9 ผู้หญิงที่น่ารัก
ขณะที่ไอรดาหลับไป ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ บ่าย 3 ได้ ไอรดาก็ตื่นขึ้น การนอนของเธอในรอบนี้ไม่ได้ฝันอะไรเลย เธอหลับสนิท มันเลยทำให้เธอรู้สึกสดชื่น และดีเป็นพิเศษ เธอบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปยังหน้าต่างของห้องพักฟื้น ไอรดามองออกไปยังด้านนอกของหน้าต่าง
"คุณยายจะเป็นอย่างไรบ้างนะ? ... เฮ้อ ..." เธอยังคงคิดถึงยายของเธอ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของตัวเธอที่อยู่ตรงจุดนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง? เธอหวังเพียงว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ
จากนั้นเธอก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ให้ตัวเองสดชื่น หลังจากที่ได้นอนหลับอย่างสนิท เธอใช้เวลาอาบน้ำนานนิดหน่อยในครั้งนี้ เพราะเธอเพิ่งฟื้นจากการสลบหลังเกิดอุบัติเหตุ
หลังอาบน้ำเสร็จ เธอก็แต่งตัวด้วยชุดที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมกับเป่าผมที่เธอเพิ่งสระเสร็จ
"รู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะเลย" ไอรดาพูดกับตัวเอง จากนั้นเธอก็ดูหน้าตาของร่างที่เธออาศัยอยู่อีกครั้ง
"เธอก็หน้าตาน่ารักเหมือนกันเลยนะเนี่ย ... แต่เสียดายที่นิสัยของเธอไม่น่ารักเหมือนหน้าตา" ไอรดาพูดกับตัวเองเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำ เพื่อรอให้พยาบาลพาเธอไปทำการตรวจร่างกาย เธอรอพยาบาลเพียง 15 นาที พยาบาลคนเดิมที่ดูแลเธอก็เดินเข้ามาพร้อมรถเข็น
"ได้เวลาแล้วค่ะ เชิญคุณอัยยะนั่งที่รถเข็นเลยนะคะ เดียวดิฉันจะพาคุณไปยังห้องรังสีวิทยาค่ะ" พยาบาลเรียกให้ไอรดานั่งบนรถ
"ไอซ์เดินไปเองก็ได้ค่ะ" ไอรดาเห็นรถเข็น เธอก็ไม่อยากที่จะนั่ง เพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่าเธอป่วยเอามาก ๆ ซึ่งนั้นมันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
ไอรดา มักจะแทนตัวเองว่าไอซ์ แทนที่จะแทนตัวเองด้วยชื่อเต็ม หมอกับพยาบาลก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเจ้าของร่างเดิมก็ชอบแทนตัวเองว่า อัยย์ เช่นกัน ชื่อเล่นของคนทั้งสองออกเสียงคล้ายกัน แต่เขียนไม่เหมือนกัน
(ทำไมคุณแม่ถึงได้ตั้งชื่อเล่นของพวกเราให้เหมือนกันนะ ... แต่ก็นะ แม่อาจจะคิดถึงเธอก็ได้... ดีแล้วละมีชื่อเล่นที่เหมือนกัน ฉันจะได้ไม่แทนตัวเองผิดไป เดียวคนสงสัยเอา เรื่องแบบนี้พูดไปใครจะเชื่อละ) ไอรดาคิดในใจ และเริ่มสงสัยในชื่อเล่นของตัวเองและอัยยะ เพราะที่เธอจำได้ในห่วงฝัน อัยยะ ก็แทนตัวเองว่า อัยย์ แต่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่แม่ของเธออาจจะคิดถึงลูกสาวอีกคนก็เป็นได้จึงทำให้ชื่อพวกเขาถูกเรียกเหมือนกัน
"ไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณอัยยะค่ะ นี้ก็ใกล้เวลาแล้ว" พยาบาลยังคงต้องการให้เธอนั่งรถเข็นเช่นเดิน ไอรดาจึงไม่คัดค้านอีกต่อไป เธอเดินไปยังรถเข็น และนั่งลงทันที
"ไปกันค่ะพี่พยาบาลคนสวย" ไอรดาพูดเล่นเหมือนเด็ก ท่าทางแจ่มใสเป็นพิเศษ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอทำให้พยาบาลรับรู้ได้ และรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
"วันนี้คุณอัยยะดูสดชื่นเป็นพิเศษนะคะ และดูแข็งแรงมากเลยค่ะ" พยาบาลกล่าวชมสุขภาพของคนไข้ที่เธอดูแล
"ค่ะ ต้องรีบหาย จะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ ไอซ์อยากออกจากที่นี่จะแย่อยู่แล้ว" เธอพูดถึงสิ่งที่เธอต้องการ
พยาบาลพูดคุยกับเธอไป เข็นรถเข็นไปตามทางเดิน ทั้งสองพูดคุยกันไปหัวเราะกันไปตามทาง เธอยิ้มหวาน ๆ ให้คนไข้ที่สวนทางกับเธอตลอดที่พยาบาลเข็นรถไป พยาบาลสังเกตเห็นก็รู้สึกดีไปด้วย
ไอรดา ถือเป็นผู้หญิงที่ใครอยู่ใกล้จะให้ความรู้สึกสบายใจ มีความสุข และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงที่มีกลิ่นหอมเหมือนดอกท้อยามผลิบาน โดยที่เธอไม่ต้องใส่น้ำหอมเลย เธอเป็นคนร่าเริง ช่างพูด และมีวาทศิลป์ในการพูดอันเป็นเลิศ ไม่งั้นจะเป็นผู้จัดการร้านและรับงานแทนคุณยายของเธอไม่ได้หรอก หากเธอไม่เจ๋งจริง
ช่วงที่รถเข็นถูกเข็นออกจากห้องพักฟื้น ชายหนุ่มยืนดูหญิงสาวที่ถูกพยาบาลเข็นรถอยู่ ลีอองทันเห็นว่า อัยยะยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริง แต่เขาไม่ได้ยินการพูดคุยของทั้งสอง ชายหนุ่มทำท่าทางสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นเขาก็เดินเข้าห้อง เพื่อรอฟังผลการตรวจจากทางโรงพยาบาล
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของอัยยะก็มาถึงโรงพยาบาล และเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นของลูกสาว
"คุณพ่อ งานที่บริษัทเรียบร้อยดีนะครับ?" ลีอองถามเจสัน พ่อตาของเขา
"อือ ... เรียบร้อยดี แล้วนี่น้องเป็นไงบ้างละ?" เจสันถามลีอองเกี่ยวกับอัยยะลูกสาวของเขา
"เธอเพิ่งถูกนำตัวไปที่แผนกตรวจซีทีสแกนเมื่อซักครู่นี้ครับ อีก 30 นาที น่าจะเสร็จครับ" ลีอองตอบกลับ
"งั้นพ่อว่าเราตามไปที่ห้องแผนกตรวจกันเถอะ" เจสันชวนลูกเขยตามไปดูสถานการณ์ของอัยยะ
"อือ ... ครับคุณพ่อ" ลีอองตอบตกลงพ่อตาของเขาที่จะไปดูอัยยะที่แผนกรังสีวิทยา
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปยังแผนกตรวจซีทีสแกน ด้านหน้าของแผนกมีเจ้าหน้าที่คอยพวกเขาอยู่แล้ว ส่วนแพทย์และพยาบาลที่ดูแลอัยยะ ยังคงอยู่ในห้องตรวจ
"สวัสดีค่ะ คุณเจสัน คุณลีออง เชิญนั่งรอด้านนี้เลยค่ะ" เจ้าหน้าที่ที่ดูแลแผนกรังสีวิทยา เชิญทั้งสองนั่งรอคนไข้ที่กำลังตรวจอยู่ภายในห้อง จากนั้นเธอก็เดินไปเตรียมน้ำดื่มมาให้ทั้งคู่
"ทั้งสองท่านเชิญดื่มน้ำก่อนค่ะ อีกสักครู่คนไข้ก็ออกมาแล้วละค่ะ" เจ้าหน้าที่บอกพวกเขาเกี่ยวกับเวลาที่พวกเขาต้องรอคนไข้
