ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
เช้าวันใหม่
"สวัสดีครับคุณแม่" สายๆของอีกวันวายุก็เดินทางมาถึงกรุงเทพพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หนึ่งใบ
"มาแล้วเหรอลูก ไม่ได้เจอกันตั้งนานมาให้แม่กอดหน่อย" คุณแม่เดินเข้ามากอดลูกชายด้วยความคิดถึง
"โอ๋ๆ คุณแม่...นานอะไรกันครับ เดือนที่แล้วผมก็กลับมาเยี่ยมคุณแม่นะครับ" วายุโอบกอดคุณแม่ของเขาไว้เช่นกัน คุณแม่เป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวของบ้าน เพราะท่านมีแต่ลูกชายไม่มีลูกสาวเลย
"ก็มันตั้งเดือนนึงแล้วนี่นา" จะเดือนหรือน้อยกว่าเดือนคนเป็นแม่ก็คงคิดถึงลูกชายอยู่ดี
"ไอ้เมฆเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่ ตอนแรกผมว่าจะไปโรงพยาบาลเลย แต่ต้องเอากระเป๋ามาเก็บก่อนก็เลยเข้าบ้านก่อนดีกว่า"
"คงนานกว่าจะเดินได้ แม่กำลังจะไปโรงพยาบาลอยู่พอดี ลูกทานอะไรหน่อยมั้ย อิ่มแล้วจะได้ไปพร้อมกันเลย"
"ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมว่าไปเลยดีกว่า จะไปดูอาการของมันสักหน่อย"
"ถ้างั้น จ้อย...จ้อย ไปเอารถออกป่ะ" คุณกรรณิการ์ หันไปบอกคนขับรถของที่บ้าน
"ครับคุณผู้หญิง"
@โรงพยาบาล
"เดี๋ยวคุณแม่เดินขึ้นไปก่อนเลยนะครับ ผมจะไปหาน้ำดื่มซะหน่อย คุณแม่จะเอาน้ำอะไรมั้ยครับ" วายุเกิดอาการหิวน้ำขึ้นมาพอดี จึงขอตัวไปซื้อน้ำดื่มก่อนแล้วจะเดินตามขึ้นไป
"ไม่จ่ะ แล้วตามขึ้นไปนะ"
"ครับ" วายุรู้สึกหิวน้ำ เขารีบเดินไปหาร้านน้ำดื่มทันที เพื่อที่จะรีบขึ้นไปเยี่ยมน้องชาย แต่ในขณะที่วายุกำลังรีบเดินอยู่นั้น อยู่ๆเขาก็เดินชนผู้หญิงคนหนึ่งเข้า
"ว๊าย!! ปัก!" วายุรีบเดินเพราะกลัวว่าจะขึ้นไปช้า ส่วนอีกคนก็เดินก้มหน้าก้มตา ไม่รู้มาจากทางไหนเลยชนกันเข้าอย่างจัง
"อุ๊ย! ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย" ด้วยความรีบร้อน วายุเดินไม่ทันระวังไปชนเข้ากับผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง จนเธอล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง
"โอ๊ย!!..." เธอคงจะเจ็บมากกระแทกแรงซะด้วย วายุรีบพยุงให้เธอคนนั้นค่อยๆลุกขึ้น
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนมั้ย ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมรีบไปหน่อย" วายุพูดอย่างรีบร้อนพร้อมกับสำรวจจับตรงนั้นตรงนี้ของเธอด้วยความเคยชินที่เขาเป็นหมอ ในขณะที่พริ้งพราวเงยหน้าขึ้นมองคนที่ชนกับเธอเข้า ตอนแรกเธอก็ว่าจะต่อว่าสักหน่อย แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมอง เธอกลับพูดอะไรไม่ออก
โคตรหล่อเลย!...พริ้งพราวเงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกตะลึง ทีแรกก็ว่าจะว่าสักหน่อยเพราะเธอเดินของเธออยู่ดีๆ อยู่ๆเขาก็เดินมาชนเธอจนล้มแถมยังเจ็บมากอีกด้วย
"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ" ด้วยความตกตะลึงในความหล่อเหลาของเขาที่ราศีจับสุดๆ เธอจึงตอบไปว่าไม่เป็นไร เพราะเขาก็พยุงเธอให้ลุกขึ้นมายืนในแบบมารยาทดีแถมยังเบามือสุดๆ
"ขอบคุณนะคะ" เขาจับเธอสำรวจหันซ้ายหันขวา เป็นผู้ชายแน่หรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงกล้าถึงเนื้อถึงตัวของเธอขนาดนี้ คงไม่ใช่พวกเดียวกันหรอกนะ หล่อขนาดนี้เสียดายของแย่เลย...พริ้งพราวคิดในใจ
"ถ้าคุณไม่เป็นอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ" แล้ววายุก็เดินออกจากตรงนั้นไปแบบรีบๆ พริ้งพราวมองตามเขาไป เขาเดินไปที่ร้านน้ำ จากนั้นเธอก็ไปทำงานของเธอต่อ แล้วก็ไม่ได้สนใจเขาอีก ส่วนเธอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้นี่แหละ
พริ้งพราวเธอทำงานที่นี่เป็นพนักงานข้อมูล เธอใส่ชุดอะไรก็ได้ วันนี้เธอใส่ชุดเรียบร้อยเป็นชุดกระโปรงน่ารักๆ ตามสมัยนิยม วายุเลยไม่รู้ว่าเธอทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ส่วนพริ้งพราวก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเธอก็พึ่งจะได้มาทำงานที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เอง
หลังจากที่วายุซื้อน้ำเสร็จ เขาก็รีบขึ้นมายังชั้นวีไอพี ชั้นบนสุดของทางโรงพยาบาลที่เหนือเมฆน้องชายของวายุนอนรักษาตัวอยู่ โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลของครอบครัวและชั้นที่อยู่ก็เป็นชั้นที่ดีที่สุดของที่นี่
"เป็นยังไงบ้างไอ้น้องรัก" วายุเปิดประตูเข้ามาก็เอ่ยทักทายน้องชายคนเดียวของเขาทันทีด้วยรอยยิ้ม
"ก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับพี่" เหนือเมฆน้องชายคนเล็กของบ้าน เขามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง ทั้งสองแยกย้ายกันบริหารงานหลังจากเรียนจบ
"แล้วทำยังไง ถึงเกิดอุบัติเหตุได้วะ" วายุเดินเข้ามาใกล้ๆเตียงคนป่วยแล้วเอ่ยถามน้องชาย เหนือเมฆเป็นคนที่ชอบขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ แต่เหนือเมฆก็ไม่น่าพลาดทำให้ตัวเองเป็นอันตราย ถึงจะเป็นรถสองล้อก็ตาม เพราะรถคันที่เหนือเมฆชอบขับมีระบบเซฟตี้พอสมควร
"ฝนมันตกถนนมันลื่นมั้งพี่" ที่จริงมันมีมากกว่านั้นแต่เหนือเมฆไม่คิดที่จะพูดมันออกมา
"แล้วรถยนต์มีทำไมไม่ใช้" วายุบ่นน้องชาย ที่ชอบขับแต่รถเล็ก รถใหญ่ก็มีไม่ยอมใช้
"โอ๊ยพี่...จะมาเยี่ยมหรือมาบ่นผมกันแน่ครับเนี่ย คุณแม่บ่นผมคนเดียวหูผมก็ชาไปหมดแล้ว" เหนือเมฆพาดพิงผู้เป็นแม่ ซึ่งท่านก็นั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย เพราะท่านเดินนำขึ้นมาก่อน ตอนนี้ท่านกำลังปอกผลไม้ให้ลูกชายอยู่
"เออๆ...แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง อาหมอมาดูหรือยัง แล้วท่านว่ายังไงบ้าง" อาหมอก็คือคุณหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกของทางโรงพยาบาลแห่งนี้ โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่เหนือเมฆเป็นผู้บริหารอยู่
"กระดูกร้าวเยอะคงต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับพี่" เหนือเมฆพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้า เพราะต่อจากนี้โอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็จริงแต่คงต้องใช้เวลานาน
"แล้วปวดมากมั้ยน่ะ" วายุยังคงถามถึงอาการของน้องชายต่อด้วยความเป็นห่วง
"ปวดสิครับพี่ แต่ดีขึ้นกว่าตอนแรกหน่อยแล้วครับ ผมพึ่งได้ยาแก้ปวดก่อนที่พี่จะมาเมื่อสักครู่นี้เองครับ"
"แล้วแฟนแกมาเยี่ยมบ้างหรือยังล่ะ" เหนือเมฆคบหาอยู่กับเบลนางแบบชื่อดัง ได้เกือบปีแล้ว เรื่องนี้ใครๆก็รู้เพราะเธอค่อนข้างดังในวงการช่วงนี้
"อย่าไปถามถึงเลยครับ...ว่าแต่พี่ชายผม เมื่อไหร่จะหาพี่สะใภ้ให้ผมสักทีล่ะครับ" เหนือเมฆรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เขาไม่อยากพูดถึงผู้หญิงหลายใจคนนั้นอีก
"ไม่อยากมีว่ะ...เห็นเมียไอ้ชลแล้วอยู่แบบนี้ดีกว่า" ชลธารเพื่อนสมัยเรียน ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ เมื่อวายุลงมากรุงเทพ ทุกครั้งชลธารก็มักจะชวนไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ ภรรยาของชลธารเป็นผู้หญิงขี้หึงแล้วก็ดุมากๆ
"ผู้ชายที่พูดแบบนี้ทุกคน แสดงว่ายังไม่เจอคนที่ถูกใจ"
"อ้าวเปลี่ยนจากหมอสูติ มาเป็นจิตแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" เหนือเมฆเป็นหมอสูติ ส่วนวายุเป็นหมอหัวใจ ทั้งสองเลือกเรียนหมอเพราะมีกิจการโรงพยาบาลที่จะต้องดูแล แล้วก็ต้องเรียนบริหารควบคู่ไปด้วย จนตอนนี้ทั้งสองได้ทำงานกันมาหลายปีแล้ว
พี่ชายกับน้องชายก็คุยกันไปเรื่อยๆ โดยมีคุณแม่ของพวกเขานั่งฟังอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ พวกเขาสองคนมักจะชอบพูดคุยกันอย่างนี้เป็นประจำเวลาได้เจอหน้ากัน