ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
(วายุ)
ตอนนี้ไอ้เพื่อนที่มาด้วยกันมันดันทิ้งผมไว้คนเดียว แล้วจะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีนะ จะพาเธอไปโรงพยาบาลก็กลัวว่าพอเธอรู้สึกตัวแล้ว เธออาจจะอายก็ได้ จะพาเธอกลับบ้าน ถามตอนนี้ก็คงไม่ได้ความ จะพาไปที่บ้านของผม คนในบ้านก็คงแตกตื่นกันแน่เลย เอาวะในที่สุดผมก็ตัดสินใจพาเธอไปคอนโดของผมก็แล้วกัน ผมคิดว่าคอนโดน่าจะเหมาะสุดแล้ว
ถึงผมจะอยู่ที่เชียงใหม่เป็นส่วนมาก แต่ที่คอนโดแห่งนี้ผมก็มีแม่บ้านมาค่อยทำความสะอาดให้อาทิตย์ละครั้ง โดยแม่บ้านจะไปเอาคีย์การ์ดจากทางคอนโดที่ผมฝากเอาไว้ มาทำความสะอาดให้ สภาพห้องเลยพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ห้องของผมจะเข้าและออกได้สองระบบ คือคีย์การ์ดกับสแกนลายนิ้วมือ
"อย่าถอดนะคุณ!" ตอนนี้หญิงสาวที่ผมพาเธอขึ้นรถมาด้วย กำลังปัดป่ายเนื้อตัวจนเกิดรอยแดงเสื้อผ้าหลุดลุ่ย สายตาเยิ้มฉ่ำคล้ายกับว่าเธอกำลังจะสะกดอารมณ์ของตัวเองอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้ซะแล้ว
"ช่วยพราวด้วย พราวร้อนเหลือเกิน" เธอกำลังร้องขอให้ใครก็ได้ช่วยเธอที เธอยังพอมีสติอยู่บ้าง เธอดื่มไปแค่หน่อยเดียว ยังรู้สึกขนาดนี้ ถ้าเธอดื่มหมดแก้วเธอต้องตายแน่ๆ
"ผมรู้ๆ คุณใจเย็นๆ ก่อนนะ" วายุยังคงทำหน้าที่ขับรถ พยายามเหยียบคันเร่งจนมิด เพื่อให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้ดูเหมือนคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆเขา เธอกำลังจะไม่ไหวแล้ว
"พราวไม่ไหวแล้วค่ะ...ช่วยพราวด้วย" น้ำเสียงอู้อี้แผ่วเบา ตอนนี้เธอเริ่มหันมาลูบเนื้อตัววายุแล้ว ร่างกายของเธอมันร้อนวูบวาบ แล้วก็...เธอก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แต่เธออยากสัมผัสตัวผู้ชายคนนี้มากๆ
"คุณ...คุณ ตั้งสติก่อน" เมื่อหญิงสาวลูบไล้เขาหนักขึ้น วายุก็เริ่มทนไม่ไหว เขาจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ จับเธอมัดมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้านหลังด้วยเข็มขัดที่เอวของเขา แล้วล็อคประตูลงไปซื้อน้ำแข็ง ถึงเขาจะเป็นหมอ แต่เขาก็ยังไม่เคยช่วยใครในเรื่องนี้มาก่อน และจากสัญชาตญาณความเป็นหมอเขาคิดว่าน้ำแข็งน่าจะช่วยเธอได้
"ตั้งสติไว้นะคุณ เดี๋ยวผมมา" แล้วเขาก็กลับมาพร้อมกับน้ำแข็ง และอะไรสักอย่างอีกหนึ่งถุง
"ไม่ไหวแล้วค่ะ อ้า..." เธอส่งเสียงเซ็กซี่ออกมา เสื้อด้านหน้าที่เป็นกระดุมมันหลุดออก เหลือเพียงเม็ดเดียวคือเม็ดล่างสุด เผยให้เห็นหน้าอกที่ล้นออกมาจากชั้นในสีขาวสะอาด จนวายุต้องแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก
"อย่าดิ้น ตั้งสติหน่อยสิคุณ" เขาดุเธอ ดูจากสภาพของเธอแล้ว เขาเองก็ต้องตั้งสติเหมือนกัน เขาเป็นผู้ชายนะ แล้วยัยนี่ตัวเล็กนิดเดียวแต่ทำไมอะไรๆของเธอ...มันใหญ่จังวะ!
วายุขึ้นรถแล้วแก้มัดให้เธอเพราะรู้สึกสงสาร เขาขับรถออกไปอีกครั้งด้วยความไว จนถึงที่หมายเขาเลี้ยวรถเข้าคอนโด คอนโดของเขาใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีปัญหากับการเข้าออกที่นี่สำหรับเขาตอนนี้
วายุรีบจับเธอใส่เสื้อให้พอปกปิด เผื่อใครมาเห็นเข้าจะได้ไม่คิดว่าเขาไปลากเด็กที่ไหนมาข่มขืน แล้วเอาเสื้อคุมของเขาที่อยู่ด้านหลังรถ มาคุมให้เธอไว้อีกชั้น เขาหยิบถุงน้ำแข็งที่ซื้อมาเมื่อสักครู่ เอามาถือไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว เขาพาเธอเดินขึ้นลิฟต์ เวลานี้มันก็ดึกมากแล้ว จึงไม่มีใครเห็นเขาอุ้มผู้หญิงขึ้นมาบนห้อง วายุเปิดประตูห้องด้วยวิธีสแกนลายนิ้วมือ แล้วพาเธอเข้าห้องไป โดยที่ไม่ลืมหันมาปิดประตู
"ทรมานเหลือเกินค่ะ" ไหนจะอาการร้อนวูบๆ วาบๆ แล้วความต้องการอะไรสักอย่างของร่างกายก็เพิ่มมากขึ้น เธอไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่เธอกำลังรู้สึกอยู่นั้นมันคืออะไร
วายุจับพริ้งพราววางลงแล้วเอาเสื้อคลุมออกจากตัวของเธอ ที่เมื่อสักครู่นี้เขาเอามาห่มตัวเธอไว้ก่อนที่จะพาเธอขึ้นมาบนห้องนี้ เขารีบพาเธอเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำที่ฝักบัวราดตั้งแต่ศีรษะของเธอจนเนื้อตัวของเธอเปียกชุ่มไปหมด
"อยู่ตรงนี้นะเชื่อผม เดี๋ยวคุณจะดีขึ้นเอง" วายุให้พริ้งพราวอยู่ใต้ฝักบัวที่มีน้ำเย็นๆ ไหลลงมา ตอนนี้เสื้อผ้าของเธอเปียกหมด เสื้อสีขาวเมื่อถูกน้ำ ทำให้มันแนบไปกับเนื้อตัวและผิวขาวสวยของเธอ เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แล้วไหนจะขาของเธอที่ทั้งขาวทั้งเนียนนั่นอีก จนวายุต้องแอบเบนสายตาหนี เขาวิ่งออกไปเอาน้ำดื่มในตู้เย็นมาให้เธอดื่มเพื่อไล่ฤทธิ์ยาที่เธอกินเข้าไป
"ดื่มให้หมดเลย" พริ้งพราวหยิบไปดื่มอย่างไวโดยที่ไม่ถามสักคำ เพราะเธอกำลังคอแห้ง
วายุจับเธอมัดมือด้วยเข็มขัดอีกครั้ง เพราะเธอพยายามจะถอดเสื้อผ้าออกอีก เพื่อไม่ให้เธอถอดเสื้อผ้าหรือทำอะไรมากไปกว่านี้ได้ ถึงหญิงสาวจะดิ้นด้วยความทรมาน แต่เธอก็รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา อาจจะมีบางครั้งที่มันไม่สามารถห้ามจิตใต้สำนึกของตัวเองได้
"หายใจลึกๆ แล้วตั้งสติไว้" วายุหันไปผสมน้ำกับน้ำแข็ง ใส่กะละมังเพื่อทำความเย็น
"อดทนหน่อยนะ" พูดจบเขาก็ราดน้ำเย็นๆ ลงไปบนตัวเธอ วิธีนี้เขาเคยเรียนมามันสามารถใช้แล้วได้ผล ถ้าเธอไม่ช๊อกซะก่อนนะ แต่ถ้าคนที่กินเกินขนาดก็อาจจะใช้ไม่ได้ผล แต่เขาก็ต้องลอง เผื่อว่าจะได้ผลกับเธอก็ได้ เพราะเขาก็ยังไม่เคยช่วยใครแบบนี้มาก่อน ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
"ว๊ายหนาว!!" เมื่อความร้อนในร่างกายของเธอ เจอเข้ากับน้ำเย็นจัด ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้น แต่เธอก็สั่นเพราะความหนาวของน้ำเย็นๆ ที่วายุราดลงมาบนตัวเธอไม่ได้หยุด
"ดีขึ้นมั้ย" เขาอยากรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไงบ้าง
"ไม่ค่ะ หนาว...พราวหนาว ช่วยพราวด้วย" เธอเริ่มร้องไห้เพราะความทรมานไหนจะอาการที่เธอกำลังต่อสู่อยู่กับตัวเอง แล้วไหนวายุจะทรมานเธออีก พริ้งพราวไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่ผู้ชายคนนี้กำลังช่วยเธอเลยสักนิด แต่เธอกับรู้สึกว่าเขากำลังทรมานเธอให้ตายทั้งเป็นต่างหาก แล้วไหนจะมือที่ถูกมัดนี่อีก
"ปลดออกให้พราวนะคะ" ตอนนี้น้ำเย็นที่ผสมไว้วายุก็ราดตัวเธอจนหมดแล้ว แต่หญิงสาวก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เธอส่งสายตาบอกให้เขาปลดเข็มขัดที่ข้อมือออกให้
"ถ้าผมปลดให้ คุณต้องเชื่อฟังผมเข้าใจมั้ย" พริ้งพราวพยักหน้ารับ
"ค่ะ" วายุจึงยอมปลดเข็มขัดที่ข้อมือออกให้เธอ ตอนนี้มันเกิดรอยแดงบนผิวขาวๆของเธออย่างเห็นได้ชัด
"อยู่ใต้ฝักบัวนี่ แล้วห้ามถอดเสื้อผ้าออกเด็ดขาดเข้าใจมั้ย" เมื่อวายุปลดเข็มขัดที่ข้อมือออกให้เธอแล้ว เขายังไม่ทันจะพูดจบ เธอก็โผเข้ากอดวายุทันที ด้วยความรู้สึกอยากที่จะสัมผัสเนื้อตัวของเขาเหลือเกิน พริ้งพราวเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว อยากทำในสิ่งที่ใจต้องการเหลือเกิน เพราะตอนนี้เธอกำลังทรมานแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"นี่คุณ! ไหนคุณบอกว่าจะเชื่อฟังผมไง" วายุเสียงดังใส่หญิงสาวทันที เพราะความตกใจกับการจู่โจมของเธอ
"ช่วยพราวนะคะ พราวไม่ไหวจริงๆ " ตอนนี้เธอเริ่มรู้แล้วว่าเธอต้องการอะไร เธอกำลังจู่โจมเขา อยากจะสัมผัสปากหนาด้วยปากบางของเธอ
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ผมบอกให้คุณหยุดไง" วายุจับเธอออกจากตัวของเขา แต่ด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ทั้งวายุและพริ้งพราวเนื้อตัวเปียกปอนกันไปหมด
"นะคะ ช่วยพราวนะคะ" เธอยังไม่หยุดร้องขอที่จะให้เขาช่วย
"คุณอาจจะเสียใจภายหลังนะ...ถอยออกไป! เชื่อผมนะเดี๋ยวคุณก็ดีขึ้น" วายุจับเธอออกจากตัวของเขาที่เธอกำลังกอดรัดเขาอยู่ แล้ววิ่งออกจากห้องน้ำไป วายุล็อกประตูห้องน้ำจากด้านนอกอย่างไวทันที เขาตั้งใจให้เธออยู่ในนั้นจนกว่าฤทธิ์ยาจะหมด
ถ้าฤทธิ์ยาหมดแล้วเธอยังอยากที่จะให้เขาอยู่ เมื่อนั้นเขาก็ยินดี วายุเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง เขาไม่คิดที่จะฉวยโอกาสกับผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้นถ้าเธอไม่เต็มใจ และก็ต้องมีสติดีครบถ้วนด้วย
"คุณๆ ช่วยพราวนะคะฮื่อๆๆๆ" เสียงเธอโวยวายอยู่ในห้องน้ำแล้วก็มีเสียงสะอื้นด้วย ถึงวายุจะสงสารเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ต้องอดทน ด้วยความที่เขาเป็นหมอ เขาเชื่อว่าน้ำเย็นที่เขาให้เธอดื่มเข้าไป มันจะขับยาที่เธอกินเข้าไปออกมาได้ เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก เสียงที่โวยวายอยู่ในห้องน้ำก็เงียบไป...