ไทย อาจเปิดกูเกิ้ลเจอแล้วบุ๊คเลยก็ได้ เทสสูงเพราะเขาอัพค่าตัวเขาจ่ะหญิง จะมาแบด ๆ โล ๆ ใครจะไปกล้านั่งคุยคะ แต่ไม่ต้องห่วงฉันแอบขอคอนเนคไว้แล้วจ้า งานแต่งกู อิรักจันทร์มันไม่ชวน แต่กูชวนค่ะ” ต้นข้าวว่าขึ้นพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อน ซึ่งอาการเมามายของเธอในทีแรกหายไปเป็นปลิดทิ้งทันทีที่รถของจีจี้ขับออกไปจากตรงนั้น

“นี่มึงไม่ได้เมา!” เอลซี่ชี้หน้าเพื่อน

“โอ๊ย! เหล้า 3 แก้ว กูจะเมาได้ไง กูแค่เมาเป็นเพื่อนแองจี้มันค่ะ กูกลัวมันเมาคนเดียวมันจะอาย” ต้นข้าวว่าพรางหัวเราะชอบใจ

“นี่มึงคิดจะแกล้งมันอีกใช่ป่าว” ลูกอ้อนหันไปชี้หน้าเพื่อน

“เปล่าเลย...ก็กูสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าใช่โฮสต์อย่างอีเอลมันว่านั่นแหละ หรือพวกมึงไม่อยากรู้แล้วถ้าไม่ใช่โฮสต์เราก็สามารถจับคู่ให้รักจันทร์มันได้นะเว้ย หล่อทรงดีขนาดนี้ เหมาะกับเพื่อนเรากูให้ 3 ผ่านค่ะ” ต้นข้าวตอบเพื่อนพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

“มึงคิดจะจับคู่ให้มันจริงดิ” ลูกอ้อนถามขึ้นพร้อมกับมีความคิดในหัว

“แน่นอนสิคะ ถ้าผู้เขายอมไปน่ะนะ กูบอกเลยอาฟเตอร์ปาร์ตี้มีมอมอ่ะค่ะ” ต้นข้าวว่าพรางยักคิ้วยิ้มร้ายให้เพื่อน

“แหม เพื่อนชั้น...อัจฉริยะแย่งหมาเกิด คิดจะมอมเพื่อนให้มีผัว เอลซี่สนับสนุนความคิดสารเลวของเพื่อนค่ะ” ว่าพรางยกมือขึ้นแบะมือกับเพื่อน

“นับเป็นคำชมที่สมเหตุสมผลค่ะ อีชะนี กูทำเพราะห่วงเพื่อนนะคะ เรามีครอบครัวกันหมดแต่เพื่อนเราจะเหงาไม่ได้ค่ะสู วันนี้เราแยกย้าย ขอบคุณมาก ๆ นะ แล้วเจอกันวันแต่งเลย ใครไม่มานะ กูจะแช่งให้ตันค่ะ” ต้นข้าวว่าพรางสวมกอดเพื่อนรักทั้ง 2 เบา ๆ

“จ้า...ต้องมาอยู่แล้วค่ะ กลับไปจะแต่งหน้ารอตั้งแต่วันนี้เลย วันงานกูจะควงเจ้าบ่าวรับแขกค่ะ” ลูกอ้อนว่ากับเพื่อนสาวยิ้ม ๆ

“แล้วพวกอย่าลืม แกล้งบอกรักจันทร์มันด้วยนะ ไม่ใช่เนียนลืมล่ะ ฉันโกรธยันลูกบวชนะบอกเลย เน้นนะ บอกให้มันพาคุณธีมาด้วยให้ได้ เน้นนะว่าคุณธี” ว่าที่เจ้าสาวสั่งเพื่อนขำ ๆ

“จ้า แม่คนเจ้าแผนการ ไปค่ะแยกย้ายพาผู้ชายกลับบ้านนอนค่ะ” เอลซี่ว่าให้เพื่อนแล้วโบกมือเดินกลับไปที่รถของตัวเองที่แฟนเธอติดเครื่องรออยู่

..........//.........

ความรักเพื่อน อ่ะเนอะ ตัวเองมีครอบครัวกลัวเพื่อนเหงา เพื่อนรักมันร้าย....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel