3
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เกาเหมียวหรงคิดเเล้วคิดอีก ว่ายอมเสียความบริสุทธิ์ ให้บุรุษสักคน ดีกว่าเสียตัวให้ตาแกจางหวัง
"คุณหนูจะไปจริงรึ" เสี่ยวหงถามเจ้านาย
เกาเหมียวหรงไม่ใส่ใจสาวใช้รีบก้าวเข้าไปในหอร้อยบุปผา
เสียงดนตรีบรรเลง เหล่าสาวงามร่ายรำบนเวทีอย่างเฉิดฉาย
เเม่เล้าเหนียง เจ้าของหอร้อยบุปผาต่างต้อนรับหนุ่มน้อยรูปงามทั้งสอง
ทั้งสองถูกจัดให้นั่งตรงกลางจะได้เห็นสาวงามอย่างชัด เกาเหมียวหรงโยนก้อนเงิน ให้เเม่เล้า ไม่นานนัก อาหารรสเลิศก็เต็มโต๊ะ พร้อมทั้งสาวงามแนบซ้ายเเละขวา
"ได้ยินมาว่า วันพรุ่งนี้ ท่านเเม่ทัพเทพสงครามหน้าหยก จะเดินทางมาที่เมืองโจว ยังหาสาวงามปรนนิบัติมิได้เลย"
เกาเหมียวหรงได้ยินคำพูดนี้ผ่านฉากกั้น หลังนางไล่สาวงามไปหมดเเล้ว เหลือเพียวเสี่ยวหง
เทพสงครามหน้าหยกจะมารึ
"ข้าได้ยินว่า เขาเป็นบุรุษที่หล่อเหลาเเละ หื่นราคะยิ่งนัก
เช้าวันต่อมาหลังจากเมื่อคืนนี้ นางกลับจากหอร้อยบุปผา เกาเหมียวหรงก็คิดเเล้วคิดอีก นางจะต้องใช้ท่านแม่ทัพเป็นเกราะกำบัง หลีกหนีจากชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ให้ได้
กองทัพทหารม้าของท่านแม่ทัพผู้เกรียงไกร ย่างเข้ามาในเมืองโจว
บุรุษผู้อยู่บนหลังม้า ใบหน้าหล่อเหลา คมคาย ดวงตามีเสน่ห์ยิ่งนัก ทำให้เหล่าสตรีตกอยู่ในภวังค์ เมื่อสบตาคู่นั้น
อวี้เยว่แม่ทัพใหญ่แห่งเเคว้นได้รับมอบหมายให้มาปราบโจรภูเขาที่ออกดักปล้นชาวบ้าน ในอำเภอเมืองโจว ค่ำคืนนี้ เขาจึงได้พักที่หอร้อยบุปผา หรือหอคณิกาอันดับหนึ่ง ของเมืองโจว
สาวงามใบหน้าหยดย้อย แต่ละคนออกมาร่ายรำ ทำให้ชายหนุ่มพอใจนัก
เขาในวัยยี่สิบห้าปี ตอนนี้ มีอนุสามคน ขาดแต่ภรรยาเอก เขามีคู่หมั้นแต่เขาไม่อยากหมั้นหรือ แต่ง คิดแต่จะรับอนุไปเรื่อย ๆ
สกุลอวี้ได้ก่อตั้งราชวงศ์จินมาหลายรุ่น ได้รับพระราชทานยศ ข้าวของเงินทอง อวี้เยว่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านหนานอ๋อง สมญานามเทพสงครามหน้าหยก
"คืนนี้ หาสาวงามมาปรนนิบัติข้า ของามที่สุดในใต้หล้า" เสียงกึกก้องประกาศออกไป ทำให้เเม่เล้าเหนียง รีบจัดหาสาวงามที่สุดให้เขา
แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ เพราะพวกนางงามไม่พอ เเม่เล้าเหนียงร้อนรนใจยิ่ง
หญิงงามผู้หญิงเดินเข้ามาในหอร้อยบุปผา แม่เล้าเหนียงรอดตายเเล้ว
บรรยากาศภายในห้องอึมครึมนัก เนื่องจากสาวงามไม่ถูกใจหนานอ๋อง
"ท่านเเม่ทัพ มาเเล้วเจ้าค่ะ สาวงาม" เเม่เล้าเหนียงเดินเข้ามาก่อน พร้อมสาวงามเดินตามหลัง
