บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ถูกคิดว่าเป็นโฮสต์

“เออ...กูรออยู่ฝั่งตรงข้ามนี่นะ แม่ง...ทำไมถนนแถวนี้มันไม่มีสะพานลอยหรือทางม้าลายกันเลยวะ รถก็วิ่งเหมือนไม่มีเบรกแถมมาเลยงั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบเพื่อนแล้วบ่นอุบ เพราะเขาไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปี และเพิ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้แล้วเข้าไปรายตัวที่โรงพยาบาลเลยยังไม่ได้กลับบ้านที่อยู่อีกฝั่งของกรุงเทพ ทำให้วันนี้ต้องอาศัยแท็กซี่มาตามที่เพื่อนนัด และแท็กซี่ก็จอดให้ลงฝั่งตรงข้าม โดยให้เหตุผลว่ากลับรถไกลให้เขาข้ามเองง่ายกว่า

‘บ่นฉิบหาย รออยู่ตรงนั้นแหละอีก 15 นาทีกูก็ถึง เดี๋ยวแวะรับ’ เจเดนตอบเพื่อนพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ กับความคุณชายระเบียบของเพื่อน

“เออ...ให้เร็ว!” ว่าจบกดตัดสายแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่นักเป็นคำถาม

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าพรางแอบสำรวจอย่างพิจารณา เธอเอวบางร่างเพรียวสูงเกือบ 170 ได้ รองเท้าที่เธอใส่เป็นผ้าใบพื้นเตี้ยแบรนด์ดังที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน หน้ารูปไข่ ริมฝีปากบาง ๆ ทาด้วยลิปติกสีแดงไวน์ ขนตางอนยาวรับกับตาโต ๆ จมูกรั้น ๆ ดูแล้วน่ารักลงตัว อายุไม่น่าจะเกินเด็กมหาลัย

“มีค่ะ น้องไปทำธุระกับพี่หน่อยได้มั้ยคะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ เหมือนไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าไหร่นัก

*แก่แดดเหลือเกินอิหนู เรียกกูว่าน้องด้วย เด็ก ๆ แบบนี้รถเสียล่ะมั้ง ไปดูให้ซะหน่อยก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ “ได้สิครับ ว่าแต่จะไปไหนเหรอ” ชายหนุ่มถามยิ้ม ๆ แล้วหันมาเผชิญหน้าตรง ๆ

*เยส! ก็ไม่ได้ยากนี่หว่า* หญิงสาวคิดในใจ “โอเค...งั้นไปกันตรงข้ามนี่แหละ” ว่าพรางคว้าแขนชายหนุ่มเดินข้ามถนนเร็ว ๆ แล้วเข้าร้านไปทันที...

……….//……….

BOVA Pubz

สาวสวยเดินลากแขนหนุ่มหล่อชุดนักศึกษาเข้ามาในห้อง VIP ชั้น 2 ของร้านที่ตอนนี้เพื่อน ๆ ของเธอกำลังนั่งรอลุ้นกับการมาของเธอเหมือนบุคคลสำคัญของค่ำคืนนี้ก็ว่าได้ (แต่ก็สำคัญนั่นแหละเพราะนางไม่ออกมาพบเพื่อนเลยตั้งแต่กลับไทย และมาสายที่สุดในกลุ่ม)

“ก๊อก! ก๊อก! มาแล้วจ้า...” แองจี้ทำท่าเคาะประตูกระจกแล้วพูดขึ้นดัง ๆ ก่อนจะปล่อยแขนคนที่จูงมาแล้วยิ้มร่าอ้าแขนเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ

“กรี๊ด!! ชีมาจริง ไรจริง ที่รักคนสวยของเพื่อน” เอลซี่กรี๊ดลั่นลุกขึ้นอ้าแขนกอดเพื่อนสาวแล้วทำท่าส่งจูบที่ซอกคอทั้ง 2 ข้าง ที่เธอเรียกว่าที่รักเพราะแองจี้ชื่อจริงว่ารักจันทร์และเพื่อนในห้องเรียนตอนมัธยมมีชื่อเล่นว่า แองจี้ อีกคน ทำให้เพื่อน ๆ ชอบเรียกเธอว่าที่รัก มากกว่า แองจี้ “so miss คนสวย อ๊ะ! อ๊ะ! กรี๊ด ผู้ชาย...ชีพามาได้จริงด้วยว่ะพวกแก” ทักทายเพื่อนตาเหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อที่เพื่อนลากมา ถึงกับกรี๊ดลั่นแล้วปล่อยกอดเพื่อนเดินเข้าหาจับแขนชายหนุ่มทันที

“หนู... ไปได้มาจากลูก หล่อ สมาร์ท เท่ห์ ทรงนักศึกษา แต่หน้าตาแดดดี๊ สูง ยาว ใหญ่ สเปกแม่มาก ถ้าคืนนี้หนูไม่ไปต่อ แม่ขอนะคะลูก” ว่าพรางปรายตาหวานเยิ้มจนทอยขนลุก แต่ก็แอบยิ้มขำกับจริตของเธอ *นี่หรือวะธุระ กูนึกว่ารถเสียที่ไหนได้ให้พามาเข้าผับ เอ้อ...* ทอยคิดในใจขำ ๆ

“ก็ไปลากมาจากที่แม่บอกนั่นแหละค่ะ แต่น้อย ๆ หน่อยนังเอล จะต่อกับใครก็เกรงใจคนที่นั่งอ้อนเมื่อ 3 นาทีก่อนด้วย” หญิงสาวว่าพรางนั่งลงที่โซฟายาวแขวะเพื่อน พร้อมกับรับแก้วบรั่นดีจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเอลซี่ทีแรกยื่นมาให้“ขอบคุณค่ะ”

“มีหวงนะยะ ว่าแต่ชื่ออะไรคะคุณ” ลูกอ้อนว่าพรางปรายตามองชายหนุ่มยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนสาว

“เออ...ลืมถามว่ะ! ชื่ออะไรคะ” แองจี้ตอบพร้อมกับหันไปถามคนที่เธอลากมา ส่วนวาซี่ลากแขนชายหนุ่มมานั่งลงข้าง ๆ เพื่อน แล้วกลับไปนั่งที่เดิมของตัวเอง

“ชื่อทะ...ธีครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ที่เขาบอกชื่อนี้เพราะคิดว่าอาชีพที่ตัวเองทำไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้และคนพวกนี้สำหรับเขาคือคนแปลกหน้าซึ่งไม่จำเป็นต้องเจอกันอีก แล้วล้วงมือถือออกมาดูสายเรียกเข้าก่อนจะขอตัวลุกขึ้นยืนหันหลังรับสายเพื่อนเสียงเบา

‘อยู่ไหนเนี่ยทอย กูอยู่หน้าร้านบาร์โฮสต์เนี่ย’ เจเดนถามอย่างหัวเสีย

“กูข้ามถนนมาแล้ว มึงเข้ามาเลย” ทอยตอบเพื่อนเสียงเบา

‘เออ... BOVA vip ห้อง 2 นะ’ เจเดนย้ำร้านกับห้องให้เพื่อน

“เออ...ครับ รู้ครับ มึงไม่ได้ยินเสียงเพลงหรือไง เดี๋ยวกูไปแค่นี้นะ” ว่าจบกดตัดสายเพื่อนแล้วหันไปยิ้มให้แองจี้ที่นั่งมองอยู่ก่อนหน้า

“เพื่อนโทรมาครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วนั่งลงข้าง ๆ เธอหันมายิ้มละมุนให้รอบกลุ่ม

“มาจากร้านตรงข้าม รู้จักน้องทีมมั้ยคะ น้องก็ทำงานที่นั่นเหมือนกัน” ต้นข้าวถามขึ้นยิ้ม ๆ

“แหม...คุณต้นข้าวคะ จะแต่งอยู่อีก 3 วัน 5 วัน แต่ชายตามาหวานกว่าน้ำตาลอีกนะคะ เบาได้เบา ไม่เกรงใจผัวก็เกรงใจผู้ชายคืนนี้บ้าง” ลูกอ้อนว่ากับเพื่อนแล้วปรายตามองทอยยิ้ม ๆ

“ให้น้อย ๆ ค่ะนาง คนนี้น้องรหัส ป.ตรี กูค่ะ น้องเป็นแคชเชียร์ที่นั่น วันนี้แค่มารับจ๊อบจากว่าที่สามีกู” ต้นข้าวหันไปบอกกับเพื่อน ถึงผู้ชายที่เธอพามาด้วยในคืนนี้

“แต่ผมไม่เคยเห็นหน้าพี่เค้านะครับพี่ข้าว เพิ่งมาใหม่หรือพาร์ทไทม์ครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย” ทีมหันไปตอบต้นข้าวแล้วหันมาถามชายหนุ่มยิ้ม ๆ

“เอ่อ...เพิ่งมาครับ เพิ่งมาวันนี้เลย” ทอยตอบยิ้ม ๆ *ร้านตรงข้าม? อย่าบอกว่าคิดว่ากูเป็นโฮสต์น่ะ ไอ้บ้าเอ๊ย! ทรงกูได้ขนาดนั้นเลยหรือวะ...* ทอยคิดในใจ เมื่อเพิ่งถึงบางอ้อว่าทำไมสาว ๆ กลุ่มนี้ถึงมองตัวเองแปลก ๆ

“อุ่ย! ตาถึงนะชี มาทำงานวันแรกก็ได้ดีลกับชีเลย คืนนี้อย่าเผลอนะจ๊ะ อีเอลจ้องอยู่ค่ะบอกเลย” ต้นข้าวแซวเพื่อนสาวพร้อมกับรับแก้วจากพนักงานมาวางให้ทอยตรงหน้า “งานวันนี้เราจัดกันแค่สนุก ๆ นะคะธี เราแค่แกล้งอิรักให้มันหาคู่ควงมาแค่นั้นแหละ ทำงานวันแรกอย่าเกร็งนะสนุกได้เต็มที่ สบาย ๆ ถือซะว่ามากินเหล้ากับเพื่อนใหม่นะคะ อีกไม่กี่วันเราก็จะแต่งงาน ยายอ้อนก็จะไปอยู่ต่างประเทศกับแฟน เราเลยอยากปาร์ตี้กันแค่นั้นเอง” ต้นข้าวหันมาคุยกับทอยยิ้ม ๆ

“อ๋อ...ครับ ยินดีด้วยนะครับ” ชายหนุ่มว่าพรางยกแก้วขึ้นชนกับต้นข้าวแล้วจิบเล็กน้อยเป็นการแสดงความยินดีกับเธอตามมารยาท

“นี่พวกมึงแกล้งกูจริงดิ โห...อะไรวะ อายแทบตายเลยรู้หรือเปล่าไอ้พวกเพื่อนบ้า” แองจี้ที่ได้ยินแบบนั้นโวยวายขึ้นพร้อมกับฟาดที่แขนเพื่อนไม่แรงนักแล้วทำหน้าบึ้งงอนเพื่อนอย่างน่าเอ็นดู

“ก็แค่สนุก ๆ น่า ธีคะชนแก้วค่ะ” ลูกอ้อนว่าขึ้นแล้วหันไปชวนชายหนุ่มชนแก้ว ทอยยกแก้วขึ้นชนกับหญิงสาวแล้วยกขึ้นจ่อปากแต่ต้องสะดุ้ง เมื่อเอลซี่ลุกมานั่งที่พนักเท้าแขนข้างเขาแล้วคล้องแขนยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับยกก้นแก้วของทอยขึ้นให้ดื่มจนหมด

“น้อย ๆ หน่อย ชะนี เห็นมั้ย คนพามายังนั่งซื่อบื้ออยู่เลย แกจะเปิดไวทำไมคะ” ลูกอ้อนว่าพรางยกแก้วให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ซึ่งก็คือแฟนตัวจริงของเธอนั่นเอง (ลูกอ้อนกับเอลซี่ มากับแฟนจริง ๆ ต้นข้าวมากับน้องรหัส แต่หลอกให้แองจี้ไปลากโฮสต์จากร้านตรงข้ามมา^_^)

“ก็เพราะมันนั่งซื่อบื้อนี่แหละค่ะ กูถึงได้เปิด (หันไปจีบปากจีบคอกับเพื่อน) แล้วนี่ธีจ๋า รักมันให้มากี่ดื่มคะ ถึงได้ยอมมากับมัน นังนี่มันรวยมากนะคะ ถ้ามันให้ต่ำกว่าพันดื่มเดินกลับร้านไปเลยจ้าผู้ชาย หน้าหล่อ ๆ กล้ามล่ำ ๆ สเปกสาธารณะแบบนี้ไปนั่งนิ่ง ๆ ยังจะได้เยอะกว่าพันดื่มอีกนะคะ” เอลซี่หันมาพูดกับทอยยิ้ม ๆ ซึ่งคำพูดของเธอทำเอาทอยกับแองจี้มองหน้ากันงง ๆ

“เอ่อ...” *เชี้ย! ต้องแดกเป็นพันดื่มเลยหรือวะ คนบ้าอะไรจะนั่งกินแลกเงินได้ขนาดนั้น* ทอยอุทานในใจ

“จะบ้าเหรอใครเขาจะจ่ายกันเป็นดื่มวะ เขาก็จ่ายเป็นชั่วโมงไม่ใช่หรือไง” แองจี้หันไปถามเพื่อนหน้าซื่อ ในชีวิตเธอไม่เคยที่จะต้องจ่ายอะไรหรือรู้เรื่องอะไรแบบนี้ เธอเข้าใจว่าการเข้าบาร์โฮสต์คือเข้าไปนั่งให้ผู้ชายบริการชงเหล้าให้ นั่งเป็นเพื่อนคุยเวลาเซ็ง ๆ แล้วจ่ายเป็นชั่วโมงเท่านั้น การออกจากร้านก็อาจต้องจ่ายพิเศษบ้างนิดหน่อย

“โอ๊ย! อิคุณที่รักคะ แล้วมึงไปลากเขามายังไง

โบ๊ะบ๊ะกันทั้งคู่เลยทีนี้ คุณหมอจะได้เป็นคุณหมอมั้ยนี่ ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel