ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
หลังจากที่วายุมาเยี่ยมน้องชายได้สักพักใหญ่ๆ เขาก็ขอตัวกลับ เพราะคนไข้คงต้องการการพักผ่อน แล้ววายุเองก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน เขาจึงกลับมาบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานก็เหมือนจะมีใครบางคนมาหา เพราะเด็กในบ้าน เดินมาตามเขาที่หลังบ้าน บอกว่ามีแขกมาขอพบ
"อ้าวไอ้ชล ไปไงมาไงครับมึง" วายุเอ่ยทักทายเพื่อนทันที ที่เห็นแค่เพียงด้านหลังของมัน ชลธารหรือผู้หมวดชลเป็นคุณตำรวจ ชลธารรับราชการตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ
"ก็มาหามึงนั่นแหละไอ้หมอ" ชลธารหันมาเจอเพื่อนจึงรีบเอ่ยทักทายขึ้นทันที คล้ายกับคนที่คิดถึงเพื่อนมานานแสนนาน
"จมูกดีจริงๆนักนะ กูพึ่งจะถึงนี่แหละ" วายุกับชลธารเป็นเพื่อนกันมานาน เมื่อวายุกลับมาบ้าน ชลธารมักจะมาหาอย่างนี้เป็นประจำ
"นี่เพื่อนนะครับไม่ใช่แมว" วายุหมายถึงสุนัขต่างหาก!
"คงไม่ได้คิดถึงกูใช่มั้ยที่มาเนี่ย" วายุรีบเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน เพราะทุกครั้งที่เขากลับมาบ้าน ชลธารมักจะมาชวนเขาไปเที่ยวด้วยกันอยู่เสมอ
"คืนนี้วางมั้ย" นั่นไง! แบบนี้ทุกทีวายุคิดในใจ จะอะไรซะอีกล่ะ มันชอบมาชวนไปเที่ยวน่ะสิ กิน ดื่ม สังสรรค์ ตามประสาผู้ชายนั่นแหละ
"มึงมีอะไรพูดมาเลยดีกว่า"
"แหมเพื่อน...ก็นานๆที จะได้เจอเพื่อนรักสักครั้ง เราไปสังสรรค์กันหน่อยเป็นไง" หนีเมียไปเที่ยวอีกตามเคยครับ แล้วมันก็จะอ้างกับเมียมันว่ามาหาผม
"ว่างนักหรือไง แม่...เอ๊ย!! แล้วเมียมึงไม่ว่าเหรอ" เมียของมันดุอย่างกับแม่ไม่มีผิด แล้วก็ขี้หึงมากๆด้วย จากคำบอกเล่าของมันนะ
"นี่ไอ้หมอมึงจะพูดถึงเมียทำไม...ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับ" ชลธารกลัวเมียเป็นที่สุด กว่าจะได้เปิดหูเปิดตาสักครั้งก็ต้องรอให้วายุลงมากรุงเทพ แล้วก็อ้างว่ามาหาวายุ ถ้าอ้างเพื่อนคนนี้เมียจะไม่ว่าอะไร
"เออๆ...ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ว่ามา" สุดท้ายแล้ววายุก็ต้องยอมไปด้วยอยู่ดี เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน อีกอย่างเขาก็จะได้ไปเปิดหูเปิดตาด้วย
"ที่เดิมเป็นไง สาวเยอะดี" ชลธารเสนอ นี่ขนาดมันกลัวเมียนะ ถ้าไม่กลัวจะขนาดไหน
"เสียภาพพจน์คุณหมอหมด...ไปก็ได้แล้วเจอกัน" ตอนแรกเหมือนจะบ่นๆ แต่สุดท้ายวายุก็ตกลงไปกับเพื่อนอยู่ดี
"ไม่เอาๆ เดี๋ยวกูมาเจอมึงที่นี่แล้วเราไปด้วยกัน" ชลธารกลัวว่าวายุจะเบี้ยวเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา
"เพื่อ..." วายุเลิกคิ้วสูงถาม จะมาให้มันเหนื่อยทำไม ขับไปขับมาเจอกันที่โน่นก็จบ
"มึงชอบเบี้ยวกู คราวที่แล้วก็ทีนึงและ" ชลธารว่า...
