ความอดทนที่หมดสิ้น
ตอนที่ 4
ความอดทนที่หมดสิ้น
ครองภพรู้สึกแปลกใจที่ติดต่อภรรยาไม่ได้เลย เขาเป็นห่วงมากแต่ถึงอย่างนั้นก็ปลีกตัวกลับมาที่บ้านไม่ได้เพิ่งจะมีเวลาว่างจึงได้รีบขับรถมาทันที เมื่อมาถึงก็พบว่าบ้านนั้นถูกปิดอยู่ เข้ามาด้านในก็ไม่เจอลูกกับภรรยา
ชายหนุ่มนึกสังหรณ์ใจ เขาพยายามติดต่อหาเธออีกครั้งแต่ก็เปล่าประโยชน์
ขณะที่ครองภพกำลังเดินหากชกรอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา ชายหนุ่มเดินออกมาหน้าบ้าน ก่อนจะเห็นภรรยาอุ้มลูกลงมาจากรถ ทั้งสองคนดูอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
“คุณไปไหนมา ทำไมผมติดต่อไม่ได้เลย”
ปกติแล้วเธอมักจะเอ่ยทักทายเขาทุกครั้งที่พบหน้า แต่วันนี้กลับมีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไป หญิงสาวนิ่งจนน่ากลัว เธอไม่ตอบคำถามชายหนุ่มแต่เลือกที่จะเดินผ่านเขาเข้าไปด้านใน
เด็กน้อยนั่งอยู่ที่โซฟาก่อนตัวเองกายนอน คนเป็นพ่อไม่รอช้ารีบเข้าไปดูอาการลูกทันที
“เกิดอะไรขึ้น แล้วไปไหนกันมา”
ชายหนุ่มเริ่มรู้แล้วว่าตอนนี้หญิงสาวนั้นน่าจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง แต่เพราะกชกรไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเขาจึงเดาไม่ถูกว่าเธอนั้นโกรธเรื่องอะไร
“เพิ่งกลับจากโรงพยาบาลค่ะ”
คนตอบน้ำเสียงเธอดูราบเรียบผิดปกติ หญิงสาวไม่แม้แต่จะมองหน้าสามี เธอนำของขึ้นไปเก็บด้านบนก่อนจะกลับลงมาพร้อมกับถุงใส่ยา
“แล้วลูกเป็นอะไรทำไมต้องไปโรงพยาบาล แล้วทำไมไม่เห็นบอกอะไรผมเลย”
หญิงสาวสบตาสามี ก่อนที่เธอนั้นจะเอ่ยกับเขา
“ฉันพยายามโทรหาคุณ นับตั้งแต่วันที่คุณไปอยู่คอนโด ฉันก็พยายามโทรมาตลอด วันที่ลูกป่วยเกือบตายฉันก็พยายามติดต่อคุณเป็นร้อยสาย”
เธอพยายามแล้ว พยายามมาตลอด พยายามทุกสิ่งทุกอย่างแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยมองเห็น ความพยายามนั้นเลย ครองภพพยายามนึกว่าในวันนั้นเขากำลังทำอะไรอยู่ถึงไม่ได้รับโทรศัพท์หญิงสาว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังสังสรรค์เนื่องจากได้ผู้ลงทุนใหม่เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“ผมขอโทษ วันนั้นผมพานักลงทุนไปเลี้ยงสังสรรค์”
หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ ที่ผ่านมาเธอพยายามอดทนตลอด ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอนั้นรู้สึกแย่หรือเสียใจก็พยายามกล้ำกลืนฝืนทน แต่วันนี้เธอเก็บไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกต่างๆมันควรจะถูกพรั่งพรูออกมาเสียที
