ตอนที่ 5 ไม่สะดวก
“เข้าไปดูในคอมฯดีกว่าค่ะ เพราะภาพที่ถ่ายถูกส่งเข้าไปในนั้นหมดแล้ว” เธอตอบแล้วถือกล้องจะเดินออกไปจากเขา
หมับ!
เรวัฒน์รั้งแขนหญิงสาวอย่างถือวิสาสะ แสยะยิ้มร้าย ยักคิ้วท้าทายอย่างน่าหมั่นไส้
“ปล่อย! ฉันไม่สนุกด้วยนะคะ”
“แต่ฉันสนุก ยอมรับมาเถอะว่าเราเคยรู้จักกัน…กอหญ้า”
“ฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนค่ะ รู้เพียงแค่ว่าคุณคือซูเปอร์สตาร์ชื่อดังเท่านั้น อย่าพยายามเลยค่ะ เพราะถ้ายังไม่หยุดฉันคงคิดว่าคุณเป็นพวกโรคจิต ชอบแต๊ะอั๋งผู้หญิงไม่เลือกหน้า” เธอกล่าวเน้นเสียง ตบท้ายด้วยการฉีกยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน แกะมือหนาออกจนสำเร็จ
“คิดว่าตัวเองสวยขึ้นเลยกล้าต่อปากต่อคำสินะ แต่ก่อนยังครางใต้ร่างให้ฉันฟังอยู่บ่อย ๆ เลย” ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจว่าหากเจอเปรมิกาอีกครั้งจะเอ่ยคำขอโทษ แต่พอมาเห็นท่าทีเมินเฉย ทำเป็นไม่รู้จักกัน กลับทำให้เรวัฒน์อยากจะเอาชนะ อยากจะกำราบให้เธออยู่ในโอวาทอีกครั้งเสียอย่างนั้น คำขอโทษคงไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์อย่างนี้แน่นอน
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร ขอตัวนะคะ” เจ้าหล่อนหมุนตัวจะเดินออกไปจากตรงนั้น
เรวัฒน์จะเดินตามหลังไปแต่ทว่าผู้จัดการส่วนตัวกลับเดินมาขวางทางไว้เสียก่อน เจ้าตัวจึงจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ
“แกจะทำประเจิดประเจ้ออย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด อยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะไปขอเบอร์คุณกอหญ้าให้ แล้วก็อย่าแผลงฤทธิ์จนทำให้เสียการเสียงานเด็ดขาด” แอนนาชี้หน้าเตือนด้วยคำเด็ดขาด จากนั้นเดินตามหลังเปรมิกาไปทันที
เรวัฒน์ได้แต่ยืนพรูลมออกจากปากเบา ๆ เมื่อถูกเตือนสติก็ทำให้เจ้าตัวคิดอะไรได้บ้าง บางทีเปรมิกาอาจจะเกลียดเขามากจนไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย ไม่รู้ทำไมความผิดในใจถึงยังไม่เคยจางหายไปเสียที ทั้งที่เปรมิกาไม่ใช่ผู้หญิงรายแรกที่โดนเขากระทำอย่างนี้ อาจเป็นเพราะความใสซื่อและความจริงใจของเธอในตอนนั้น ที่ยังคิดติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม แต่ด้วยความมักมากทำให้เขามองผ่านผู้หญิงคนนี้ไป
เปรมิกาเดินหน้าบึ้งออกมาจากสตูดิโอ พยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แต่ในระว่างทางกลับมีใครบางคนเดินตามหลังมาด้วย
“คุณกอหญ้าคะ”
“อ้าว! คุณแอนนามีอะไรหรือคะ” เจ้าหล่อนฉีกยิ้มโดยอัตโนมัติเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“คือ…ฉันอยากจะขอนามบัตรคุณกอหญ้าหน่อยค่ะ เผื่อว่ามีโอกาสได้ร่วมงานกันอีก ฉันชอบฝีมือการถ่ายภาพของคุณมาก ๆ”
“ฉันไม่มีนามบัตรหรอกนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นขอเบอร์ติดต่อก็ได้ค่ะ”
เปรมิกาทำหน้าคิดเล็กน้อย เธอกลัวว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไปจะตกอยู่ในมือของเรวัฒน์ นั่นจะทำให้ชีวิตเธอไม่มีความสงบสุขเหมือนแต่ก่อนแน่นอน
“ก็ได้ค่ะงั้นรอสักครู่” ในที่สุดเจ้าหล่อนก็ยอมให้ตามมารยาท เพราะถึงยังไงเธอก็ต้องเอาปากท้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกสาวที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากแลกเบอร์โทรศัพท์กันแล้ว เปรมิกาก็ถือโอกาสขอตัวไปพบณดลอีกครั้ง ก่อนจะไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียน
“คุณดลคะ”
“อ้าว! เสร็จแล้วเหรอครับ ผมมัวแต่คุยกับลูกค้าเลยไม่มีเวลาอยู่ช่วยดูจนจบงาน ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เสร็จงานแล้วเลยมาลา จะรีบไปรับแก้มใสที่โรงเรียนค่ะ”
“ผมลืมไปเลยว่าใกล้จะถึงเวลาไปรับลูกแล้ว งั้นเราไปพร้อมกันเลยดีไหมครับ”
“หมายถึง…ไปรถคันเดียวกันหรือคะ”
“ใช่ครับ”
“แต่ฉันขับรถมาเองนะคะ คงไม่สะดวกเท่าไร”
“อ้อ…ผมเองก็ลืมไปเลย งั้นเจอกันที่โรงเรียนนะครับ”
“ได้ค่ะ…งั้นขอตัวเลยละกันนะคะ”
เจ้าหล่อนยกมือไหว้แล้วสะพายกระเป๋าออกมาจากสตูดิโออย่างเร่งรีบ นั่นเพราะกลัวจะบังเอิญเจอกับผู้ชายที่ไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในตอนนี้