บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 อยู่ด้วยกัน

ตอนนี้เรามาถึงหน้าคอนโดหรูแล้ว ฉันยังงงว่ามาถูกที่แน่หรอ...

คือว่า ตอนเรียนก็พอดูออกนะว่าบ้านเขามีเงิน แต่ว่าตอนนี้ เขาก็เป็นแค่พนักงานธรรมดานี่ เอาเงินจากไหนมาซื้อคอนโดหรูขนาดนี้นะ

“ไม่ลงหรอ”

“ลงสิ.. รอด้วย”

ฉันวิ่งตามหลังฮัลวอลไปติดๆ เราขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุดของตึก เปิดออกมากลิ่นหอมของอากาศ แอร์เย็นๆ ที่เปิดตามทางเดิน ชั้นตึกใหญ่ ที่มีเพียงไม่ถึง 10 ห้อง ฮัลวอลวางนิ้วโป้งแสกนรหัสแล้วผายมือ

ติ๊ด

“เชิญ….”

เฮือกกกกกก

แม่เจ้าโว้ยยย นี่มันคฤหาสน์ขนาดย่อมรึเปล่า ห้องกว้างใหญ่กว่าที่ฉันอยู่เป็นร้อยเท่า สัดส่วนห้องต่างๆ ถูกแบ่งไว้อย่างดี จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ถูกฝังในผนังไว้ กระจกระเบียงห้องรับแขกสูงชนเพดาน โคมไฟระย้ารูปคริสตัล ถูกตกแต่งแขวนกลางโถงระยิบระยับและสระน้ำรับวิวกลางเมือง

“ ฮัลวอล….นะ นาย ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายใช่ไหม”

โป้ก!!

“โอ้ย!” ฉันลูบหัวป้อยๆ เพราะโดนฮัลวอลเขกหัวเข้าอย่างแรง

“บ้านฉันรวย เธอลืมแล้วหรอ”

“รู้ แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้น่ะ”

“ทำไม …หน้าฉันดูเหมาะกับการเป็นคนจนหรอ”

“เปล่า หมายถึง รวยขนาดนี้ทำไมไปทำงานใช้แรงแบบนั้นล่ะ ระดับนี้เปิดธุรกิจตัวเองได้เลยมั้ง”

ฉันพูด พลางเดินลูบโซฟาตัวใหญ่ หนังหนาชั้นดี ที่ตั้งเด่นตะหง่านอยู่กลางห้องรับแขก

“...ฝึกอยู่”

“อะไรนะ”

“เปล่า”

เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาจนฉันแทบไม่ได้ยิน ฮัลวอลวางกระเป๋าเป้ของฉันลงบนโซฟา แล้วไล่เปิดไฟในห้องจนสว่างทั่ว

“อยากเดินดูไหม”

“อะ อื้ม”

จากนั้นฮัลวอลก็พาฉันทัวร์คฤหาสน์ขนาดย่อมของเขาจนทั่ว สรุปที่นี่มี 3 ห้องนอน ซึ่งแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของฮัลวอล 1 ห้อง เปลี่ยนเป็นห้องออกกำลังกาย 1 ห้องและอีกห้องที่ว่าง ยกให้ฉัน

“ห้องนั้นของเธอ มีเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเอาไว้แล้ว อ่อ ฉันไม่ได้ติดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ เพราะไม่ได้คิดว่าจะให้ใครมาอยู่ …ถ้าอยากอาบน้ำอุ่น เธอก็มาขอใช้ที่ห้องฉันได้ ฉันไม่ว่าอะไร”

“ค่ะ” ฉันตอบรับอย่างสุภาพ พลางเดินชมข้าวของสุดหรูอย่างตื่นตาตื่นใจ

“อยากได้อะไรเพิ่มก็บอก”

“เอ่อคือ ...มีเรื่องอะไรที่ฉันควรรู้ หรือ ระวังไหม”

“ไม่มี อยากทำอะไรก็ทำ”

“...”

“ยกเว้นย่องเข้าห้องฉัน …เพราะฉันจะสู้กลับจนเธอจมไปกับเตียงได้เลยล่ะ”

ฮัลวอลบอกข้อควรระวัง(ที่ไม่มีวันเกิด)ให้ฉันรู้ พลางทำหน้าหื่นใส่ เขาอมยิ้มเล็กๆ ไล่สายตาลงต่ำ ฉันรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเอง บิดตัวหนี

“หึ แค่แกล้งเฉยๆ รู้อยู่หรอกว่าเธอเป็นแม่ชีปลอมตัวมาเกิด”

“อะ ไอ้ บะ…”

“จุ๊ๆ เธอจะด่าผู้มีบุญคุณไม่ได้นะ ถ้าฉันเปลี่ยนใจไล่เธอออกไปนอนข้างทาง หรือส่งตัวให้พวกเวรนั่นขึ้นมา เธอจะต้องเสียใจแน่”

“นี่ขู่หรอ!!”

“ป๊าววว ฉันจะไปอาบน้ำก่อน ทำกับข้าวให้กินด้วยล่ะ”

เจ้าตัวปฏิเสธเสียงสูง ก่อนจะเดินหนีเข้าห้องนอนของตัวเองไป ทิ้งให้สาวตัวเล็กยืนกำหมัด กรี๊ดสาปแช่งในใจ

ฉันแบกเป้เข้าห้องใหม่ที่ใหญ่กว่าห้องเช่าของมนุษย์ป้าหลายเท่า อากาศบริสุทธิ์ สูดได้เต็มปอด สุขภัณฑ์ชั้นดี ไม่มีแมลงสาปเป็นเพื่อนจ้องตาตอนนั่งปลดทุกข์

เตียงหนานุ่มขนาด 6 ฟุต พร้อมผ้านวมผืนใหญ่ ไม่ต้องนอนขดทนหนาว เอาผ้าขนหนูมาห่มเสริมแล้ว แถมมีตู้เสื้อผ้าหลังเบอเร่อ ที่แขวนผ้าหมดทั้งชีวิตของฉันแล้วก็ยังไม่ถึงครึ่งตู้เลย

“อย่างน้อย ..ก็ไม่เสี่ยงเจอไอ้พวกชั่วนั่นล่ะนะ”

ถึงจะสบายกายแต่ก็อึดอัดใจกับฮัลวอลอยู่นิดหน่อย ยิ่งเขามาช่วยเหลือตอนตกทุกข์ได้ยากแบบนี้ ฉันก็ยิ่งกลัวใจตัวเองว่าจะหลงลืมความเจ็บปวดและบาดแผลที่เขาทิ้งเอาไว้ให้

ฉันสลัดความคิดออกจากหัว รีบจัดแจงของเข้าที่ ก่อนจะออกไปทำอาหารมื้อค่ำให้คุณชายฮัลวอลต่อ

“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยแฮะ…”

ทันทีที่เปิดตู้เย็นหลังใหญ่ก็ต้องหัวเสีย เพราะมันแทบจะไม่มีอะไรที่จะใช้ทำกับข้าวได้เลย ทั้งตู้มีแค่เบียร์ เหล้า ไวน์ น้ำแร่และวนกลับไปอ่านใหม่ค่ะ

ไอ้บ้านี่มันติดแอลกอฮอล์เกินไปแล้ววววว!!

หลังแหวกดงแอลกอฮอล์ไปพักใหญ่ ในที่สุดพระเจ้าก็ยังพอเมตตามอบเนื้อออสเตรียก้อนโตไว้ให้หนึ่งแพ็ค พร้อมผักที่เหี่ยวเหมือนหญ้าแห้ง

“ทำอะไรได้วะเนี้ย…. งั้นสเต็กละกัน”

เมื่อหันมองวัตถุดิบในมือ และเครื่องครัวที่มีเพียงซอสหมักเนื้อกับพริกไทยขวดเล็กๆ เมนูที่เลือกไม่ได้ก็ผุดขึ้นมาในหัว เอาเถอะ กินเพื่ออยู่ ให้ผ่านคืนนี้ไป ค่อยไปซื้อของมาใส่ตู้เย็น

ฉ่าาาา

เสียงเนื้อย่างแนบกระทะร้อน พร้อมกลิ่นหอมโชยฟุ้งไปทั้งครัว น้ำย่อยในท้องทำงานอย่างหนักหน่วง ถ้าเป็นเช่นเมื่อก่อน ฉันคงต้มมาม่ากิน จนอาบน้ำเข้านอนไปแล้ว

“ทำไรกิน”

ฮัลวอลเดินออกมาจากห้อง โดยเปลือยเนื้อท่อนบนโชว์กล้ามอกและซิกแพ็คเป็นมัดๆ เส้นผมของเขายังเปียกชุ่ม ผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมไหล่รองหยดน้ำ ผิวที่ยังไม่แห้งดีเลื่อมแวววาวกระทบแสงไฟ

อึก ...ฉะ ฉัน กำลังประหม่า

หัวใจฉันเต้นแรง แซงเสียงเนื้อย่างในเตา นี่จงใจจะอ่อยหรือไงนะ รู้แล้วว่าหุ่นนายแซ่บขึ้น แต่ช่วยเกรงใจกันหน่อยได้ไหมยะะ.... !!!

