บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ไม่ใช่พี่ชาย

“โอ๊ย! อิคุณที่รัก แล้วมึงไปลากเขามายังไง ก่อนมาเราต้องเข้าไปจ่ายเขาที่ร้านก่อน เขาคิดค่าเสียเวลาเป็นดื่มคูณจำนวนเงินแกต้องจ่ายแล้วค่อยพาเขาออกมาได้โว้ยมึง” เอลซี่โวยเพื่อนสาวแล้วทำท่าถอนหายใจอย่างเอือมระอา

“อ้าว? แล้วกูจะรู้เหรอ ก็พูดตามมึงบอกไงอีเอล พอโอเคก็ลากมาเลยเนี่ย ก็คิดว่าเสร็จงานแล้วเอาไปคืนค่อยจ่ายเป็นชั่วโมงไง แล้วกูก็ดูเวลามาแล้วว่าตอนมาเนี่ย ทุ่มครึ่ง ไม่เกิน 5 ทุ่มกูก็กลับ ก็ 4 ชั่วโมง” หญิงสาวหันไปเถียงเพื่อนกับความคิดของตัวเอง ส่วนทีมที่มองทอยอยู่ถามขึ้นงง ๆ

“พี่บอกว่าเพิ่งมาวันแรก พี่ยังไม่เข้าร้านหรือยังไม่มีคนบอกงานครับ”

“ก็ยังไม่ทำอะไรเลย เพิ่งลงรถน่ะ” ทอยตอบยิ้ม ๆ

“เฮ้อ...กูล่ะเบื่อเพื่อนกูจริงจัง เขาเป็นโฮสต์ค่ะมึง ไม่ใช่พนักงานร้านสะดวกซื้อ มึงจะได้จ่ายเป็นรายชั่วโมงได้” เอลซี่ว่าพรางปรายตามองทอย แล้วแอบสบตาต้นข้าวกับลูกอ้อนเพื่อจะแกล้งเพื่อนสาว ต้นข้าวรีบสะกิดทีมแล้วกระซิบบางอย่างข้างหูก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วยักคิ้วให้เพื่อนตอนที่แองจี้กับทอยกำลังเผลอ

“แล้วนี่ต้องทำไงต่อ พากลับไปคืนร้าน แล้วกูก็กลับบ้านไปนอนมั้ยล่ะ พรุ่งนี้กูมีประชุมเช้า” หญิงสาวถามขึ้นเหมือนประชด แต่ก็เรื่องจริงว่าพรุ่งนี้เธอมีงานเช้า ซึ่งเธอก็กำลังเครียดอยู่กับการเสนองานคอลเล็กชันใหม่ที่จะเปิดในไตรมาสหน้า เพราะงานนี้แม่ของเธอให้เธอแสดงฝีมืออย่างเต็มที่

“มาก็สายแล้วยังคิดจะกลับก่อนเพื่อนอีกนะ มึงต้องจ่ายเขาก่อนค่ะ นอกร้านแบบนี้ต้องจ่ายค่าเดินทางให้เขาด้วย” ลูกอ้อนว่าพรางปรายมองหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อนยิ้ม ๆ

“โอ๊ย! ไปส่งก็จ่ายเองนั่นแหละน่า คนมาเขายังไม่อะไรเลย แล้วเดินทางเนี่ยก็ไม่ได้ไกล แค่เดินมาไม่ได้ขึ้นรถค่ะ” หญิงสาวว่าอย่างไม่ยี่หระเพราะคิดว่าคงไม่ต้องจ่ายมากนัก

“ค่ะก็เดินมาค่ะ แต่ออกนอกร้านมึงต้องจ่ายเขาด้วย...”

เอลซี่ว่าขึ้นพร้อมกับลากเสียงยาวประชดเพื่อน

“เออ...จ่ายก็จ่ายไง แล้วมันจะเท่าไหร่ว่ามาทีมเป็นแคชเชียร์นี่เราน่ะ” ลากเสียงยาวประชดเพื่อนแล้วหันไปถามน้องรหัสของต้นข้าวที่บอกว่าเป็นแคชเชียร์ของร้านที่ตัวเองไปลากชายหนุ่มเพื่อตัดบท

“ทีม...ปกติที่ร้านคิดยังไงคะหนู” ต้นข้าวหันไปถามน้องรหัสพร้อมกับแอบขยิบตาให้เบา ๆ (ที่เธอเรียกทีมว่าหนู และแฟนเธอปล่อยให้ทีมมาด้วยเพราะรู้ว่านิสัยลึก ๆ ของทีมเป็นยังไง^_^)

“ก็ถ้าเป็นกลาง ๆ ออกมาก็เริ่มที่พันดื่มครับ บวกค่าเดินทางด้วยก็สี่แสนนิด ๆ ครับ” ทีมพูดตามคำสั่งแกล้งเพื่อนของพี่รหัส แต่คนได้ยินนั้น...

“พรู้ด!!” 2 หนุ่มสาวที่นั่งคู่กันถึงกับพ่นเหล้าที่กำลังดื่มออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“จะบ้าเหรอ! แค่พามานั่งกินเหล้าต้องจ่ายเป็นแสน! นี่ยังคิดว่าชั่วโมงละพันก็แพงอยู่นะ” แองจี้ว่าขึ้นเสียงดัง *เชี้ย! อาชีพบ้าอะไรวะเนี่ยนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนจ่ายแพงแบบนี้...*

“เอ่อ...คือผมยังพูดไม่จบครับ พี่เค้ามาใหม่ หุ่น หน้าตาแบบนี้ผมว่าทางร้านต้องจัดขึ้นท็อปแน่ ๆ พี่ต้องจ่ายบวกไปอีกห้าหมื่นครับ” ทีมยังว่าต่อมาอีกประโยค

“จะบ้าไปแล้วใครมันจะกินได้เป็นพันดื่มขนาดนั้นวะคะ น้อง!” แองจี้ว่าสวนขึ้น

“จริง ๆ เขาไม่ต้องกินกันหมดหรอกครับ บางวันแทบไม่ได้กินด้วยซ้ำ แค่นั่งคุยเฉย ๆ พี่ก็ต้องจ่ายเป็นดื่มครับ” ทีมว่ายิ้ม ๆ ซึ่งทอยก็นั่งฟังเงียบ ๆ

“งั้นก็ขาดทุนยับล่ะสิ เดี๋ยวพาไปส่งร้านเลย นั่งเฉย ๆ พูดไม่ถึง 5 ประโยคจะให้มาจ่ายยังไงสี่ห้าแสน” แองจี้ว่าพรางปรายตามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ *มอง ๆ ไปก็ภูมิฐานหรอกน่าจะอายุเยอะกว่าเราด้วย ไม่น่าจะเป็นโฮสต์ด้วย แต่อย่างว่าล่ะนะ คืนนึงได้สี่ห้าแสนขนาดนั้น อาทิตย์นึงทำวันสองวันก็อยู่ได้เป็นเดือนแล้วมั้ยวะ เฮ้อ...ชีวิต กูต้องนั่งทำงานกี่เดือนถึงจะมีโอกาสนั่งคุยกับคนพวกนี้ได้วะ ถึงว่าล่ะผู้หญิงทุกวันนี้ถึงโสดกันเยอะ ก็หล่อ ๆ ค่าตัวแพงแบบนี้นี่ไง* หญิงสาวคิดในใจ

“มองขนาดนี้ด่าผมในใจอยู่หรือเปล่าครับ” ทอยปรายตามองคนข้าง ๆ แล้วว่าขึ้นเหมือนเดาใจออก

“ป๊าว!! แค่กำลังคิดว่ากลางคืนนายมาทำอะไรแบบนี้ กลางวันนายทำอะไร”

“ถ้าจะให้ดื่มเป็นพันดื่มขนาดนั้นก็คงต้องนอนแล้วล่ะ แล้วน่าจะนอนยาวไป 2-3 วันเลยกว่าจะส่าง” ชายหนุ่มตอบขำ ๆ

“แล้วก่อนหน้านี้นายทำอะไร” หญิงสาวหันมาชวนคุย

“ก่อนหน้าก็เรียน...ตอนนี้ก็ถือว่าตกงานอยู่” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มจนหมด แล้วยกข้อมือดูเวลาจากนาฬิกาเรือนหรูมูลค่าหลายล้านที่ในไทยมีกันไม่ถึง 10 เรือน เอลซี่มองตามอึ้ง ๆ แล้วมองหน้าเพื่อนสาวเป็นคำถาม

*เชี้ย! อกนางฟ้าจะสลาย นาฬิกาลิมิเต็ดฝังเพชรสายทองคำขาว ถ้าของจริงนี่เกือบห้าสิบล้าน ถึงจะของก็อปเกรดเอก็หลายล้านอยู่ดี เทสสูงมากพ่อ ไม่น่าจะใช่โฮสต์ล่ะกูว่า* “ธีมีธุระหรือจ๊ะ” คิดในใจแล้วถามไปยิ้ม ๆ

“อะ อ๋อ...ก็นิดหน่อยครับ นัดเพื่อนว่าจะโทรหา เดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะปรายตามองคนนั่งข้าง ๆ ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอย่างออกรสแล้วยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องไป....

..........//..........

ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวพ้นประตู เอลซี่รีบขยับมานั่งประกบเพื่อนสาวคนสวยแทนที่ทอยทันที พร้อมกับยิงคำถามคาดคั้นสาวสวยเหมือนจับผิด

“อิรักจันทร์! บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าหนุ่มหล่อคนนี้ไปได้แต่ใดมา” เอลซี่มองหน้าถามเพื่อนพร้อมกับจับแขนเอาไว้แน่น

“โอ๊ย! ก็หน้าร้านนั่นไงคะ ทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลย พอเขาพยักหน้าก็ลากมาเลย จะถามย้ำทำไม ไอ้บ้าให้กูทำอะไรก็ไม่รู้น่าอายฉิบหาย” หญิงสาวตอบเพื่อนแล้วถอนหายใจแรง ๆ

“มันใช่หรือวะ ทีมบอกว่าคนนี้ไม่เคยเจอที่ร้านเลยนะ แล้วดูแต่งตัวสิ มือถือรุ่นล่าสุด เสื้อถ้าดูไม่ผิดแบรนด์นอกหลายหมื่นเลยนะคะ แล้วนาฬิกาพ่ออีก แค่ของก็อปก็หลายล้านแล้วนะนั่น อย่ามาอำพวกเรานะอิรักจันทร์ บอกมาว่าคนนี้ใคร ใช่ลูกชายเพื่อนรักพ่อมึงที่บอกว่าเป็นคุณหมอเพื่อนพี่เจเดนใช่มั้ย” ต้นข้าวคาดคั้นเพื่อนสีหน้าจริงจังเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่เพื่อนบอกเต็มที่

“ไม่ใช่...บอกว่าพามาจากหน้าร้านนั้นจริง ๆ มึงดูค่ะนั่นชุดนักศึกษาเลยนะ คนที่ร้านนั้นจริง ๆ” หญิงสาวยืนยันกับเพื่อนสีหน้าจริงจัง

“แต่เมื่อกี๊เขาดูงง ๆ นะครับพี่ บอกว่าเพิ่งมา ก่อนหน้าก็เรียน คนจบใหม่หางานจะหรูขนาดนั้นเลยหรือครับ ขนาดพวกตัวท็อป ๆ ของร้านยังมีได้ไม่ถึงครึ่งพี่เขานะ” ทีมที่นั่งอยู่ข้างต้นข้าวว่าขึ้น

“พวกแกจะไปคาดคั้นมันให้ได้อะไรขึ้นมากันวะ เอาเป็นว่างานแต่งไอ้ข้าว มึงต้องพานางไปด้วย หล่ออะ เหมาะแก่การควงออกงานเป็นอย่างยิ่ง” ลูกอ้อนตัดบทและดูเหมือนเพื่อนสาวกำลังงงอยู่เลยออกคำสั่งเชิงบังคับพร้อมกับยักคิ้วให้ยิ้ม ๆ

“มึงจะบ้าเหรอ! แค่มานั่งนี่ก็หลายแสนแล้วมั้ย ถ้าจะให้ไปงานแต่งไอ้ข้าวที่ใต้ กูไม่ต้องจ่ายเป็นล้านเลยหรือไง ทั้งค่าเครื่องค่าที่พัก ค่าเสื้อผ้า ค่ากินอีกล่ะ โอ...ไม่เอาค่ะ เปลืองโดยใช่เหตุ กูลากไอ้น้องวนไปดีกว่ามันไปฝึกงานอยู่ใกล้ ๆ เอง” หญิงสาวว่าเหมือนเรื่องที่เพื่อนพูดจะไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด เพราะเธอคิดว่าการไปงานแต่งเพื่อนแล้วต้องจ้างโฮสต์ไปด้วยเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก

“งกว่ะ ตกลงว่าคนนี้ไม่ใช่ลูกเพื่อนพ่อมึงจริง” ลูกอ้อนถามย้ำอีกครั้ง

“เออ...ไม่ใช่สิวะ พี่เค้ายังไม่กลับมาหรอก เห็นคุณพ่อบอกว่าเขาขอต่อเฉพาะทางอีกใบ กลับมาก็รับปริญญาโท 2 ใบ 2 สาขา แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอก เรียนหมอน่าจะยาวเลยมั้ง ขนาดแค่ ป.ตรี ยังต้องเรียนตั้ง 6 ปีเลย” หญิงสาวตอบพรางยักไหล่แล้วพากันเปลี่ยนเรื่องคุยถึงงานแต่งเพื่อนที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งชุดแต่งงานของเพื่อนที่เธอเป็นคนออกแบบให้เองโดยเฉพาะ แต่ผู้ถือหุ้นขอให้รวมเป็นคอลเลคชั่นพิเศษออกมาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

..........//..........

เออ...เนอะจะใช่พี่ชายได้ยังไง พี่เขายังไม่กลับมาหรอก เนอะรักจันทร์เนอะ...

ฝากเอ็นดูความน่ารักของ พี่หมอทอย ลูกป๊าเทน กับ น้องแองจี้ ลูกสาวพ่อโรม ด้วยนะคะ..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel