ตอนที่ 4 อึดอัด
แชะ! แชะ! แชะ!
เสียงลั่นชัตเตอร์ดังขึ้นในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง ผู้เป็นนายแบบสวมกางเกงยีนแบรนด์ดัง เข้าคู่กับเสื้อแจ็คเก็ตหนังขนาดพอดีตัวสีดำนิล ทรงผมเปิดข้างปล่อยตรงกลางให้ยาวจนมัดได้ ถูกเซ็ทปาดขึ้นเบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความเท่ให้ชายหนุ่มอีกเป็นกอง ทุกการเคลื่อนไหวเปี่ยมล้นไปด้วยความมีเสน่ห์ จากที่เคยหล่อดูดีอยู่แล้วยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่
เปรมิกามองซุปตาร์หนุ่มผ่านเลนส์กล้อง ปากก็ออกคำสั่งให้อีกฝ่ายขยับร่างกายตามที่เธอเห็นสมควร ดูเหมือนว่าความเป็นมืออาชีพของเรวัฒน์จะลดดีกรีลง เพราะต้องการยั่วให้ตากล้องสาวหงุดหงิด เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันได้นานแค่ไหน
“ยิ้มหน่อยค่ะคุณเรย์”
ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มก็แสร้งทำเป็นยิ้มแหย ๆ เหมือนไม่เต็มใจ นั่นทำให้เปรมิกาถึงกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงพฤติกรรมขัดใจเธอ มันเกิดขึ้นหลายครั้งจนทำให้การทำงานไม่ลื่นไหล ไม่ใช่แค่ตากล้องสาวที่ไม่ปลื้มกับความเหลาะแหละของซุปตาร์หนุ่ม แต่ผู้จัดการอย่างแอนนาเองก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ปกติเรวัฒน์ไม่เคยเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งจะตั้งใจทำงานจนทุกอย่างฉลุยในครั้งเดียว
“ขอเวลาสักครู่นะคะคุณกอหญ้า” แอนนาเดินเข้ามาหาตากล้องสาว เพราะหวังจะไปจัดการเด็กในสังกัดให้ตื่นตัวขึ้นมาบ้าง
“ได้ค่ะ ฉันเองก็คิดว่าคุณเรย์ต้องการคุณเหมือนกัน” เธอกล่าวขณะจ้องมองซุปตาร์หนุ่มที่เอาแต่ยืนลอยหน้าลอยตา เหมือนไม่ได้สำนึกอะไรเลย
“ขอบคุณค่ะ”
กล่าวแล้วจึงเดินเข้าไปหากลางสตูดิโอ ซึ่งมีฉากหลังเป็นสีขาว พร้อมทั้งจัดแสงไว้เสร็จสรรพ
“ไอ้เรย์! วันนี้แกเป็นอะไรยะ ทำตัวไม่มืออาชีพเลย ไม่สบายหรือเปล่า”
“ผมสบายดี” เจ้าตัวตอบอย่างไม่ยี่หระ
“สบายดีแล้วทำไมไม่ให้ความร่วมมือกับคุณกอหญ้าเลย รู้ไหมมันเสียเวลา แกเป็นอะไรก็บอกมาฉันจะได้หาทางแก้ไขให้”
“ถ้าผมบอกพี่จะทำได้จริง ๆ นะ” อีกฝ่ายยิ้มร้ายราวกับมีแผนในใจ
“ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันจะทำให้” เธอกล่าวอย่างจำยอม เพราะหากไม่ยอมรับปากมีอันต้องกระทบกับงานที่รับไว้เป็นแน่
“ขอเบอร์ตากล้องมาให้ผมหน่อยดิ แล้วผมจะไม่งอแง”
“เอาอีกแล้ว…แกคิดจะทำอะไร คนนี้ฉันว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า ดูท่าทางคุณดลจะสนใจเธอเป็นพิเศษนะ ถ้าเกิดเขาชอบพลอกันขึ้นมาจริง ๆ แกยังจะกล้าแย่งผู้หญิงของเจ้าของค่ายอีกงั้นเหรอ” แอนนาเตือนด้วยความหวังดี เพราะเธอสังเกตได้ว่าณดลมักจะแอบส่งสายตามองตากล้องสาวอยู่ตลอดเวลา แถมยังยิ้มราวกับคนกำลังมีความรักเสียอย่างนั้น
“ยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อยทำไมจะแย่งไม่ได้ คนระดับผมผู้หญิงคนไหนก็อยากเข้าหาอยู่แล้ว แค่ขยิบตาก็วิ่งตามเป็นพรวน” เจ้าตัวพูดอย่างมาดมั่นในความหล่อของตัวเองซะเต็มประดา นั่นทำให้ผู้จัดการสาวมองด้วยสายตาที่หมั่นไส้เหลือทน
“หลงตัวเองเข้าไป ฉันมั่นใจว่าคนอย่างคุณกอหญ้าไม่มีทางพิศวาสแกแน่ เพราะไม่อย่างนั้นคงจะเล่นหูเล่นตาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ”
“เหอะน่า…ขอมาให้ผมนะ พี่สัญญาแล้ว”
“เออ ๆ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะเข้าไปขอมาให้”
“ถ้าพี่ไม่ทำตามล่ะก็ เสร็จงานนี้ผมจะรีบกลับบ้านเลยคอยดู”
“ไม่ต้องมาขู่ฉันหรอก ฉันรู้สันดานแกดีว่าเอาแต่ใจแค่ไหน”
แอนนาสะบัดบ๊อบใส่แล้วเดินตรงมาหากอหญ้า เพื่อบอกว่าตอนนี้เธอได้เคลียร์กับซูเปอร์สตาร์หนุ่มเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
การถ่ายภาพวันนี้เป็นงานที่กอหญ้ารู้สึกอึดอัดมากที่สุด เพียงแค่เห็นรอยยิ้มกระชากใจของเรวัฒน์ก็ทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวในอดีต เจ้าหล่อนต้องใช้ความพยายามขั้นสูงเพื่อต่อสู้กับความอ่อนแอในใจ ไม่ให้มันออกมาเพ่นพ่านจนแสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้
“ผมขอดูภาพที่ถ่ายได้ไหมครับ” ลั่นชัตเตอร์ครั้งสุดท้ายแล้ว เรวัฒน์ก็เดินตรงมาหาตากล้องสาว จงใจเดินเข้ามาในระยะประชิดจนเปรมิกาต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