ฉันไม่ตอบและไม่หันไปมองฮัลวอล เขานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร หลังจัดการอาหารเสร็จ ฉันก็ส่งให้เขาจานนึง ตัวเองจานนึง

“ขอบคุณสำหรับอาหารครับ” เขาหั่นสเต็ก เคี้ยวตุ้ยๆ โดยไม่พูดอะไร

“เป็นไง อร่อยไหม”

“ก็.. งั้นๆ อ่ะ”

“คายออกมา” ฉันลุกคว้าคอฮัลวอล แล้วแกล้งบีบเบาๆ

“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นๆ ก็อร่อยอยู่หรอก” ไอ้บ้านี้ รู้งี้แอบใส่ยาเบื่อหนูให้กินซะก็ดี

“เอาเบอร์เจ้าหนี้เธอมาสิ”

“เอาไปทำไม”

“จะจ่ายให้”

“นายจะบ้าหรอ 30 ล้านวอนเชียวนะ”

“แล้ว…”

“มันมากไป นายมีขนาดนั้นเลยหรอ”

“ฉันมีมากกว่านั้นเยอะ”

เขาพูดด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนจะกดปลดล็อคโทรศัพท์ตัวเองแล้วยื่นให้ฉัน

“ไม่เอา… เดี๋ยวฉันทยอยจ่ายเอง”

“อยากให้ไอ้พวกนั้นมาล่าเธออีกหรอ”

“ฉันเกรงใจนาย ไหนจะคอนโด ไหนจะค่าเช่าห้องเก่าอีก”

“แล้ว?”

“ก็มันมากไปไง นายไม่รู้จักหวงเงินตัวเองบ้างหรอ”

“ก็หวงอยู่หรอก …แต่ไม่ใช่กับเธอ”

“....”

“อย่าลีลาเลยว่ะ บอกว่าจะจ่ายให้ก็คือจ่ายให้”

เมื่อเห็นฉันมองอย่างอึ้งๆ ฮัลวอลขมวดคิ้วจิ๊จ๊ะในลำคอ เอื้อมมาคว้าโทรศัพท์ของฉันไปกดหาเบอร์เจ้าหนี้เอง

“ระ รู้แล้วๆ เดี๋ยวกดให้”

ฉันจำยอมกดเบอร์เจ๊เจ้าหนี้ให้ฮัลวอล เขาออกไปคุยโทรศัพท์ที่นอกระเบียง ก่อนจะเดินฮัมเพลงเข้ามา นั่งตรงหน้าฉันเหมือนเดิม

“เอ่อ…”

“จ่ายหมดแล้ว สบายใจได้”

“นาย….”

“...”

“ขอบคุณ มากๆ นะ เดี๋ยวฉันจะรีบทยอยคืนให้”

“ไม่ต้องรีบก็ได้ ฉันอยากให้เธออยู่ชดใช้ไปตลอดชีวิต”

คำหยอกเล่นของเขา ทำฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะ วันนี้ฉันใจสั่นเพราะเขากี่ครั้งแล้วนะ มันไม่ใช่อาการกลัว ไม่ใช่อาการตื่นเต้น มันออกแนวตื้นตันผสมเศร้าและอับอายซะมากกว่า

ฮัลวอลตักเนื้อคำสุดท้ายเข้าปาก เขาโยกหัวฉันเล่นสองสามครั้งแล้วลุกเข้าห้องนอนของตัวเองไป ทิ้งฉันให้มือสั่น หน้าแดงอยู่คนเดียว

อยู่ชดใช้ไปตลอดชีวิต... หรอ?? หมายความว่าไงน่ะ

นี่ฉันกรรมหนักถึงขั้นสลัดเจ้ากรรมนายเวรคนนี้ไม่ออกเลยหรอ

...ชีวิตวุ่นวายแน่ ยัยดายอนเอ้ยยยยย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel