ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1
ตอนที่
[3]
บ้าไปเสียแล้ว
ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย
เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก
“นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่
“ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกตัวออกไป แต่นางไม่สนใจเพราะจะรีบจัดการสถานการณ์ตรงหน้า
“คุณหนูหก รีบปล่อยหัวหน้าแม่ครัวก่อนเถิด หากใบหน้าของสุ่นเย้าโดนน้ำร้อนนั่นเห็นทีจะไม่เป็นการดี” หนึ่งในหัวหน้าพ่อครัวผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นพยายามเกลี้ยกล่อม
“ไม่ดีแล้วอย่างไรเกี่ยวกันอะไรกับข้า”
“…..”
พ่อครัวผู้นั้นถึงกับกล่าวอันใดไม่ออก
“ชีวิตทุกคนล้วนมีค่าคุณหนูหกอย่าทำเช่นนั้นเลย” แต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม
“เช่นนั้นหรือ…...” ฉีจื่อหรานลากเสียง
“แต่คนที่ไม่เคารพเจ้านายควรให้ค่าด้วยหรือ” ใบหน้าของฉีจื่อหรานแม้จะงดงามราวกับเทพเซียนหากแต่ท่าทางและแววตาในยามนี้ราวกับมัจจุราชที่กำลังจะพรากลมหายใจของผู้คนก็ไม่ปาน เพียงแค่ได้สบสายตาเหล่าคนครัวต่างก็ถอยหลังออกไปอย่างไม่รู้ตัว ด้านสุ่นเย้าที่ถูกจับกุมอยู่นั้น หากเทียบรูปร่างนางนั้นเหนือกว่าฉีจื่อหรานหลายขุม แต่เหตุใดตนไม่สามารถพาร่างกายตนเองออกจากอีกฝ่ายได้เลย คุณหนูหกผู้นี้ไปมีพละกำลังที่มากเช่นนี้มาจากที่ใด
“เฮ้ยยย”
ระหว่างที่สุ่นเย้ากำลังครุ่นคิดสับสน ฉีจื่อหรานก็ทำท่าจะจุ่มศีรษะของนางลงในน้ำอันเดือดพล่านจริง ๆ เสียงของผู้คนต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่อ้ายมี่ที่ดูอยู่ นางไม่เคยเห็นคุณหนูของตนในท่าทางเช่นนี้ แต่ไม่ว่าคุณหนูจะทำเช่นไร นางก็จะอยู่เคียงข้างคุณหนูไม่เปลี่ยนแปลง
ฉีจื่อหรานเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของผู้คนในเหตุการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวออกห่างหม้อตุ๋นร้อน ๆ นั่น
จากนั้นจึงผลักอีกฝ่ายลงกับพื้น ไม่พอยังใช้แรงตบไปที่ใบหน้าของสุ่นเย้าจนเต็มแรง
เพียะ!
“ข้าก็แค่หิวข้าว คราวหน้าก็อย่ามีปัญหาเช่นนี้อีกเลยนะ” รอยยิ้มอันสดใสกลับมาอีกครั้ง หากแต่ช่างดูยียวนเหลือเกินในสายตาของคนที่พบเห็น หนำซ้ำมือเรียวขาวยังตบเบา ๆ ไปที่ใบหน้าของหัวหน้าแม่ครัวซ้ำ ๆ อีก สุ่นเย้าทำอันใดไม่ได้เพราะเมื่อครู่ที่โดนผลักร่างกายก็เจ็บจุกมากเหลือเกิน
เหล่าคนครัวเมื่อเห็นว่าหัวหน้าแม่ครัวปลอดภัยจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแล้ว จึงได้คิดจะเอาคืนแทนนาง อย่างไรคุณหนูหกก็ไม่มีผู้ใดสนใจอยู่แล้ว ถึงพวกตนทำอันใดไป นายท่านและฮูหยินก็คงไม่ว่าอันใด คิดแล้วจึงได้กำหมัดแล้วหันไปมองหน้ากัน จากนั้นจึงเข้าไปหาฉีจื่อหรานในคราเดียว อ้ายมี่พยายามจะลุกขึ้นไปห้ามปรามก็ไม่ทันเสียแล้ว
ด้านฉีหรานใช้สายตาคมกริบสาดมองไปยังผู้คนที่กำลังกรูเข้ามาพลางยิ้มเยาะ
“สิ่งที่เกิดกับหัวหน้าแม่ครัวเมื่อครู่พวกเจ้าคงไม่เข้าใจสินะ ดี!” กล่าวเพียงเท่านั้นแล้วก็ยกมือขึ้นมาหักกระดูกจนเกิดเสียงดังกร็อบแกร็บ
หมับ!
มือขาวจับเข้าที่ต้นคอของผู้ที่เข้ามาคนแรกก่อนจะจับเขาหมุนและใช้เท้าถีบออกไปเต็มแรงส่งผลให้ชายผู้นั้นใบหน้าคว่ำกระแทกพื้นทันที ผู้อื่นที่เห็นเช่นนั้นจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงหันไปมองหน้ากันด้วยความสับสนว่าจะเอาอย่างไรดี ฉีจื่อหรานไม่ปล่อยให้พวกเขาคิดนาน นางใช้ฝีเท้าเหยียบไปที่ร่างของชายคนก่อนหน้า ก่อนจะใช้ฝ่ามือไล่ตบไปที่ใบหน้าของแต่ละคนอย่างเต็มแรง ไม่ทันตั้งตัวมุมปากของแต่ละคนก็มีเลือดไหลซึมออกมาเสียแล้ว บางคนถึงขั้นฟันหลุดออกจากปาก
“โอ้ ฟันข้า!!”
“หากพวกเจ้ายังไม่เคารพข้าอีก คงมิใช่แค่ฟันที่จะหลุดออกมา” ก่อนจะใช้มือทำท่ากรีดไปที่ลำคอของตน เพียงเท่านั้นพวกเขาก็ถดกายหนีอย่างหวาดกลัว คุณหนูหกบ้าไปแล้ว!!
ฉีจื่อหรานเห็นท่าทางเหล่านั้นก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ก่อนจะรีบเข้าไปช้อนร่างของอ้ายมี่ขึ้นมาแล้วใช้ฝีเท้ากระโดดออกจากโรงครัวกลับไปที่เรือนของตนอย่างรวดเร็ว
นางต้องรีบไปก่อนที่คนเรือนใหญ่จะมา
ต้องไปเตรียมตัวรอความสนุกสักหน่อย