สตรีนางนั้นรูปร่างบอบบาง ไม่สิ ทรวงอกของนางทลักออกมา ภายใต้ผ้าคลุมสีแดง ใบหน้างามนั้นปกปิดไปด้วยผ้าขาวบางครึ่งหนึ่ง เห็นเพียงดวงตากลมโตราวกลับดวงจันทราบนฟากฟ้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนกายของนาง ทำให้หนานอ๋องมีสีหน้าที่พอใจ
"พวกเจ้าออกไปให้หมด"
เพียงไม่นาน ในห้องเหลือเพียงสาวงามกับหนานอ๋อง
เกาเหมียวหรงในยามนี้ ตื่นเต้นยิ่งนัก นางเลือดหนีออกจากจวนนายอำเภอทิ้งให้เสี่ยวหงกับเเม่นมหยงเฝ้าเรือน
ขอเพียงนางทำเรื่องนี้สำเร็จ ท่านพ่อก็มิสามารถบังคับนางออกเรือนได้
มือหนาคว้าเอวบางมากอด บดขยี้ริมฝีปากอย่างร้อนแรง กลิ่นกายของนางช่างกระตุ้นให้เขามีอารมณ์เหลือเกิน
เกาเหมียวหรงมิใช่ไม่รู้เรื่องอย่างว่า นางในโลกปัจจุบัน เคยมีแฟนมาบ้าง รู้เพียงว่า ครั้งแรกจะตั้งเจ็บ นางหลับตา เขาจูบทั่วใบหน้า มือหนาถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ คนงามไม่รู้สึกตัวเลยเเม้แต่น้อย เครื่องห่มตัวล่วงลงข้างล่าง เหลือเพียงร่างงามประดุจหยก
เขายอมรับว่าคณิกานางนี้ร่างกายงดงามนัก ร่างหนาประกบร่างบาง นิ้วมือสิบนิ้วสอดประสานกันไปทั่วทั้งคืน
แก่นกายความเป็นบุรุษสอดแทรกกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง สาวงามหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใหญ่และยาวมาก
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ชายหนุ่มพลิกร่างงามเป็นอีกท่าหนึ่ง
"อ้า ท่าน"
"ข้าชอบร่องตรงนี้"
คนบ้าอะไรแหย่เข้าไปด้านหลังจนปวดเเสบไปหมด เกาเหมียวหรงพยายามกลั้นน้ำตาไว้
เสียงตบกั้นงอนงามดั้งขึ้น สาวงามร้องอย่างเจ็บปวด แม่ทัพที่พ่วงตำแหน่งอ๋อง ช่างป่าเถื่อนเหลือเกิน
ยามเช้าเกาเหมียวหรงรีบจากไปทันที
อวี้เยว่พลันตื่นขึ้นมากวาดสายตามองไปโดยรอบพบว่าร่างบางได้หายไปแล้ว อีกทั้งหยกพกเขาก็หายไปด้วย เขาจึงสั่งคนไปนำตัวเเม่เล้าเหนียงขึ้นมาพบว่า สตรีคนนั้น จู่ ๆก็เข้ามาของานทำเเล้ววันนี้ก็มาจากไป
อวี้เยว่ตบโต๊ะดังสะนั่น
เขาสั่งให้คนไปสืบความหาสตรีนางนั้น เวลาผ่านไปหนึ่งวันจึงทราบว่า นางคือบุตรธิดาคนโตของนายอำเภอเกาเซิง
บุตรสาวนายอำเภอกล้ามาก
จวนนายอำเภอยามนี้ เกาเหมียวหรงสารภาพความจริง นางได้เสียกับท่านแม่ทัพเทพสงคราม
ฝ่ามือเกาเซิงตวัดลงไปใบหน้าบุตรสาวคนโต
"สารเลวนัก เจ้าทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร"
สายตาคนเป็นบิดา มองจี้หยกพกที่เขียนคำว่า เยว่
"นี่มันอะไรกัน พี่ใหญ่ไปได้เสียกับท่านแม่ทัพตอนไหน" เกาเหมยหรงได้ยินข่าวรีบเข้ามาในห้องโถงเรือนหลักทันที นางรับมิได้ นังสารเลวจะแต่งกับพ่อค้าจางหวัง อยู่เเล้วอีกไม่กี่วัน
มาวันนี้ นังสารเลวได้จี้หยกพกของท่านเเม่ทัพมาได้อย่างไร