

ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
เมื่อวายุออกจากห้องน้ำแล้ว เขาก็ล็อกประตูจากด้านนอก เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออก เป็นเสื้อชุดคลุมอาบน้ำแทน เพราะเขาก็ยังไม่ได้อาบน้ำเหมือนกัน เขามานั่งลงสงบสติอารมณ์ของตัวเองกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่สักพัก
สภาพเธอน่าสงสาร ร้องขอให้เขาช่วย แต่เขาเลือกที่จะไม่ช่วยเธอในเรื่องแบบนั้น แต่เขายอมช่วยเธอในฐานะหมอคนหนึ่งเท่านั้น
วายุเห็นเรือนร่างของเธอเปียกปอน ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร เขาก็คือผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรู้สึกเหมือนกับคนทั่วๆไป เสื้อผ้าที่เปียกหมดของเธอ เห็นไปถึงไหนต่อไหน หน้าอกที่มันล้นออกมาจากชั้นในสีขาวลายลูกไม้ของเธอ ไหนจะขาเรียวสวยนั่นอีก แล้วเธอก็ดันมากอดเขาเอาไว้ซะแน่น วายุหงายมือตัวเองดูอย่างเหม่อๆ เพราะมือของเขาได้สัมผัสเนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับรู้สึกมากเวลาที่ได้สัมผัส ตัวเขาเองเกือบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าไม่รีบวิ่งออกมาเสียก่อน
ไม่ว่าเธอจะร้องเรียกเขายังไง วายุก็ยังคงไม่ยอมเปิดประตู ปล่อยให้เธอร้องเรียกเขาไปแบบนั้น เพราะถ้าเกิดเขาเปิดประตูให้เธอ มีหวังครั้งนี้เขาคงอดใจไม่ไหวแน่ๆ
แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เสียงในห้องน้ำก็เงียบลง วายุหันไปมองที่หน้าประตู หรือว่าเธอจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า วายุเริ่มเป็นห่วงเธอขึ้นมา
"คุณๆ" เขาเดินไปหน้าห้องน้ำแล้วลองเรียกหญิงสาวที่อยู่ด้านในห้องน้ำดู
"พราวๆ" เขาจำได้ว่าเธอแทนตัวเองด้วยชื่อนี้
"พราว...พราว...” เสียงด้านในก็ยังคงเงียบ เอ๊ะหรือว่าเธอจะเป็นอะไรไปจริงๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นวายุจึงรีบเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องน้ำทันที
"พราว!!" เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป เห็นเธอนอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องน้ำ เขารีบเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา แล้วเอาไปวางบนโซฟาก่อน เพราะถ้าวางบนเตียงมีหวังที่นอนคงเปียกหมดแน่ๆ
คุณหมอหนุ่มทำการจับชีพจรที่ข้อมือของเธอดู ปรากฏว่ามันเต้นแรงกว่าปกตินิดหน่อยแสดงว่าเธอดีขึ้นแล้ว
"เอายังไงดีวะ เสื้อผ้าเปียกหมดแบบนี้..." ตอนนี้วายุกำลังคิดหนัก สองจิตสองใจพยายามบอกกับตัวเองว่าตัวเองเป็นหมอ หมอต้องทำได้ทุกอย่าง แล้วตอนนี้เธอก็เปรียบเสมือนคนไข้ของเขา
"เอาวะ!" วายุรีบเข้าไปค้นเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ ก่อนที่เธอจะไม่สบายไปเสียก่อน มันมีชุดนอนของเขาอยู่พอดี เขาหยิบชุดนอนชุดนั้นแล้วเดินเข้ามาหาเธอ
วายุเลือกที่จะปิดไฟ จะได้ไม่เห็นเรือนร่างสวยของเธอ แล้วเขาก็ทำการถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมดรวมถึงชั้นในของเธอด้วย ด้วยมือสั่นๆ หัวใจก็สั่น นี่เขาเป็นศัลยแพทย์หัวใจมาก็นาน พึ่งรู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นผิดจังหวะก็วันนี้แหละ
วายุนึกโกรธไอ้ชลเพื่อนของเขาขึ้นมา ทิ้งให้เขาต้องเจอกับสถานการณ์คับขันแบบนี้อยู่คนเดียว วายุสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้ง...อีกครั้ง...แล้วก็อีกครั้ง! ก่อนที่จะเอาชุดใหม่มาเปลี่ยนในเธอแทนชุดที่เปียก
แต่กว่าจะใส่ชุดให้เธอเสร็จได้ มือของเขาก็โดนอะไรต่อมิอะไรของเธอไปเยอะเลย พยายามท่องไว้ในใจว่า เราเป็นหมอ เราเป็นหมอ เราเป็นหมอ จนในที่สุดวายุก็ใส่เสื้อผ้าให้เธอจนเสร็จ เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วอุ้มเธอขึ้นอีกครั้งพาเธอไปนอนบนเตียง ส่วนเขาก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แล้วกลับออกมานอนที่โซฟาแทน นี่ก็น่าจะเกือบสว่างแล้วมั้ง เขาล้มตัวลงนอนแล้วหลับตา...