"คราวที่แล้วกูเจ็บมือขับรถไม่ไหว" วันนั้นวายุเจ็บมือจริงๆ
"เหรอครับคุณหมอ คราวนี้มึงคงจะเจ็บตีน" ชลธารไม่เชื่อว่าวายุเจ็บมือ นี่มันข้ออ้างชัดๆ ชลธารเชื่อแบบนั้น
"เออๆ พูดมากน่า เจอกันที่นี่ก็ได้" ยอมๆไปก็จบ เอาไงก็เอาวายุยังไงก็ได้อยู่แล้ว ดีซะอีกเขาจะได้มีคนขับรถให้นั่ง
"งั้นผมกลับก่อนนะครับ" พอหมดธุระ ชลธารจึงขอตัวกลับ เพราะเขาจะต้องกลับไปทำงานต่อ
"นี่คือธุระ!...มาแค่นี้ ที่หลังมึงโทรมาก็ได้หรือเปล่าวะ" วายุยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆให้เพื่อน
"กูผ่านมาพอดี อยากเห็นหน้ามึงด้วย" ชลธารส่งสายตาระยิบระยับแกล้งเพื่อน
"หยี...ขนลุก! รีบๆ ไปเลย" วายุเอ่ยไล่ ก็ดูมันส่งสายตามาสิ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนตีนไปแล้ว ไอ้เพื่อนบ้า!
ทางด้านพริ้งพราว
"พราวๆ วันนี้ไปเที่ยวกัน" ต้นหอมเพื่อนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกันเอ่ยชวนพริ้งพราวให้ไปเที่ยวด้วยกันคืนนี้
"ไม่ล่ะ ต้มหอมไปเถอะ" พริ้งพราวไม่ค่อยชอบไปเที่ยวในที่แบบนั้นสักเท่าไหร่
"ไปนะพราว วันนี้วันเกิดแฟนเรา เขาเลี้ยง ไปนะๆ" ต้นหอมเพื่อนของพริ้งพราวคนนี้ ที่จริงเธอสองคนก็ไม่ได้สนิทกันสักเท่าไหร่ แค่เจอกันที่ทำงานแล้วชวนกันมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน จะได้ช่วยกันหารค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ประหยัดไปได้เยอะเลย แต่ตอนนี้เพื่อนของเธอลาออกจากโรงพยาบาลที่เธอทำงานอยู่ไปแล้ว
"ต้นหอม..." พริ้งพราวไม่อยากไป แต่จะปฏิเสธยังไงดีล่ะ
"ไม่ต้องพูดแล้วลุกเลย ไปเปลี่ยนชุดเถอะ เดี๋ยวเสียฤกษ์หมด" ต้นหอมบอก ทำให้พริ้งพราวรู้สึกแปลกๆ ฤกษ์อะไร!
"ฤกษ์อะไรเหรอต้นหอม" เธองงกับคำพูดของเพื่อน แค่ไปเที่ยวต้องมีฤกษ์ด้วยเหรอ
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร" เหมือนต้นหอมจะหลุดปากพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกมา
"ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ต้นหอมก็รู้ว่าเราไม่ชอบไปเที่ยวในที่แบบนั้น" ในเมื่อเธอปฏิเสธไม่ได้ เพราะเพื่อนชวนหลายครั้งแล้ว
"ได้เราสัญญา...ไปเถอะเร็วๆเข้า" แล้วพริ้งพราวก็เข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุดใหม่ ชุดที่เธอเลือกใส่ในวันนี้เป็นชุดกางเกงยีนขาสั้น เสื้อเชิ๊ตแขนยาวกระดุมหน้าสีขาวพับแขนขึ้นนิดหน่อยพอน่ารัก
"ชุดนี้น่ะเหรอ เราไปเที่ยวผับนะพราว" ต้นหอมมองเพื่อนที่ดูขัดตากับชุดที่พริ้งพราวเลือกมาใส่
"ถ้าใส่แบบต้นหอมเราไม่ไปนะ" ก็ชุดที่ต้นหอมใส่เป็นกระโปรงยีนสั้นๆ กับเสื้อสายเดี่ยวสีแดงจัด
"ก็ได้ๆ งั้นไปกันเถอะ" ต้นหอมกลัวพริ้งพราวจะเปลี่ยนใจ เธอก็เลยตามใจอยากใส่อะไรก็ใส่ เพราะต้นหอมมีภารกิจสำคัญรออยู่
ณ ผับชื่อดังกลางใจเมือง
"ที่นี่น่ะเหรอที่ต้นหอมชอบมา" เมื่อมาถึงหน้าพับพริ้งพราวก็เอ่ยถามขึ้น แค่ด้านนอกเสียงก็ดังออกมาจนหูอื้อไปหมด แล้วด้านในเสียงจะดังขนาดไหน ไม่เห็นหน้ามาเที่ยวเลยสักนิด
"ใช่ที่นี่นี่แหละสนุกจะตาย ป่ะเข้าไปด้านในกัน" แล้วต้นหอมก็เดินนำพริ้งพราวเข้าไปด้านใน พริ้งพราวเดินตามต้นหอมเข้าไป ผู้คนแออัดมีทั้งกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นแอลกอฮอล์ คลุ้งไปหมด เหม็นก็เหม็น
เมื่อทั้งสองเดินผ่านผู้คนที่หนาแน่นเข้าไปด้านในจนสำเร็จ ก็มีผู้ชายอยู่กลุ่มหนึ่งโบกไม้โบกมือเรียก คงจะเป็นกลุ่มแฟนของต้นหอมแน่ๆ เลย
"นั่นไง...โต๊ะนั้น" ต้นหอมรีบจับมือเพื่อนให้เดินตามเธอไปติดๆ ภายในนั้นมีทั้งกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม มันเหม็นไปหมด คนก็แน่น พริ้งพราวไม่เคยมาเที่ยวในที่แบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ถ้าเพื่อนของเธอไม่คะยั้นคะยอให้เธอมา เธอก็คงไม่มีวันที่จะมาเที่ยวในที่แบบนี้แน่นอน
"นั่งก่อนครับคนสวย" ผู้ชายในกลุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเธอสองคนเดินมาถึงที่โต๊ะ
"พราวอยากดื่มอะไรมั้ย" ต้นหอมถามเพื่อน
"ไม่ล่ะ ต้นหอมดื่มเถอะ" พริ้งพราวปฏิเสธ เพราะเธอไม่รู้จะดื่มอะไร แล้วที่วางอยู่บนโต๊ะมันก็มีแต่สิ่งที่เธอคิดว่าไม่น่าจะอร่อยเลยสักนิด
"ได้ยังไงล่ะครับ มาเที่ยวทั้งทีจัดเต็มไปเลยครับ" เสียงผู้ชายคนถัดไป เอ่ยบอกพริ้งพราวพร้อมกับมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ
"ไม่ดีกว่าค่ะ" เธอเห็นสายตา ที่มองมาที่เธอแต่ละคน เธอบอกตามตรงรู้สึกกลัวมากๆ
"พราว...อย่าเรื่องมากน่า พี่เขาให้ดื่มเธอก็ดื่มๆไปเถอะ" ต้นหอมพูดเสริมทันที
"งั้นขอน้ำเปล่าก็ได้ค่ะ" พริ้งพราวไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็เลยขอเป็นแค่น้ำเปล่า ดีกว่าจะต้องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเธอไม่ถนัดเอาเสียเลย
"น้ำเปล่า...เฮ้ยมึงจัดให้น้องเค้าหน่อยสิ" ผู้ชายอีกคนพูดพร้อมกับพยักหน้าให้กัน
"ได้เลยครับคนสวย ใหม่ๆก็งี้แหละ อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินไปเองแหละครับ" ทำไมพริ้งพราวถึงได้รู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบสถานการณ์อะไรแบบนี้เลย กลัวก็กลัวแล้วคนที่พริ้งพราวรู้จักก็มีแค่ต้นหอมคนเดียวเท่านั้น แล้วตอนนี้ต้นหอมก็ไปนั่งข้างๆ ผู้ชายอีกคนซึ่งน่าจะเป็นแฟนของเธอ ตอนนี้พริ้งพราวก็เลยเคว้ง เหมือนนั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้ชายที่เธอไม่รู้จักเลย
"นี่ครับน้ำเปล่า แถมน้ำแตงโมปั่นด้วยแก้วนึงครับ" แล้วน้ำเปล่ากับน้ำแตงโมผสมแอลกอฮอล์ก็ถูกเสิร์ฟลงตรงหน้าพริ้งพราว สีสันสวยงามน่าดื่ม
"ขอบคุณค่ะ" แล้วเธอก็รับสองแก้วนั้นมาวางไว้ตรงหน้า
"พราวดื่มน้ำหน่อยสิ" ต้นหอมอีกแล้ว ทำไมถึงอยากให้เธอดื่มมันนักนะ พริ้งพราวเริ่มไม่ค่อยพอใจ
"เรายังไม่หิว" ก็เธอไม่อยากดื่ม พริ้งพราวเป็นคนขี้กลัว กลัวไปเสียหมด แล้วสถานการณ์แบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น
"ดื่มเถอะน่า...ดื่มแล้วรับรองเธอจะได้ขึ้นสวรรค์" อุ๊ย! ต้นหอมหลุดปาก
"หมายความว่ายังไง" พริ้งพราวรู้สึกถึงสีหน้าและท่าทางของเพื่อนที่แปลกๆไปแต่เธอก็ไม่ค่อยมั่นใจ
"เราหมายความว่า มันอร่อยมากยังไงล่ะไม่มีอะไรหรอกดื่มสิ" พริ้งพราวเธอทนเพื่อนคะยั้นคะยอไม่ไหว ก็เลยยกแก้วขึ้นดื่มไปหน่อยนึง แล้วก็วางแก้วลง อีกสักพักต่อมา...
"เอ๊ะ! ทำไมรู้สึกร้อนๆ ต้นหอมเธอร้อนมั้ย" พริ้งพราวเริ่มรู้สึก ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง
"ก็ไม่นี่ เธอใส่เสื้อแขนยาวมาหรือเปล่า" ต้นหอมพูดกับเพื่อน แต่สายตามองหน้าผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันอย่างมีพิรุธ
"งั้นเราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ครั้งนี้พริ้งพราวไม่ฟังเสียง รีบหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นออกจากตรงนั้นไปทันที เธอกำลังรู้สึกกลัวอะไรบางอย่าง เพราะสีหน้าและแววตาของผู้ชายที่นั่งอยู่ด้วยกันมองเธอแปลกๆ ตั้งแต่เธอมานั่งแล้ว
"คนสวยเดี๋ยวพี่พาไป" ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มเสนอตัวที่จะเดินไปเป็นเพื่อน
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปคนเดียวได้" เธอเดินออกไป โดยมีผู้ชายคนนั้นเดินตามเธอมาติดๆ ตอนนี้เธอรู้สึกกลัว เพื่อนของเธอทำอะไรกับเธอกันแน่ ทำไมรู้สึกร้อนแปลกๆอย่างนี้ แล้วผู้ชายคนนั้น หนึ่งในกลุ่มที่นั่งอยู่ด้วย สายตาที่มองเธอมาตั้งแต่ที่เธอเข้ามานั่ง เธอรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ
"อย่าตามมานะ" ตอนนี้พริ้งพราวเริ่มวิ่งแล้ว แต่ด้วยความที่ผู้คนแน่นมาก เธอเลยไปได้ไม่ไวเท่าไหร่
"อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน่า เธอกำลังต้องการผมนะสาวน้อย" ผู้ชายคนนั้นเดินตามเธอจนทัน แล้วคว้ามาที่ข้อมือของเธออย่างแรง
"ไอ้บ้า...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" เธอผลักผู้ชายคนนั้นอย่างแรง จนผู้ชายคนนั้นเซไปทางด้านหลังเมื่อเธอได้โอกาส เธอจึงรีบวิ่งหนีสุดแรงอีกครั้ง
"ปัก...โอ๊ย!!"