“ฉันพยายามติดต่อหาคุณ คุณรู้ไหมว่าฉันกลัวมากแค่ไหนตอนที่ลูกอาการแย่ลงเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่กลางทะเล เคว้งคว้างอยู่คนเดียว”
ในหัวใจของเธอกำลังเปรียบครองภพเหมือนอยู่บนเรือสำราญที่ห้อมล้อมไปด้วยความหรูหราและผู้คน ขณะที่เธอนั้นอยู่บนขอนไม้กลางทะเลที่มืดมิด หญิงสาวพยายามไขว่คว้าหาทางรอด พยายามอย่างถึงที่สุดแต่แล้วเธอก็เหมือนกับจมลงไปใต้ก้นทะเลลึกเรื่อยๆ
กชกรไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างและหนาวเหน็บในใจมากเท่านี้มาก่อน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนนั้นชายหนุ่มไปทำอะไรมาบ้าง ขณะที่เธอกำลังร้อนใจเพราะลูกป่วย แต่เขากลับมีความสุขอยู่ท่ามกลางแสงสีและเสียงเพลง
กชกรรู้สึกเจ็บปวดใจ ความมั่นคงในชีวิตภายใต้การดูแลของครองภพเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ที่ผ่านมาเขาจะทอดทิ้งเธอยังไงก็ได้ จะย่ำยีศักดิ์ศรีเธอยังไงก็ได้ แต่เขาไม่ควรที่จะเมินเฉยต่อลูกซึ่งเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียว
กชกรผิดหวังและเสียใจ ไม่คิดเลยว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะเลือกงานมากกว่าลูก
“คุณรู้ไหม ลูกอาเจียนออกมาไม่หยุด ลูกร้องหาคุณ ฉันก็พยายามติดต่อคุณอย่างสุดความสามารถ แต่ฉันไม่รู้จักใครรอบตัวคุณเลย เพราะคุณไม่อนุญาตให้ฉันรู้จัก ฉันพยายามแล้ว พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่รู้สึกว่าความพยายามของฉันมันจะสูญเปล่าลงไปเรื่อยๆ”
ความอัดอั้นตันใจตลอดหลายปีถูกเปิดเผย กชกรต้องทนอยู่ในเงามืด เธอไม่สามารถมีชีวิตครอบครัวที่เหมือนกับคนอื่นได้ เพียงเพราะว่าต้องการให้สามีนั้นก้าวหน้า และสถานะโสดของเขาก็เป็นอีกหนึ่งใบเบิกทางที่ทำให้ถูกจับตามองจากสื่อ มีนักลงทุนทั้งไฮโซรวมทั้งแม่หม้ายมาติดพันครองภพหลายคน เรื่องนี้กชกรเองก็รับรู้มาตลอด ในใจเธอจะสั่นคลอนมากแค่ไหนแต่ก็ทำได้แค่อดทน
“ฉันทนอยู่กับอะไรแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีคุณค่า ฉันเหนื่อยที่ต้องมานั่งหลบๆซ่อนๆ เวลาเพื่อนคุณมา ฉันก็ต้องขึ้นไปแอบอยู่บนห้อง ต้องทำทุกอย่างไม่ให้ลูกร้องเสียงดัง ทำทุกอย่างเพื่อเก็บซ่อนความลับของคุณให้มันเป็นความลับต่อไป”
ครองภพไม่เคยคิดจะบอกใครว่าตัวเขามีภรรยาและลูกแล้ว มันไม่ใช่แค่เพียงนั้น เขาถึงขั้นให้เธอนั้นหลบซ่อนตัวเวลามีแขกคนสำคัญมาบ้าน เรื่องนี้ หญิงสาวไม่เคยรับได้ แต่เพราะเธอรักเขามากจึงพยายามอดทนมาโดยตลอด โดยหวังว่าเขานั้นจะรู้สึกสงสารและเวทนาเธอในสักวัน
กชกรยิ่งอดทนเขาก็ยิ่งได้ใจ ครองภพเริ่มไม่เห็นความสำคัญของภรรยาคนนี้ เพราะหันกลับมาเมื่อไหร่ก็เจอเธอเขาจึงเลือกที่จะเดินหน้าไปโดยไม่คิดที่จะจับจูงเธอและลูกไปด้วย