ตอนที่ 2 เสือ
“ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ” เธอถามแล้วลุ้นรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ผู้ชายครับ ตอนนี้กำลังดังมากด้วย ผมคิดว่าคุณน่าจะเป็นแฟนคลับเขาด้วยล่ะ เพราะซุปตาร์คนนี้มีแฟนคลับสาว ๆ คลั่งไคล้เกือบค่อนประเทศ” ณดลกล่าวด้วยรอยยิ้ม ราวกับภูมิใจในตัวศิลปินในสังกัดมากเหลือเกิน
ได้ยินอย่างนั้นเธอก็พอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร ‘เรย์’ นักร้องและนักแสดงที่มาแรงสุดในตอนนี้ เธออยากจะปฏิเสธงานนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่คงสายไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก
“กรี๊ด!!!! พี่เรย์”
“พี่เรย์ขาขอถ่ายรูปหน่อย”
“พี่เรย์ยิ้มหน่อยค้า…”
เสียงดังมาจากนอกสตูดิโอ ทำให้คนทั้งสองต้องหันไปมองยังต้นเสียง เปรมิกาหัวใจเต้นแรงเมื่อรู้ว่าจะได้เจอหน้าเขาอีกครั้งในรอบห้าปี ยังคิดไม่ออกเลยว่าหากเจอหน้ากันจะต้องปั้นสีหน้ายังไง
“มาโน่นแล้วครับ นายแบบของคุณกอหญ้า”
“พี่เรย์” เจ้าหล่อนเปรยออกมาเบา ๆ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นดีใจเลยสักนิด นั่นทำให้ณดลเกิดความสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่ครับ…เรย์…ที่ใคร ๆ ก็อยากจะเจอตัวจริง อยากจะได้ร่วมงานด้วย แต่ทำไมดูเหมือนคุณกอหญ้าไม่ดีใจเลยล่ะครับ”
“เอ่อ…สีหน้าฉันมันบอกคุณอย่างนั้นเหรอคะ” เธอเริ่มได้สติจึงเปลี่ยนสีหน้าให้ดีขึ้น ฉีกยิ้มน้อย ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายคลายความสงสัย
“ใช่ครับ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ฉันแค่ตื่นเต้นไปหน่อยที่จะได้ร่วมงานกับซุปตาร์ระดับประเทศ มันเหมือนฝันมากจริง ๆ ต้องขอบคุณสำหรับงานดี ๆ อย่างนี้นะคะ” เธอพยายามหาเหตุผลมาอ้าง ควบคุมตัวเองไม่ให้แสดงพิรุธออกมา ไม่ยอมให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเธอและเรวัฒน์เคยรู้จักกันมาก่อน
เปรมิกาได้แต่หวังว่ารูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป จะทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถจดจำเธอได้ ตอนนั้นเธอสวมแว่นหนาเตอะ ใบหน้าไม่เคยแต่งแต้มเครื่องสำอาง เป็นเพียงผู้หญิงที่ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย แตกต่างจากเขาที่หล่อยังไงวันนี้ก็ยังคงหล่อไม่เปลี่ยน แต่ทว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความหล่อคือความระยำ ที่เธอได้สัมผัสมันมาด้วยตัวเอง และคิดว่าคงมีผู้หญิงอีกหลายคนที่โดนเขากระทำเหมือนอย่างเธอ
หลังจากฝ่าด่านแฟนคลับนับร้อยชีวิตเข้ามาได้แล้ว เรวัฒน์ก็เดินหน้าบึ้งเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวสาวประเภทสองด้วยความเร่งรีบ เขามีเวลาสำหรับการถ่ายภาพเพียงไม่ถึงสองชั่วโมง ก็ต้องไปงานอีเวนต์ร้องเพลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่งในห้างหรู
“ผมขี้เกียจปั้นหน้ายิ้มให้กับผู้หญิงพวกนั้นเต็มทีแล้วนะพี่แอนนา” ซุปตาร์หนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายซะเต็มประดา ขณะเร่งฝีเท้าเดินเข้ามาในสตูดิโอ สวมแว่นสีชาอำพรางสายตาคมกริบที่หากหญิงใดได้สบตาแล้ว เจ้าหล่อนจะต้องหลอมละลายได้ในพริบตาเลยทีเดียว
“อย่าพูดอย่างนี้อีกเด็ดขาดนะ หากใครได้ยินเข้ามีแต่พังกับพัง เป็นซุปตาร์ต้องระวังคำพูดรู้ไหมยะ” ผู้จัดการสาวสองรีบทักท้วงด้วยสีหน้าจริงจัง
“รู้แล้วน่า…ก็พูดเฉพาะเวลาอยู่กับพี่นี่ล่ะ”
การเป็นซูเปอร์สตาร์มันคือความฝันอันสูงสุดของเรวัฒน์ก็จริง แต่พอได้ขึ้นมาอยู่ถึงจุดนี้แล้วก็ทำให้ชีวิตเขาไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาซะเลย จะไปไหนมาไหนก็ต้องถูกสายตาจับจ้องตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งการเข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำสาธารณะ จะดีหน่อยก็ตอนอยู่ที่บ้านเท่านั้น บางทีเจ้าตัวก็อยากหนีไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง สถานที่ซึ่งไม่มีคนรู้จักแม้แต่คนเดียว แต่มันคงเป็นไปได้ยากเพราะตอนนี้ชื่อ เรย์ เรวัฒน์ ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ยันผู้สูงอายุเลยทีเดียว
“ดีมาก…สิ้นเดือนนี้ฉันจะเคลียร์คิวให้ละกัน ไปเที่ยวพักผ่อนสักอาทิตย์ดีไหม”
“ผมนึกว่าจะไม่ได้ยินประโยคนี้ซะแล้ว เห็นรับงานมาไม่เคยถามผมสักคำ” เจ้าตัวบ่นให้
“ที่ทำอย่างนั้นก็เพราะแกไม่ใช่หรือไอ้เรย์ ฉันอยากให้แกมีงานมีเงินไม่ขาดสาย น้ำขึ้นก็ให้รีบตักสิยะ”
“ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีเวลาใช้เงินแล้ว ไม่รู้จะหาไปทำไมเยอะแยะ”
“เลิกบ่นได้แล้ว รีบเดินเข้าไปทักทายคุณดลก่อน ไม่นึกว่าวันนี้จะมาดูงานด้วยตัวเอง”
เรวัฒน์หันไปมองก็เห็นเจ้าของค่ายที่ตัวเองสังกัดอยู่ยืนคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง แต่งตัวทะมัดทะแมง สวมเสื้อยีนสีซีดเข้ารูปทับเสื้อยืดเอวลอยสีขาวเอาไว้ เรือนผมยาวดัดเป็นลอนสยายตัวลงมา ทำให้ดูเซ็กซี่ไม่หยอก แม้จะเห็นใบหน้าไม่ชัดเจนแต่ทว่าทำให้เขาสนใจได้ไม่น้อย
“ใครยืนอยู่กับคุณดล เซ็กซี่โคตร ๆ” ความเป็นแบดบอยที่อยู่ในสายเลือดยังคงไม่จางหาย เจ้าตัวยกนิ้วชี้ขึ้นมาไล้ริมฝีปากเบา ๆ ยกยิ้มร้ายราวกับเสือที่เห็นเหยื่ออันโอชะ