คุณพ่อเลี้ยง(เดี่ยว)

99.0K · จบแล้ว
น้ำผึ้งสีเลือด
62
บท
12.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตั้งแต่ผมมีลูกผมก็ไม่เคยที่จะเปิดใจให้กับใคร ผมกลัวว่าคนคนนั้นจะรังเกียจลูกของผม แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะหลงระเริงไปกับความสวยงามที่เข้ามาในชีวิต เพราะสิ่งที่ล้ำค่าสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตของผมก็คือลูก น้องทิวนั่นเอง ส่วนฉันก็ไม่เคยคิดที่จะรักใครเหมือนกันเพราะเคยอกหักจากคนรักเก่า มันเลยทำให้ฉันเข็ดขยาดกับความรักที่ใครต่อใครต่างพูด จนได้มาเจอเด็กนักศึกษาที่มาทำงานพาร์ทไทม์ในร้านของฉัน เด็กคนนั้นหน้าตาดีมากๆ เป็นดาราได้เลยล่ะ และมันมีบางอย่างที่ทำให้ฉันอดมองเด็กคนนี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันสนใจมากกว่าเดิมก็คือเด็กน้อยที่พ่วงตามติดเขามาทำงานในทุกๆ วัน เด็กคนนั้นอายุเท่านี้เองแถมยังเรียนอยู่อีกด้วย เขามีลูกแล้วอย่างนั้นเหรอ "ฉันอยากดูแลนายกับลูก" "เราสองคนดูแลกันเองได้ครับ" "แล้วนายอยากให้ลูกนายลำบากหรือไง" "ที่ผ่านมาเราสองคนก็อยู่กันได้ ไม่เห็นจะลำบากอะไรเลยครับ" "แล้วฉันต้องทำยังไง ฉันอยากได้นายจริงๆ" "แต่ผมไม่อยากได้คุณครับ" "....."

นิยายรักโรแมนติกประธานรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษาพ่อเลี้ยง18+

01 เย็นชา

ณ ร้านอาหารกึ่งบาร์

ชายหนุ่มเดินเสิร์ฟอาหารโต๊ะนู้นโต๊ะนี้ไปมาอย่างตั้งใจ และไม่ได้สนใจกับสายตาหรือคำพูดของลูกค้าที่พูดออกมาด้วย ภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลามันกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เหล่าลูกค้าสาวสวยและแม่หม้ายต่างพากันมาติดพันและอยากเลี้ยงดูผู้ชายคนนี้ เนื่องด้วยเขาเป็นนักศึกษาที่มาทำงานพาร์ทไทม์ แต่น้อยนักที่คนจะรู้ว่าเขาพ่วงลูกติดมาทำงานด้วยทุกคืน

"แทน"

"ครับผู้จัดการ"

"ลูกค้าโต๊ะนู้นเรียกน่ะ"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ?"

"ไม่รู้สิลองไปดูก่อน"

"ครับ"

ชายหนุ่มเดินไปยังโต๊ะของลูกค้าตามที่ผู้จัดการบอก ก่อนจะหยุดยืนนิ่งมือกุมอยู่ด้านหน้าด้วยท่าทีที่สงบเสงี่ยม

"ลูกค้ามีอะไรจะเรียกใช้ผมหรือครับ?"

"เราเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟอย่างเดียวหรอ?"

"ครับ"

"หน้าตาดีๆ แบบนี้ ไม่สนใจอยากทำงานอย่างอื่นบ้างหรอ"

"ไม่ครับ"

"ไม่เอากลับไปคิดสักหน่อยหรอ งานที่ฉันจะแนะนำมันไม่ใช่งานยากอะไรแถมยังได้เงินเดือนดีด้วยขึ้นอยู่กับนายจะทำให้คนนั้นประทับใจมากแค่ไหน"

"....." ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งไม่ได้สนใจกับงานที่ลูกค้ากำลังพูดออกมา เพราะเขารู้ว่ามันเป็นงานอะไร แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะสนใจกับงานพวกนี้ ไม่คิดที่จะขายศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกกับเงิน

"นายน่ะหน้าตาดีนะ เป็นดาราได้เลยด้วย ขนาดทำงานแบบนี้ยังได้เป็นตัวท็อปของร้าน ไม่คิดอยากจะเปลี่ยนงานบ้างหรอ?"

