ความอดทนที่หมดสิ้น(2)
กชกรยิ่งอดทนเขาก็ยิ่งได้ใจ ครองภพเริ่มไม่เห็นความสำคัญของภรรยาคนนี้ เพราะหันกลับมาเมื่อไหร่ก็เจอเธอเขาจึงเลือกที่จะเดินหน้าไปโดยไม่คิดที่จะจับจูงเธอและลูกไปด้วย
“เราเลิกกันเถอะค่ะ ฉันไม่อยากรู้สึกเวทนาตัวเองไปมากกว่านี้ ไม่อยากสมเพชตัวเองไปมากกว่านี้”
ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาไม่มีทางปล่อยเธอไปเด็ดขาด แม้ว่าการกระทำของเขานั้นจัดสร้าง ความเจ็บปวดให้กับหญิงสาว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รักเธอ ผ่านมาเขาก็พยายามดูแลกชกรและลูกอย่างเต็มที่ ไม่เคยปัดความรับผิดชอบไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
“ฟังผมก่อนได้ไหม”
“ฉันรู้ว่าคุณรักชีวิตอิสระมาก คุณหวง ความโสดของคุณเพราะมันเป็นสิ่งที่มีมูลค่า ฉันเข้าใจค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากคืนชีวิตให้กับคุณ”
กชกรตั้งใจจะเดินจากไปแต่ครองภพรั้งหญิงสาวเอาไว้ด้วยการโอบกอดเธอแนบแน่น หากเป็นเมื่อก่อนกชกรก็คงจะใจอ่อนอย่างง่ายดาย แต่ในเวลานี้เธอไม่หลงเหลืออะไรที่จะเหนี่ยวรั้งไว้อีกแล้ว
หญิงสาวสูญเสียและสูญสิ้นทุกอย่าง ทั้ง ความไว้ใจ ความเชื่อใจ แม้จะเหลือเพียงความรักก็ไม่อาจรั้งเธอไว้ได้แล้ว
“เราต่างคนต่างไปเถอะค่ะ คุณลองกลับไปคิดทบทวนตัวเองดูว่าคุณยังต้องการฉันกับลูกหรือเปล่า บางทีคุณอาจจะมีความสุขมากขึ้นหากเราสองแม่ลูกไปจากชีวิตคุณ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นก่อนที่เธอจะค่อยๆแกะมือชายหนุ่มออก ครองภพไร้เรี่ยวเเรง เขาได้แต่มองกชกรเดินจากไปพร้อมลูกสาว ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา
ครองภพไม่มีแม้แต่เวลาที่จะง้องอนภรรยา เขาถูกโทรตามให้ไปกับประชุมกระทันหันเนื่องจากผู้ลงทุนนั้นต้องการให้เขานำเสนอเเผนงาน ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกเพราะงานก็สำคัญกับเขามากจริงๆ จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปโดยไม่รู้เลยว่าภรรยานั้นแอบมองอยู่
กชกรเห็นว่าครองภพเลือกแล้ว สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขไม่ใช่เธอกับลูกแต่เป็นงาน หญิงสาวไม่อยากอยู่เป็นตัวถ่วงในชีวิตชายหนุ่มอีกต่อไปเธอจึงได้ตัดสินใจเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น
กชกรเดินทางมาที่บ้านของคณิณและสายสมร เธอกราบที่ตักของคนทั้งสองก่อนจะเอ่ยขอโทษที่ ไม่สามารถรักษาชีวิตคู่เอาไว้ได้ ชายวัยกลางคนและหญิงวัยกลางคนรู้สึกใจหายไม่น้อย จากนี้ทั้งสองคงจะหมดโอกาสที่จะได้เจอหน้าหลานสาวทุกวัน
“หนูขอโทษนะคะคุณพ่อคุณแม่ หนูพยายามแล้วจริงๆ พยายามอดทนมาตลอดแต่หนูก็ทนไม่ได้”
สายสมรเข้าใจดี แม้จะไม่อยากให้ทุกอย่างลงเอยแบบนี้ แต่เธอก็ไม่อยากรั้งหญิงสาวเอาไว้ กชกรอดทนและเสียสละมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเสียที
“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ แม่ไม่โกรธเธอ แม่เข้าใจดีว่าเธอรู้สึกยังไง หากจะโทษใครสักคนก็คงต้องโทษลูกชายแม่ที่ไม่มีความชัดเจนอะไรเลยสักอย่าง”
สายสมรเคยเตือนลูกชายหลายครั้งแล้ว เธอรู้ดีว่าอย่างไรเสียวันนี้ก็ต้องมาถึง ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนอยู่ในเงามืดตลอดไปได้
“หนูจะพาน้องครีมกลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ”
หญิงสาวรับปากว่าเธอนั้นจะเดินทางมาเยี่ยมทั้งสองทุกครั้งที่มีโอกาส คณิณโอบกอดหลานสาว ตัวน้อย เขารักและเอ็นดูเด็กหญิงเป็นอย่างมากจึงรู้สึกใจหายเพราะหลังจากนี้คงจะพบเจอกันยากขึ้น
ชายวัยกลางคนหยิบกระเป๋าเงินออกมา ก่อนจะยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้กับอดีตลูกสะใภ้
“เก็บไว้ใช้จ่ายนะ ขัดสนยังไงติดต่อมาได้”
ปกติแล้วหญิงสาวมักจะไม่ปฏิเสธ แต่ครั้งนี้เธอกลับไม่ยอมรับเงินจำนวนนี้เอาไว้ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาครองภพให้เงินเธอไว้ใช้จ่ายทุกเดือน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใช้อะไรมากมาย จึงมีเงินมากพอที่จะใช้ไปได้อีกหลายปี
“หนูขอไม่รับไว้นะคะคุณพ่อ หนูเกรงใจจริงๆ ระวังหนูกับคุณภพ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว หนูเลยคิดว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าหนูจะรับเงินจำนวนนี้”
เธอไม่อยากให้เขามารู้ทีหลังและมองว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แม้แต่วันสุดท้ายในชีวิตคู่ก็ยังเอาแต่กอบโกย
“เอาเถอะ ถ้าลำบากก็กลับมาได้เสมอ ที่นี่ยินดีต้อนรับเธอกับลูกนะ”
หญิงวัยกลางคนเอ่ย เธอรู้สึกเสียดายผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้มาจากตระกูลที่ดีหรือมีชื่อเสียง แต่เธอกลับรู้สึกว่ากชกรคือคนที่เหมาะสมกับครองภพมากที่สุด
“หนูกราบลาเลยนะคะคุณพ่อคุณแม่ น้องครีมสวัสดีคุณย่ากับคุณปู่สิลูก”
หญิงสาวเอ่ยขึ้น ก่อนที่เด็กหญิงตัวน้อยจะค่อยๆก้มศีรษะและย่อเข่าลงช้าๆ สองหญิงชายวัยกลางคนถึงกับน้ำตาท่วม มองดูหลานสาวที่เดินจากไปพร้อมลูกสะใภ้คนโปรด
“สงสารกชกร ไม่รู้ทำไมลูกชายของเราถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
ครองภพบ้างานเกินไป เขามุ่งมั่นอยากเอาชนะจนลืมคนที่อยู่ข้างหลัง ในวันที่ลำบากและเหนื่อยล้ามีเพียงกชกรที่คอยปลอบโยนและปลอบใจ แต่ในวันที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิตกับเลือกที่จะทอดทิ้งเธอให้จมอยู่กับความทุกข์เพียงลำพัง
สายสมรรู้สึกโกรธเคืองลูกชาย แต่คณิณกลับไม่คิดแบบนั้น เขาเชื่อว่าครองภพต้องมีเหตุผลใน การกระทำ อย่างไรเสียเขาก็อยากให้ภรรยาฟังคำอธิบายของลูกชายก่อน ไม่ใช่ตีโพยตีพายต่อว่าอีกฝ่าย เพราะเขาเชื่อว่าครองภพเองก็คงรู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน