3
3
“คุณลุงเมื่อคืนนี่นา”
คำว่า ลุง เรียกเบา ๆ ก็เจ็บ เวทนถึงกับเหวอเล็กน้อยที่เด็กสาวเรียกเขาว่าลุง
“คุยกันหน่อยไหม” เขามองสภาพของเธอที่ยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมแล้วเอ่ยขึ้น
“คุยเรื่องอะไรคะ เรื่องเมื่อคืนเหรอ”
“อืม...” เขาครางรับมองใบหน้าสวนใสของเธอไม่วางตา แม้เธอจะไม่ได้แต่งหน้าก็ดูน่ามองกว่าสาวๆ หลายคน
ใจของเวทนสั่นระริกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันเต้นกระหน่ำเพียงแค่ได้เห็นหน้าสาวน้อยน่ารัก
“หนูต้องขอบคุณที่คุณลุงช่วยหนูเอาไว้จากผู้ชายเมื่อคืน หนูไม่เรียกร้องอะไรจากคุณลุงหรอกค่ะ”
“หือ...” เขาครางออกมาเหมือนตัวเองหูฝาดไป
เมื่อบอกสิ่งที่คิดออกไปแล้วเธอก็หมุนกายเตรียมหนี แต่เขาก็รีบรั้งเธอเอาไว้ด้วยประโยคชวนกินข้าว
“ฉันหิวข้าว ไปกินข้าวด้วยกันไหม ร้านนี้อร่อยนะ ฉันมากินบ่อย”
“เอ่อ...” เธออึกอัก อาหารในร้านราคาค่อนข้างแพง เธอไม่มีปัญญาจ่ายแน่ ได้ทิปมาแค่หลักร้อย เธอคิดว่าจะไปหาข้าวแกงข้างทางกิน
“ไปเถอะ ถ้าไม่ไปฉันจะถือว่าเธอรังเกียจฉัน”
“หนูไม่มีตังค์จ่ายค่าอาหารหรอกค่ะ ร้านนี้แพงมาก หนูเพิ่งไปส่งของให้เขามาเอง เลยรู้ว่าอาหารราคาขั้นต่ำจานนึงหลายร้อย หนูมีเงินอยู่แค่ร้อยเดียวเอง” เธอดึงเงินจากกระเป๋ามาแบให้เขาดู ก่อนจะทำตาปริบ ๆ
“ฉันเลี้ยงเอง มาสิ” เขาแตะแขนของเธอ ทำให้หยาดรัศมีสะดุ้ง
“อุ๊ย!”
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอรับคำยอมเดินตามเขาเข้าไปในร้านแต่โดยดี
“สั่งสิ ฉันบอกว่าจะเลี้ยงก็จะเลี้ยง ไม่ให้เธอต้องจ่ายเงินเองแน่นอน”
“หนูกินได้ใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ รู้สึกเกรงใจเขาพอสมควร
“กินได้สิ กินได้ทุกอย่างเลย” เขาเอ่ยออกมาด้วยความเอ็นดู ท่าทีเกรงอกเกรงใจของเธอนั้น มันดูไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แต่เกรงใจจริงๆ เขาเป็นผู้บริหาร เจอคนมามาก รู้ว่าใครดีใครไม่ดี ใครเสแสร้งใครจริงใจ
“ขอบคุณนะคะ หนูหิวมาก ๆ เลยค่ะ” เธอยกมือไหว้เขา แต่ก็สั่งอาหารไปอย่างเกรงใจเหมือนเดิม เขาเลยเป็นคนสั่งมาให้แทน
“สั่งมาเต็มโต๊ะเลย หนูกินไม่หมดหรอกนะคะ ถ้าเหลือก็เสียดายแย่เลย” เธอมองแล้วตาโต
“เอาไปฝากคนที่บ้านสิ”
“คนที่บ้านเหรอคะ ไม่มีใครอยากกินหรอกค่ะ”
“ว่าอะไรนะ” เขาเอ่ยถามเพราะไม่ได้ยินว่าเธอพูดว่าอะไร
“เปล่าค่ะ หนูแค่จะบอกว่าหนูเกรงใจคุณลุงน่ะค่ะ คุณลุงเลี้ยงข้าวหนูแล้ว ยังจะให้หนูเอากลับไปให้คนที่บ้านกินอีก หนูว่าคุณลุงเอากลับไปให้คนที่บ้านคุณลุงจะดีกว่าค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก แล้วเรื่องของเรา”
“เรื่องของเราหนูผิดเองค่ะที่ทำให้คุณลุงต้องเดือดร้อน หนูต้องขอบคุณคุณลุงเสียด้วยซ้ำ เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ แต่ถ้าหนูต้องตกไปเป็นเมียของหมอนั่น หนูคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น” เธอเขี่ยข้าวในจานไปมา มันอร่อยแหละ แต่พอคิดถึงเอกวิทย์ก็ทำให้เธอกลืนข้าวไม่ลง รู้สึกขยะแขยงเป็นที่สุด
“ไม่รับผิดชอบก็ไม่รับผิดชอบ แต่นี่นามบัตรของฉัน ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็โทร. หาฉันได้เลยนะ” เขาหยิบนามบัตรส่งให้เด็กสาว เธอก็รีบยกมือไหว้รับไปใส่กระเป๋าเอาไว้
ถึงจะเสียตัวให้เขา แต่เขาก็คือผู้มีพระคุณ แถมยังพามาเลี้ยงข้าวอีก เขาดูใจดีจัง เธอมองหน้าเขาแล้วหลบสายตา คืนนั้นจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ถ้าเธอโชคร้ายตกไปเป็นของเอกวิทย์ เธอจะต้องไปเป็นนางบำเรอหมอนั่น ดีไม่ดีทำอะไรไม่ถูกใจโดนซ้อมโดนทำร้ายร่างกาย เพราะเคยเห็นเขาทำกับผู้หญิงคนอื่นมาแล้ว แค่คิดก็รู้สึกกลัวจนขนลุกไปหมด
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เวทนเอ่ยถามเด็กสาวที่มีสีหน้าซีดเผือด
“หนูก็แค่คิดว่าหากเมื่อคืนคุณลุงไม่ช่วยหนู หนูต้องตกไปเป็นของหมอนั่น หนูคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น”
“ขนาดนั้นเชียวหรือ”
“ยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ หมอนั่นชอบทำร้ายผู้หญิง และหนูไม่อยากเป็นของเล่นของใคร” เธอตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ทำให้เวทนต้องยื่นมือเข้าไปกุมหลังมือเธอเอาไว้ นั่นทำให้หยาดรัศมีสะดุ้งสุดตัว รีบดึงมือหนี
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ กินข้าวเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้าน ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทร.หาฉันได้ตลอดเลยนะ” เขาเอ่ยออกมา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ถูกชะตากับเด็กสาวนัก
หลังรับประทานอาหารเสร็จ เขาก็ขับรถตามเธอไปเพื่อไปส่งเธอที่บ้าน
เธอจอดมอเตอร์ไซค์และยกมือไหว้เขา เขาจึงเปิดกระจกพูดคุยกับเธอ
“ฉันไปก่อนนะ”
“ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับอาหารแสนอร่อย” เธอไหว้เขาอีกครั้ง เวทนจึงปิดกระจกสั่งให้เมฆออกรถ
“บอสครับ”
“ว่าไง”
“ให้เงินหล่อนไปแล้วเหรอครับ”
“ยัง”
“อ้าว”
“นายอ้าวทำไม”
“ผมคิดว่าเขาจะเจรจาเรียกค่าเสียหายซะอีกน่ะครับ” เมฆเอ่ยถามด้วยความงุนงง ไม่มีผู้หญิงที่ไหน นอนกับบอสของเขาแล้วไม่ต้องการเงิน
“ไม่เรียกร้องเงินสักบาท แถมยังขอบใจฉันอีก”
“เป็นไปได้เหรอครับ” เมฆพูดเหมือนไม่เชื่อ
“อะไรที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้”
“ก็ผู้หญิงที่ไม่ต้องการเงินจากบอสไงครับ”
“เพิ่งเจอคนนี้คนแรก เขาขอบอกขอบใจฉันเสียยกใหญ่ที่ช่วยเขาให้รอดจากหมอนั่น”
“แต่ก็ไม่รอดจากบอสนะครับ”
“นายจะย้ำอะไรนักหนา” คนพูดเผลอยิ้มออกมา เมฆเองมองผ่านกระจกมองหลังแล้วยิ้มตาม
“ถ้าเสนอเงินไป เธออาจจะรับก็ได้นะครับ”
“เธอรีบบอกว่าไม่ต้องรับผิดชอบ ขืนเสนอเงินไปให้ เขาได้หาว่าเอาเงินฟาดหัวเขาสิ ต้องรอดูไปก่อน ฉันไม่อยากทำให้เขาโกรธ
“เหรอครับ”
“นายยิ้มอะไรเมฆ”
“ผมเห็นบอสยิ้มก็เลยยิ้มตามครับ บอสชอบเธอเหรอครับ”
“อะไรกัน ฉัน...” พูดได้แค่นั้นก็ทำเอาเวทนนิ่งอึ้งไป เขาเองไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มานานแล้ว
ไม่หรอก เขาคงไม่หลงรักสาวน้อยคนนั้นหรอกนะ
“ขับรถของนายไปเถอะ พูดมากเสียจริง” เวทนหันไปทำเสียงดุใส่ เมฆเลยเงียบปากเสีย
ทางด้านหยาดรัศมี พอกลับมาถึงบ้านก็ได้ยินเสียงกระแนะกระแหนจากผู้เป็นป้าในทันที
“กลับมาแล้วเหรอย่ะ แกไปส่งผักกับผลไม้ถึงดาวอังคารหรือไง ถึงโผล่หน้ามาป่านนี้ ฉันหิวข้าวแล้วนะ ไปทำกับข้าวให้กินหน่อย งานบ้านเยอะแยะไปหมด แกไม่คิดจะช่วยทำบ้างหรือไงห้ะ”
“ปรางก็ว่าง ทำไมไม่ให้ปรางช่วยทำงานบ้านล่ะคะ” หยาดรัศมีเห็นว่าน้องสาวกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ก็เอ่ยขึ้น
“หน้าที่แก ไม่ใช่หน้าที่ลูกฉัน”
“วัน ๆ ไม่เห็นปรางทำอะไรเลย นอกจากเล่นโทรศัพท์ ต่อไปจะทำอะไรไม่เป็นเอานะคะ”