เช้าวันรุ่งขึ้น
ทางด้านเหนือเมฆ
วันนี้เป็นวันที่สาม ที่เหนือเมฆมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของเขาเอง เขาเฝ้ามองประตูห้องว่าเมื่อไหร่แฟนสาวของเขาจะมาเยี่ยมเขาบ้าง นี่ก็สามวันแล้วยังไม่มีวี่แวว โทรไปก็ไม่รับ
ก่อนหน้าที่เหนือเมฆจะเข้าโรงพยาบาล เขาเห็นเธอไปทานข้าวกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เธอบอกกับเขาว่าเป็นแค่เพื่อน แต่เหนือเมฆเห็นว่าเธอดูสนิทกันมากจนเกินจากคำว่าเพื่อน ด้วยความที่เหนือเมฆเป็นคนขี้หึง จึงทำให้เขากับแฟนสาวทะเลาะกัน เหนือเมฆโมโหขับรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ออกมาอย่างไว จนเกิดอุบัติเหตุ แต่เหนือเมฆก็เลือกที่จะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร บอกแค่ว่าถนนมันลื่นเพราะฝนมันตกก็เท่านั้น แต่เมื่อมีคนถามถึงแฟนเขา เหนือเมฆก็เลือกที่จะไม่ตอบแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยแทน
อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะข่าว ในข่าวบอกว่า คุณหมอหนุ่มเหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ อายุ32ปี ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำอาการสาหัสขาหัก ตอนนี้นอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล
ตอนแรกคุณพ่อกับคุณแม่ของเหนือเมฆท่านจะไปแก้ข่าว ที่ข่าวนั้นออกมาเกินความเป็นจริงไปมาก แต่ก็ถูกเหนือเมฆห้ามไว้ เพราะอยากจะลองใจแฟนสาว เพราะเรื่องที่เขากับเธอทะเลาะกัน มันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก ถ้าเธอจะมาเยี่ยมเขาบ้างตอนเจ็บ
"ช่างมันเถอะครับคุณแม่ เขาอยากจะเขียนอะไรก็ให้เขาเขียนไป ดูจากสภาพผมตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากที่ข่าวมันออกหรอกครับ" นี่คือคำพูดของเหนือเมฆที่พูดกับมารดาวันนั้น ปนน้อยใจแฟนสาวด้าย
แฟนของเหนือเมฆชื่อเบล เธอเป็นนางแบบชื่อดัง ตั้งแต่เธอรู้ข่าวว่าเหนือเมฆประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสจากในข่าว เธอจึงมีความคิดที่จะเลิกกับเหนือเมฆอย่างเป็นการถาวรเลย เพราะเธอไม่อยากจะแบกรับภาระที่มีแฟนเป็นคนพิการได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอไม่มาเยี่ยมเหนือเมฆเลย เธอไปมีความสุขกับผู้ชายอีกคนที่เธอบอกว่าเป็นแค่เพื่อน
"คุณเหนือเมฆตื่นแล้วเหรอคะ วันนี้จะรับอะไรเป็นพิเศษดีคะ" พยาบาลของทางโรงพยาบาล มาดูแลเจ้านายหนุ่มตามหน้าที่
"ไม่ครับ" เขาตอบอย่างไม่มีอารมณ์
"แต่ได้เวลาทานอาหารแล้วนะคะ" พยาบาลยังคงเป็นห่วงเจ้านายตามหน้าที่ของพยาบาลคนหนึ่ง
"ออกไป!!" เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าคนอื่นที่เดินเข้ามา ที่ไม่ใช่แฟนของเขา ทำไมเธอไม่มาเยี่ยมเขาบ้างนะ ยิ่งคิดเหนือเมฆก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
"เป็นอะไรไปลูก" คุณกรรณิการ์ที่เข้ามาเจอลูกชายอารมณ์เสียใส่ลูกน้องที่มาคอยดูแล ก็รู้สึกสงสัยเพราะปกติลูกชายของท่านไม่ใช่คนแบบนี้ แต่ออกจะอ่อนโยนด้วยซ้ำ
"คุณแม่ครับผมขอกลับไปพักที่บ้านได้มั้ยครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่" เหนือเมฆเป็นผู้ชายติดบ้านไม่ชอบนอนที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
"แต่ลูกยังเจ็บอยู่เลย" คุณกรรณิการ์บอกลูกชายคนเล็ก ท่านก็รู้ว่าลูกชายคนนี้ของท่านเป็นอย่างไง ไม่เหมือนกับคนพี่ เมื่อคืนก็ไม่กลับมานอนที่บ้าน
"ผมดีขึ้นแล้วครับ ผมขอกลับไปนอนเล่นที่บ้านนะครับ" เหนือเมฆอ้อน
"จ้างพยาบาลสักคนไปดูแลก็ได้นี่คุณ" คุณพ่อเดินตามเข้ามาทีหลังเห็นลูกชายกำลังอ้อนอยากจะขอกลับบ้าน ท่านจึงเอ่ยช่วยพูดให้อีกแรง
"แต่เมฆยังขยับไปไหนไม่ได้เลย ถ้าจ้างก็ต้องให้เขาอยู่ตลอดหรือไม่ก็ต้องผลัดเปลี่ยนกันมา มันจะสะดวกหรือคุณ คนเข้านอกออกในที่บ้านอย่างนั้นฉันไม่ชอบนี่คะ" คุณกรรณิการ์บอกกับสามี เธอไม่ชอบให้คนอื่น นอกเหนือจากคนในครอบครัวมาวุ่นวายในบ้านมากนัก ถ้าจะมาก็ขอให้เป็นคนเดียวไปเลย
"งั้นผมจะลองหาดูว่าใครจะพอไปประจำอยู่ที่บ้านได้บ้าง"
"ถ้าหาได้ แม่ถึงจะยอมตกลงให้เมฆกลับบ้านได้" คุณกรรณิการ์หันไปบอกลูกชาย
"ขอบคุณนะครับคุณแม่ งั้นผมฝากความหวังนี้ไว้กับคุณพ่อด้วยนะครับ"
"อ้าว...ไอ้ลูกคนนี้ พูดแบบนี้พ่อก็กดดันแย่ล่ะสิ"
"แล้วงานของเมฆล่ะคุณ จะเอายังไงดี" คุณกรรณิการ์ยังคงเป็นห่วงเรื่องนี้พอสมควร
"ผมว่าจะให้วายุลงมาช่วยดูแลสักพัก เพราะงานทางโน้นไม่ค่อยมีปัญหาอะไร"
"ผมทำให้ทุกคนลำบาก" เหนือเมฆพูดอย่างละอายใจ ถ้าเขาไม่ขับรถล้มก็คงไม่มีใครเดือดร้อน
"ไม่หรอกลูกอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ช่วยๆกันไปนะลูก อย่าคิดมาก"
"นั่นสิ ไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวพ่อจะมาช่วยดูแลงานทางนี้อีกแรง" คุณเดชากร ท่านก็มีโรงพยาบาลที่ต้องดูแลอีกเหมือนกัน
"ขอบคุณคุณพ่อมากนะครับ"
"แกไปขอบคุณพี่ชายแกเถอะ เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้าน ตอนนี้จะรู้ชะตาตัวเองหรือยังว่าจะให้มาช่วยที่นี่อีกแรง คงต้องเทียวไปเทียวมา เชียงใหม่กับกรุงเทพ"
"พี่เขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วคุณพ่อคุณแม่ยังไม่ชินอีกเหรอครับ" เหนือเมฆหมายถึงเรื่องที่วายุไม่กลับบ้าน
"ต้องให้มันมีเมียสักคนจะได้อยากกลับบ้าน" เป็นคุณเดชากรที่พูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปหัวเราะชอบใจกันอยากมีความสุข...