"ไม่ดีกว่าครับขอบคุณนะครับสำหรับความหวังดีของลูกค้า แต่งานที่ผมทำอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว และผมก็ไม่ได้ลำบากอะไร ต้องขอโทษด้วยนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ.."

ชายหนุ่มก้มโค้งตามมารยาทก่อนที่จะหมุนตัวหันหลังเดินกลับไปยังจุดที่ตัวเองเดินมาก่อนหน้านี้

"ลูกค้าว่ายังไง?" ผู้จัดการถาม

"ผู้จัดการก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่ครับว่าถ้าผมโดนลูกค้าเรียกไปคุยมันจะหมายถึงเรื่องอะไร"

"พูดตามตรงนะ ฉันว่านายก็หน้าตาดีอย่างที่เขาว่าจริงๆ ทำไมถึงไม่ก็เป็นดาราล่ะ"

"ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกครับ"

"เอ้าๆ ตามใจ อยากทำอะไรเป็นอะไรก็ตัวนายฉันมีหน้าที่แค่คอยแนะนำได้บางส่วนเท่านั้นแหละ"

"ครับ"

"เดี๋ยวคุณณัชชาเขาจะเข้ามาดูร้านนะ คอยช่วยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยด้วยล่ะ"

"ครับ"

"แล้วลูกของนายจะไม่มาวุ่นวายใช่ไหม"

"ไม่หรอกครับ"

แทนต้องพาลูกชายมาทำงานด้วยเนื่องจากไม่มีใครดูแล แต่เขาก็เลือกที่เอาไว้ให้สำหรับลูกชายไม่ให้เข้ามาวุ่นวายในร้านแล้ว และแกก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี

ณัชชาคือเจ้าของร้านของที่นี่ และเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่อีกบริษัทนึง แทนได้ยินแต่ชื่อแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง จึงไม่รู้ว่าเจ้าของร้านหน้าตาเป็นแบบไหน

เวลาต่อมา

"พี่ทิวครับ"

"พ่อ!"

"ยุงกัดหรือเปล่าครับเนี่ย"

"ไม่กัดเลยครับพ่อทายาให้พี่ทิวแล้ว"

"รออีกนิดนะครับพ่อใกล้เลิกงานแล้ว"

"ครับพ่อ"

แทนไม่ได้อยากทำแบบนี้ ไม่ได้อยากให้ลูกชายต้องมานั่งอดนอนเฝ้าตัวเองทำงาน แต่ก็เลือกทางไหนไม่ได้เลย จะทิ้งลูกชายเอาไว้ในบ้านพักคนเดียวก็อันตราย และตัวเองหากไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้เหมือนกัน ทุกอย่างต้องดิ้นรนต่อสู้กันทั้งนั้น

ปึก!

"ว๊าย!"

"ขอโทษครับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?"

"ฉันไม่เป็นอะไร นายล่ะ?"

"ผมไม่เป็นอะไรครับ คุณเองมากกว่าที่ล้ม ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ"

"ไม่เป็นอะไร นายเป็นพนักงานที่นี่หรอ?"

"ครับ"

"อ้อ เดี๋ยวเราก็ได้รู้จักกัน ฉันไปก่อนล่ะ"

แทนมองตามหญิงสาวที่ทิ้งคำพูดให้เขาต้องคิ้วขมวด เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแต่งตัวหรูหราแต่ก็ไม่ได้โป๊ถึงกับไม่น่ามอง ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ถูกอบรมเรื่องการแต่งตัวมารยาทในสังคมมาเป็นอย่างดี

ด้านใน...

"แทนๆ!"

"ครับผู้จัดการ?"