"ครับ ขอบคุณนะครับ" ลีอองกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับคำของคุณ เธอก็กลับไปยังจุดเดิมของเธอ
ทั้งสองคนรอไม่นานตามที่เจ้าหน้าที่บอกกล่าว หมอที่ดูแลอัยยะก็เปิดประตูออกมา พร้อมกับเดินตรงมายังชายทั้งสองคนที่นั่งรอฟังผลการตรวจอยู่
"สวัสดีครับคุณเจสัน คุณลีออง" หมอกล่าวทักทายคนทั้งสอง
"ครับ สวัสดีครับ"
"ครับ สวัสดีครับ" เจสัน และลีออง กล่าวทักทายกลับหมอพร้อมกัน
"เชิญคุณทั้งสองรอที่ห้องพักฟื้นก่อนนะครับ ผลการตรวจอีก 3 วันถึงจะออกครับ เดียวหมอตามไปครับ ส่วนคนไข้อีกสักครู่พยาบาลจะพาเธอไปส่งที่ห้องพักฟื้นครับ" หมอที่ดูแลอัยยะแจ้งให้ชายทั้งคู่ไปรอคนไข้ที่ห้องพักฟื้น
"ครับ ขอบคุณ คุณหมอมาก ๆ นะครับ" ลีอองกล่าวขอบคุณ คุณหมอ
"ผมก็ขอบคุณ คุณหมอมากเช่นกันครับ ที่คุณหมอช่วยยายอัยย์ ลูกสาวของผม ขอบคุณนะครับ" เจสันกล่าวขอบคุณหมอเช่นกัน
"ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมอทุกคนที่ต้องช่วยชีวิตคนไข้ครับ คุณอัยยะเป็นผู้หญิงที่น่ารัก เธอย่อมแคล้วคลาดปลอดภัยครับ" หมอที่ดูแลอัยยะกล่าวเป็นเชิงว่าคนดีสวรรค์ย่อมคุ้มครอง เทวดาย่อมรักษา พระเจ้าย่อมอวยพร เธอต้องปลอดภัย อะไรประมาณนี้
แต่ .... คำพูดของหมอมันทำให้ชายทั้งสอง หันหน้าไปมองกัน พร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ แบบฝืน ๆ ให้หมอ พร้อมตอบกลับหมอเป็นเชิงขอบคุณเช่นเดิม
"ครับคุณหมอ ... ถึงอย่างไรพวกเราก็ต้องขอบคุณ คุณหมอ ไม่อย่างงั้นลูกสาวของผมก็คงไม่รอดครับ" เจสันเป็นคนกล่าวคนแรกในรอบนี้ เพราะเขาเห็นหน้าตาของชายหนุ่มที่เป็นลูกเขยของเขารู้สึกกระอักกระอ่วนจากคำชมคนไข้ของหมอ
หลังจากที่ลีอองเห็นเจสันกล่าวขอบคุณหมอ เขาก็กล่าวขอบคุณหมอกลับเช่นกัน "ครับคุณหมอ ... ขอบคุณหมอมากครับ"
จากทั้งเจสัน และลีออง เห็นการกล่าวชมอัยยะว่าเป็นคนไข้ที่น่ารัก พวกเขาก็รู้สึกฝืน ๆ ในใจอย่างไรชอบกล เพราะจากที่พวกเขาทั้งคู่เป็นคนใกล้ชิดกับเธอมากที่สุด โดยชายคนแรกคือพ่อผู้ให้กำเนิดที่เขารู้จักลูกสาวของเขาเป็นอย่างดี
ส่วนชายคนที่สอง ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอ ถึงแม้เขาจะแต่งงานกับเธอยังไม่ถึง 2 ปีดีนัก ขาดอีกไม่กี่เดือนเท่านั้น เข้าก็คิดว่าตัวเองน่าจะรู้จักว่าผู้หญิงคนนี้ว่าเธอเป็นคนเช่นไร
แล้วนี่ หมอที่เพิ่งเห็นเธอไม่กี่วันเอง และส่วนใหญ่เธอก็ยังนอนหมดสติอยู่ และเพิ่งฟื้นมาเมื่อเช้านี้เอง หมอและพยาบาลได้พูดคุยกับเธอไม่กี่ชั่วโมงเอง ดังนั้นอย่าดูเพียงแค่สิ่งที่เห็นต่อหน้าเท่านั้น
จากนั้นหมอก็ขอตัวเพื่อไปติดตามผลการตรวจ ส่วนเจสัน และลีอองก็เดินกลับไปยังห้องพักฟื้นเพื่อรออัยยะ และรอฟังผลการตรวจของเธอ
หลังจากที่เจสัน และลีอองกลับถึงห้องพักฟื้นได้ไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก โดยมีอัยยะที่นั่งอยู่ในรถเข็น
เสียงใส ๆ ของหญิงสาวดังแว่วมาจากประตู "ว้าวววววว ... พี่มาลีสุดยอดเลยค่ะ งานดูแลคนไข้เป็นงานหนักน่าดูเลยนะคะ"
"ค่ะ ... ถึงห้องพักแล้วนะคะ อีกซักครูคุณหมอก็คงมา เพื่อแจ้งผลการตรวจของคุณนะคะ" พยาบาลตอบรับการพูดคุยของคนไข้สาวที่เธอดูแล พร้อมกับเข็นรถเข็นพาเธอเข้ามายังห้องพักฟื้นของเธอ
เมื่ออัยยะรู้ว่ามีคนอยู่ในห้องรอเธออยู่ จากที่เธอยิ้มแย้มกับนางพยาบาล ก็มีสีหน้าตกใจนิด ๆ แต่ก็กลับมายิ้มให้กับชายทั้งสองที่กำลังมองมายังเธอ จากนั้นเธอก็หันไปหาพยาบาล และพูดขอบคุณเธอที่ดูแลและพาเธอมาส่ง "ส่งไอซ์แค่ตรงนี้ก็พอค่ะ เดียวไอซ์เดินไปยังเตียงเองได้ค่ะ ขอบคุณพี่มาลีมากนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนค่ะ แค่เห็นคุณอัยยะหายดี พี่ก็ดีใจแล้วละค่ะ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ" พยาบาลกล่าวลาอัยยะ จากนั้นพยาบาลก็มองไปยังชายทั้งสองที่กำลังมองมายังพวกเธอ
พยาบาลยิ้มให้ชายทั้งสอง และกล่าวลาคนที่อยู่ในห้องพักฟื้น "ขอตัวก่อนนะคะคุณเจสัน คุณลีออง เดี๋ยวคุณหมอก็มาค่ะ ... พี่ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวถึงเวลาพี่จะมาตรวจอีกครั้ง"
เมื่อพยาบาลออกจากห้องไป เจสันก็ยิ้มให้ลูกสาว ส่วนลีอองยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ยิ้มอะไร ไอรดาเห็นชายทั้งสองก็รู้ว่าเจสันคือใคร เธอยิ้มตอบเจสัน และกล่าวทักทายพ่อของเธอ "พะ พ่อค่ะ" เธอกล่าวสั้น ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดีเพราะเธอยังไม่คุ้นกับการที่มีพ่อในสถานการณ์แบบนี้
ส่วนผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างพ่อของ เธอมองไปยังเขา เห็นสีหน้าของเขาที่เรียบเฉย เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรกับเขา และไม่ได้ยิ้มให้เขาเช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่ได้ยิ้มให้เธอ
ไอรดาเดินไปยังเตียงของเธอ พ่อของเธอก็เดินตามเธอโดยมีลีอองเดินตามมาด้วย พ่อของเธอถามเกี่ยวกับอาการของเธอ เมื่อเธอนั่งลงที่เตียง
"เป็นไงบ้างลูก? มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า?" เจสัน ถามลูกสาว
"ไอซ์สบายดีค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้ว พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" เธอตอบกลับผู้เป็นพ่อ เจสัน มองลูกสาวแปลก ๆ แต่ก็ยิ้มให้กับเธอ
"เอ่อ .. ไม่เป็นไรก็ดีแล้วละ" เจสันบอกลูกสาวของเขา
"พ่อนั่งก่อนค่ะ เดียวคุณหมอก็มาแล้ว" ไอรดาเห็นพ่อของเธอยืน ไม่ยอมนั่งสักที เธอจึงบอกให้เขานั่ง แต่ไม่ได้บอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างพ่อของเธอนั่งลงด้วย แถมเธอยังไม่มองเขาด้วยซ้ำ
เธอยังพูดไม่ทันขาดคำ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น คุณหมอเจ้าของไข้ที่ดูแลอัยยะก็เดินเข้ามา เพื่อชี้แจงการดูแลตัวเองหลังจากทำทีซีสแกน
