03 อยากช่วย
ณัชชา Talk
ร้านอาหาร....
"สวัสดีหนุ่มน้อย" ฉันเดินเข้าไปทักทายหนุ่มน้อยที่กำลังนั่งเล่นของเล่นของตัวเองอยู่ เด็กน้อยคนนี้เป็นลูกของแทน เด็กในร้านฉันเนี่ยแหละ
"...."
"ฉันพูดด้วยไม่ได้ยินหรอ?"
"ได้ยินครับแต่พ่อแทนบอกว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้า"
"แต่ฉันไม่ใช่คนแปลกหน้านะ ฉันเป็นเจ้านายของพ่อเรานะหนุ่มน้อย ฉันเป็นเจ้าของที่นี่"
"....." แกหันกลับมามองฉันอีกครั้ง ก่อนจะขมวดคิ้วทำท่าทางเหมือนกับว่ามีอะไรจะคุยกับฉัน "ป้าเป็นเจ้านายของพ่อแทนหรอครับ"
"ปะ ป้าเลยหรอ?"
"ครับ คุณป้า"
"....."
อยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลงเหมือนกันเด็กคนนี้ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แค่รู้สึกเหมือนโดนเอาไม้หน้าสามตีหน้าแล้วราดด้วยแอลกอฮอล์ ฉันยังไม่แก่สักหน่อย อายุยังไม่สามสิบเลย แต่เด็กคนนี้ก็เรียกถูกแล้วล่ะเพราะฉันแก่กว่าพ่อของแก
"แล้วนี่มานั่งรอพ่อตรงนี้ทุกวันเลยหรอ?"
"ครับ ผมอยากอยู่กับพ่อไม่อยากไปที่อื่น"
"งั้นป้าขอนั่งเล่นด้วยได้ไหม"
"ได้ครับ"
"ชื่ออะไรหรอ?"
"ชื่อทิวครับ"
"น้องทิว"
"ไม่ครับ ผมไม่ใช่น้องผมคือพี่ทิว"
"อ่าครับๆ พี่ทิว" ดูแก่แดดจริงๆ เลยเด็กคนนี้
ฉันไม่ได้ถามอะไรต่อได้แต่นั่งมองเด็กน้อยนั่งเล่นตามประสาของแก จะว่าไปแกก็ดูไม่ดื้ออะไรเลยนะ ถ้าเทียบกับเด็กในรุ่นเดียวกัน แกดูเรียบร้อยมากเลย
"พี่ทิวอายุเท่าไหร่ครับ"
"หกขวบครับ"
"หกขวบ" ฉันตกใจอยู่นิดๆ เพราะถ้าเด็กคนนี้หกขวบแล้วแทนอายุยี่สิบสี่แสดงว่าเขาก็ต้องมีลูกตอนอายุสิบแปดน่ะสิ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก แทนคงจะดูแลเด็กคนนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยสินะ
"แล้วพี่ทิวไม่อยากไปเล่นกับเพื่อนๆ หรอครับ"
"ตอนที่อยู่โรงเรียนก็ได้เล่นกับเพื่อนๆ แล้วครับ"
"แล้วเราไม่ง่วงนอนหรอมานั่งรอพ่อแบบนี้อ่ะ"
"ง่วงครับ"
"อยากไปเล่นในห้องของป้าไหม"
"ไม่ครับ พ่อแทนบอกว่าให้นั่งรออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนจนกว่าพ่อจะเลิกงานครับ"
"แต่ตรงนี้ยุงมันเยอะนะ ในห้องของป้ามีแอร์ด้วยมีทีวีดูด้วยนะ"
"...." แกมีท่าทีดูสนอกสนใจ ก็ตามประสาเด็กนั่นแหละ แต่ดูแกจะเชื่อฟังคนเป็นพ่อมากอยู่พอตัวเลย
"พี่ทิว คุณณัชชามาทำอะไรตรงนี้ครับ?"
"ฉันมานั่งเป็นเพื่อนลูกชายของนายน่ะ"
"...."
"ไม่ต้องห่วงหรอกฉันไม่ใช่พวกแม่มดใจร้ายที่ชอบทำร้ายเด็กหรอก ฉันก็แค่เห็นลูกชายของนายนั่งเล่นอยู่คนเดียวก็เลยมานั่งเป็นเพื่อน"
"พี่ทิวครับหิวหรือเปล่า?" แทนมองหน้าของฉันแต่ไม่ได้ตอบอะไรแล้วหันไปพูดกับลูกชายแทน เหอะ! เข้าใจเลยเด็กคนนี้ เย็นชาซะไม่มี
"ไม่หิวครับ"
"เดี๋ยวก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วรออีกนิดนะครับ"
"นี่นาย"
"ครับคุณณัชชา"
"ฉันจะชวนลูกชายของนายไปดูทีวีที่ห้องทำงานของฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งตากยุงอยู่ตรงนี้ ถ้านายเลิกงานแล้วนายก็ค่อยไปรับลูกชายของนายที่ห้องของฉัน"
"มันจะเป็นการรบกวนคุณณัชชาเปล่าๆ ครับ"
"รบกวนตรงไหน ดีซะอีกฉันจะได้มีเพื่อนนั่งเล่น"
"...."
"นี่นายคิดว่าฉันจะทำอะไรลูกชายของนายห๊ะ ฉันดูน่ากลัว ดูเป็นคนไม่ดีขนาดนั้นเลยรึไง"
"เปล่าครับ"
"จิ๊..."
"พี่ทิวครับ ไปอยู่กับคุณณัชชาก่อนนะครับ เลิกงานแล้วเดี๋ยวพ่อไปรับ"
"ครับพ่อแทน"
ฉันพาเด็กน้อยไปที่ห้องทำงานของฉัน พ่อกับลูกเนี่ยนิสัยคล้ายกันเลยนะ พูดน้อย สงสัยกลัวดอกพิกุลร่วงออกจากปากกันมั้งเนี่ย
เวลาผ่านไป
ก๊อกๆๆๆ
"ขออนุญาตครับ อ่าว หลับไปซะละ"
"ปล่อยให้ลูกนายนอนไปก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายสักสิบนาที"
"ครับ"
"ตามฉันมา"
"คุณณัชชามีอะไรกับผมหรอครับ"
"ฉันจะช่วยนายหาพี่เลี้ยงให้ลูกชายของนายเอาไหม"
"ไม่เป็นไรครับ"
"แล้วนายจะพาลูกของนายมาทำงานแบบนี้ด้วยทุกวันเลยอย่างนั้นหรอ นายไม่ห่วงสุขภาพของลูกหรอ"
"ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะครับ แต่นี่เป็นเรื่องของผมผมจัดการเองจะดีกว่า ไม่รบกวนคุณณัชชาหรอกครับ"
"รบกวนตรงไหน?"
"เรื่องนี้ผมจะจัดการเองครับ ขอบคุณนะครับ ผมขอตัวกลับก่อน"
"เดี๋ยวสิ..."
"ครับ?"
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"เราสองคนพ่อลูกมีรถมาครับกลับกันเองได้"
"แต่พี่ทิวหลับไปแล้วนะจะเอากลับยังไง"
"ปลุกแกก่อนก็ได้ครับถึงบ้านแล้วค่อยนอนต่อ"
"...."
"ขอตัวนะครับ สวัสดีครับคุณณัชชา"
ให้ตายสินี่ฉันโดนปฏิเสธเป็นครั้งที่สองเหรอเนี่ย ผู้ชายอะไรใจแข็งชะมัดเลย รับความหวังดีจากคนอื่น แต่ไม่ยอมให้คนอื่นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
ฉันสะบัดความคิดบ้าๆ บอๆ ออกจากหัวของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไป ซึ่งสองพ่อลูกก็พากันจูงมือออกมาพอดีเหมือนกัน
"แทน..."
"ครับ..."
"ลองเอากลับไปคิดดูนะ ที่ฉันช่วยเพราะฉันอยากช่วยและก็ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน ผู้จัดการบอกว่านายเป็นคนขยันทำงาน ฉันก็แค่ไม่อยากเสียลูกน้องดีๆ ไป
"ขอบคุณนะครับแล้วผมจะเอากลับไปคิดดู"
"พี่ทิวครับ..."
"อือคุณป้า..."
"เอ่อ...พี่ทิวครับอย่าเรียกคุณป้า นี่คุณณัชชาครับ"
"ไม่เป็นอะไรหรอก แกก็เรียกถูกแล้วล่ะ นายเด็กกว่าฉัน ลูกชายของนายจะเรียกฉันว่าป้าก็ไม่แปลก"
"ถ้าอย่างนั้นเราสองคนขอตัวกลับกันก่อนนะครับ"
"อื้ม..."
ทีแรกฉันก็ไม่ค่อยได้แวะเข้ามาในร้านนี้บ่อยๆ หรอกนะ เพราะฉันต้องทำงานที่บริษัทของตัวเองด้วย เหนื่อยจากงานกลับมาฉันก็แวะเข้าคลับ นั่งดื่มตามประสาผู้หญิงโสดอย่างฉัน
ฉันเคยมีแฟนนะ คบกันมาสองปีได้ แต่ฉันดันจับได้ว่าเขามีกิ๊ก ถึงเราจะเป็นแฟนกัน ไม่ใช่สามีภรรยากันแบบถูกต้องตามกฎหมาย แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ควรทำอยู่ดี ฉันก็เลยบอกเลิกตัดขาดจากผู้ชายคนนั้น แต่ก็ยังโดนตามราวีไม่เลิก น่ารำคาญจริงๆ แหละ
ครืด ครืด ครืด
"ว่าไง"
( คุณณัชชาจะเข้าบริษัทหรือเปล่าคะพรุ่งนี้ )
"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันมีอะไรหรือเปล่า" มันคงต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ถึงขั้นที่เลขาโทรมาหาฉันกลางดึกแบบนี้
( คือว่าคุณพิพัฒน์มารอเจอน่ะค่ะ เมื่อวานตอนที่คุณณัชชาออกไปแล้ว เขาก็มานั่งรอทั้งวันเลยไม่ยอมกลับ ได้แต่บอกว่าจะรอจนกว่าคุณณัชชาจะมาค่ะ )
"ขอบใจมากนะเดี๋ยวฉันจัดการเอง"
( ค่ะคุณณัชชา )
ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงที่จะทำให้ไอ้บ้านั่นเลิกยุ่งกับฉันได้สักที ทั้งที่ตัวเองไปมีคนอื่นเองพอถูกบอกเลิกกลับรับไม่ได้ น่าเบื่อจริงๆ