"คุณณัชชามาแล้วนะ"

"อ๋อครับ"

"เลิกงานแล้วต้องรีบกลับบ้านใช่ไหม"

"ครับ ต้องรีบพาพี่ทิวกลับบ้าน แกต้องรีบกลับไปนอนครับพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน"

"อ๋อ งั้นไม่เป็นไร"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ?"

"คือคุณณัชชาเรียกประชุมพนักงานน่ะ สงสัยอยากจะจำหน้าพนักงานมั้ง เธอไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่บ่อยๆ ด้วย คงอยากจะทำความรู้จักกับพนักงานไว้น่ะ"

"อย่างนั้นฝากขอโทษคุณณัชชาด้วยนะครับผมต้องรีบพาพี่ทิวกลับบ้าน"

หลังเลิกงาน

แทนขับรถมอเตอร์ไซค์พาลูกชายกลับบ้านพักของตัวเอง ระหว่างทางแกก็หลับคาอกของแทนไปแล้ว

นี่เป็นกิจวัตรประจำวันที่แทนจะต้องทำทุกวัน มันอาจจะดูเหนื่อยสำหรับคนอื่นมากๆ แต่สำหรับแทนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะเขามีลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจต้องคอยดูแล และทำให้แกมีความสุขมากที่สุดเท่าที่พ่อคนนึงจะทำได้

"หลับฝันดีนะครับพี่ทิว"

**************

"สวัสดีค่ะคุณณัชชา"

"มากันครบแล้วหรอ?"

"ค่ะ มากันครบแล้ว คุณณัชชามองหาใครอยู่หรอคะ?"

"ก่อนหน้านั้นฉันเดินชนกับพนักงานคนนึงน่ะ แต่ฉันไม่เห็นพนักงานคนนั้นอยู่ตรงนี้เลย"

"อ๋อ สงสัยจะเป็นแทน"

"แทน?"

"ใช่ค่ะๆ แต่พาลูกชายกลับไปนอนแล้วก็เลยไม่ได้อยู่ประชุม"

"...."

"แทนฝากมาขอโทษคุณณัชชาอยู่ค่ะ ที่อยู่ประชุมด้วยไม่ได้เพราะต้องรีบกลับ"

"ไม่เป็นไรๆ"

"ค่ะ"

"ฉันคงไม่ได้แวะมาที่นี่บ่อยๆ ก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับพนักงานในร้านเอาไว้น่ะ ไม่ต้องเป็นพิธีการอะไรกับฉันมากหรอกนะ ทำตัวปกติกับฉันเถอะ"

"คุณณัชชาสวยจังเลยนะคะ"

"แหม ไม่ต้องชมกันขนาดนั้นก็ได้"

"พวกเราเคยได้ยินแต่ชื่อของคุณณัชชาแต่ไม่เคยเห็นหน้าของคุณณัชชาสักที คุณณัชชาสวยจริงๆ นะคะ"

"อะๆ สวยก็สวย แล้วนี่ทุกคนมาทำเป็นงานประจำหรือว่างานพาร์ทไทม์กันคะเนี่ย"

"งานพาร์ทไทม์มีแค่ไม่กี่คนค่ะคุณณัชชา หนึ่งในนั้นก็เป็นแทนด้วย รายนั้นต้องดูแลลูกแล้วก็เรียนด้วย มาทำงานพาร์ทไทม์ได้ช่วงเย็นค่ะหลังเลิกเรียนแล้ว" ผู้จัดการตอบ

"อ๋อ..."

"ถ้าอย่างนั้นขอให้ทุกคนสนุกกับการทำงานนะคะ เอาไว้สิ้นปีฉันจะให้โบนัสกับทุกคนเลย ตั้งใจทำงานกันนะคะ ขอให้ยอดขายดิบขายดี"

"ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณณัชชา"

"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ"

พนักงานทุกคนต่างให้ความเคารพ เธอเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายและไม่ถือตัว เป็นกันเองพูดจาถ่อมตน พนักงานเลยรู้สึกชอบและไม่อึดอัดในเวลาที่ได้มองหน้าของเธอ